เปิด 5 ตำนานป่าอาถรรพ์ชวนสยองขวัญจากทั่วโลก
เมื่อพูดถึงป่าไม้แล้ว คนเราก็มักจะนึกถึงสถานที่เขียวชอุ่ม รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและอากาศแสนบริสุทธิ์ซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรดาสัตว์ป่าน้อยใหญ่มากมายในแวบแรก แต่ในแวบต่อมา ภาพสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ไร้ซึ่งแสงไฟและมนุษย์นั้น ก็ได้สร้างความรู้สึกลึกลับ น่ากลัว วังเวงให้กับใครหลาย ๆ คนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะป่าหลายแห่งที่เต็มไปด้วยเรื่องราวลี้ลับอันหาข้อพิสูจน์ไม่ได้...
พอเริ่มพูดถึงเรื่องแบบนี้แล้วถ้าหากใครกำลังนึกภาพผืนป่าที่ลึกลับน่ากลัวอยู่ละก็ ขอเชิญมาขนลุกกันต่อ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมเรื่องราวของป่าอาถรรพ์ที่มีตำนานชวนสยองขวัญ 5 แห่งทั่วโลกมาฝากกัน แต่ละแห่งล้วนการันตีความลึกลับ-สยองขวัญ จากผู้ไปเยือนมาแล้ว
ป่าฟรีทาวน์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา (Freetown State Forest)
ดูเผิน ๆ เหมือนเป็นป่าธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อก้าวเท้าเข้ามาเยือนที่ป่าฟรีทาวน์แห่งนี้แล้ว คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์สยองจากบรรดาวิญญาณแค้นของชนเผ่าวามพาน็อกโบราณผู้ล่วงลับ ที่เชื่อกันว่าเคยเป็นชนเผ่าผู้ปกครองผืนป่าแห่งนี้ พวกเขายังวนเวียนหลอกหลอนผู้คนอยู่ในป่าจวบจนปัจจุบัน
นอกจากนั้น ยังมีรายงานคดีฆาตกรรมอีกหลายครั้ง โดยเชื่อกันว่า คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นภายในป่าแห่งนี้ เป็นการบูชายัญปิศาจของลัทธิบูชาซาตาน มีการพบสัญลักษณ์ดาว 5 แฉกบนพื้น และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เขียน
นอกจากนี้ยังมีรายงานการค้นพบจานบิน บิ๊กฟุต สัตว์ประหลาด ยักษ์ และสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอีกมากมาย เพราะป่าแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ สามเหลี่ยมบริดจ์วอเตอร์ อันโด่งดังและขึ้นชื่อในเรื่องสิ่งลี้ลับพอ ๆ กับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเลยทีเดียว
ภาพจาก southcoastghost
ป่าเอปปิ้ง เมืองเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ (Epping Forest)
เป็นป่าที่ขึ้นชื่อในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมมากมาย โดยเฉพาะฆาตกรชื่อดัง ดิ๊ก เทอร์พิน ที่เคยมาแอบซ่อนตัวที่ป่าแห่งนี้อยู่เป็นเวลานาน และเขาได้นำศพของเหยื่อมาฝังไว้ที่นี่เป็นจำนวนมากด้วย
จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ว่ากันว่าวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในป่าแห่งนี้จะปรากฏตัวหลังพระอาทิตย์ตกดิน โดยบ้างก็เล่าว่าเคยได้ยินเสียงกลองดังมาจากในความมืด ขณะที่กำลังตั้งแคมป์อยู่ในป่า บ้างก็ว่าเคยเห็นชายไร้หัว เดินดุ่ม ๆ อยู่ริมถนน นอกจากนี้ยังมีผีผู้หญิงที่มักจะโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว และกระโจนเข้าใส่รถที่ขับผ่านป่าแห่งนี้ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ภาพจาก hauntedrooms
ป่าโหยหวน หมู่บ้านพลัคลี่ย์ ประเทศอังกฤษ (Screaming Wood)
ชื่อทางการคือ ป่าเดริง กินพื้นที่ทางใต้ของหมู่บ้านพลัคลี่ย์ หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าเฮี้ยนที่สุดในประเทศอังกฤษ เหตุที่ได้ชื่อป่าโหยหวน นั่นเป็นเพราะเลือดที่ไหลออกมาจากต้นไม้แต่ละต้นในป่าแห่งนี้ รวมถึงยังมีเสียงกรีดร้องดังมาจากป่าในช่วงเวลาดึกสงัด ซึ่งเป็นเสียงที่ชาวบ้านคุ้นเคยกันดี
เชื่อกันว่าป่าแห่งนี้ถูกสิงโดยวิญญาณของโจรที่ชาวบ้านเคยจับตัวได้ และพามาขึงกับต้นไม้ก่อนใช้ดาบคร่าชีวิตเขา ซึ่งโจรหนุ่มรายนั้นได้กรีดร้องโหยหวนเป็นเวลานานจนกระทั่งสิ้นลมหายใจ และนั่นอาจเป็นที่มาของเสียงร้องครวญครางที่ชาวบ้านได้ยินอยู่ทุกวันก็เป็นได้
ภาพจาก essexghosthunters
ป่าโฮยาบาชู เมืองทรานซิลเวเนีย ประเทศโรมาเนีย (Hoia Baciu Forest)
เป็นสุดยอดป่าลึกลับมากอาถรรพ์ของประเทศโรมาเนีย มีรายงานการค้นพบเหตุการณ์เหนือธรรมชาติมากมายที่นี่ สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดที่สุดคือ รูปร่างแปลกประหลาดของต้นไม้ในป่าแห่งนี้ พวกมันมีลักษณะโค้งงอผิดธรรมชาติ รวมถึงยังมีบรรยากาศชวนอึดอัดและวังเวงที่หาสาเหตุไม่ได้
ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเล่าว่า นักท่องเที่ยวที่มายังป่าแห่งนี้ มักวิ่งหนีออกมาจากป่าด้วยท่าทีหวาดกลัวสุดขีดพร้อมร่องรอยไหม้สีดำเกรียมที่ผิวหนัง เมื่อถามซักไซ้ถึงที่มาที่ไป ปรากฏว่าพวกเขาทุกคนต่างลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าจนหมด
นอกจากนี้ ดร.อเล็กซานดรู ซิฟต์ ได้ถ่ายภาพแสงไฟประหลาดบนท้องฟ้าในป่าแห่งนี้ได้ จึงบังเกิดเป็นเรื่องราวและกระแสความเชื่อที่ว่า ในป่าแห่งนี้อาจเป็นฐานทัพลับ ๆ ของมนุษย์ต่างดาวที่มายังโลกก็เป็นได้ และที่ผ่านมาพวกมันอาจจะจับเอาสัตว์ป่าและคนในละแวกไปทดลอง เช่นกรณีของเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่ง ที่ต้อนแกะกว่า 200 ตัวเข้าไปในป่า แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้พบเห็นเขาและฝูงแกะอีกเลย
ภาพจาก raetselhafte-wirklichkeit
ป่าอาโอกิกาฮาระ ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น (Aokigahara Forest)
ป่าอาโอกิกาฮาระ เป็นผืนป่าพื้นที่ราว 35 ตารางกิโลเมตรที่ทอดตัวอยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากมองเผิน ๆ แล้วก็เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ผืนหนึ่ง แต่ใครเลยจะเชื่อว่าป่าแห่งนี้มีผู้มาฆ่าตัวตายเฉลี่ยปีละ 100 คน !!!
ปรากฏการณ์ฆ่าตัวตายนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักเขียนเซโช มัตสึโมโต ได้เขียนนิยายเรื่อง คุโรอิ ไคจู ขึ้นมา และใช้ป่าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตัวละคร 2 ตัวมาฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นมาก็มีคนแห่มาฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้อยู่บ่อย ๆ จนต้องมีการติดป้ายเตือนใจประเภท "ชีวิตมีค่า โปรดคิดอีกครั้ง" หรือ "คิดถึงครอบครัวก่อนจะทำอะไรลงไป" เลยทีเดียว
มีการรายงานจากนักท่องเที่ยวว่าได้พบเห็นสิ่งเหนือธรรมชาติในป่าแห่งนี้บ่อยครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นวิญญาณของเหล่าผู้ที่มาฆ่าตัวตายก่อนเวลาอันควร นอกจากนี้บรรดานักท่องเที่ยวยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่ป่าแห่งนี้มีบรรยากาศอึดอัด วังเวง และชวนขนลุกอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะเป็นตอนกลางวันแสก ๆ ก็ตาม
ภาพจาก tofugu
โพสต์โดย : nampuengeiei9760