แชร์ประสบการณ์สุดสยอง
ถึงแม้ว่าเรื่องผี..วิญญาณ... หรือสิ่งลี้ลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ จะเป็นเรื่องที่เมื่อได้รับชมรับฟังทีไร ก็อดที่จะหลอนตามไม่ได้ซะทุกที แต่ทั้งนี้ เรื่องสยอง ๆ นี่แหละค่ะ หลายคนน่ะชอบฟังกันนัก รู้ทั้งรู้ว่าฟังแล้วจะนอนไม่หลับ รู้ทั้งรู้ว่าดูแล้วจะหลอนจนไม่กล้าอาบน้ำ แต่ก็ทำยังไงได้ พวกเรื่องผี เรื่องวิญญาณ แต่ละเรื่องนั้น มันทั้งลุ้น ทั้งตื่นเต้น น่าติดตามซะจริง ๆ
ส่วนเรื่องที่เราหยิบยกมาเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องผีในตำนานที่ขึ้นชื่อว่าน่ากลัวที่สุด ในการจัดอันดับของรายการ 5 มหานิยม โดยเป็นเรื่องของ "ผีช่องแอร์" จากรายการเดอะช็อค ซึ่งเรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักดนตรีที่หาดใหญ่ เกิดขึ้นเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2534
โดยคุณบิวได้ถ่ายทอดเรื่องราวสุดสยองที่เขาไม่มีวันลืม... ให้ฟังว่า เขากับเพื่อนรวม 6 คน เป็นนักดนตรีอยู่ที่หาดใหญ่ ฟอร์มวงเล่นดนตรีตอนกลางคืนตามร้านทั่วไป ในคืนที่เกิดเหตุพวกเขาก็ไปเล่นดนตรีตามปกติ ซึ่งจะเล่นช่วง 3 ทุ่ม ถึงตี 1 และมีเวลาพักเบรคในช่วง 5 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน ทั้งนี้ ทางร้านก็ได้จัดเตรียมห้องพักให้ตามปกติ แต่ว่าในวันดังกล่าว โรงแรมแห่งนี้มีห้องว่างเพียงห้องเดียวคือห้อง 409 เท่านั้น
คุณบิว เล่าต่อว่า พอถึงเวลาพักตนและเพื่อนก็ขึ้นไปเล่นไพ่กันตามปกติ ซึ่งมีตนและคนในวงเล่นกัน 4 คนเท่านั้น อีก 2 ที่เหลือ นั่งลุ้น นั่งดูอยู่ข้าง ๆ ระหว่างที่ตนนั่งเล่นอยู่ เป้ เพื่อนร่วมวงก็หันไปเจอผ้าผูกติดไว้กับช่องแอร์ และก็บอกว่า สงสัยเขาเพิ่งมาซ่อมแอร์เลยเอาผ้ามาผูกติดไว้ เพื่อให้รู้ว่าแอร์ใช้ได้ดีแล้ว แต่พอมันนั่งไปสักพักก็เหมือนเอะใจอะไรบางอย่าง เลยลุกขึ้นไปดึงผ้านั้นออก แต่พอมันยิ่งดึง ผ้านั้นก็ยิ่งยาวออกมา ยาวจนถึงพื้นเลยทีเดียว ส่วนตนก็นั่งเล่นไพ่ไปก็ไม่ได้สังเกตอะไรมันมากมาย สักพัก...มันก็หยิบเก้าอี้มาปีน เพื่อเอาแผ่นตะแกรงช่องแอร์ออก พอมันเงยหน้าไปมอง มันก็รีบลงมาจากเก้าอี้ ซึ่งแววตาค่อนข้างตระหนก และได้พูดว่า... กูไปละนะ มีธุระลงไปข้างล่างก่อน เพื่อน ๆ ก็ถามว่าอ้าวไม่ลงไปพร้อมกันล่ะ แต่มันก็ยืนยันว่าจะลงไปข้างล่างตอนนั้น เดี๋ยวนั้นอย่างเดียว ส่วนเพื่อนที่เหลือก็หันหน้ามาพูดกันว่า มันเป็นอะไรของมันวะ
จากนั้นมือกลองอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้เล่นไพ่ ก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงแหงนขึ้นไปดูช่องแอร์ ซึ่งตนก็เหลือบมองไปเห็น มันทำสายตาแบบอึ้ง ๆ และนิ่งไปพักนึง แล้วก็หันมาบอกกับตนว่า เดี๋ยวขอลงไปดูเป้ก่อน เผื่อเป้มีอะไรให้ช่วย ส่วนตนและเพื่อนคนที่เหลือก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเดินไปดูบ้าง...
งานนี้ เพื่อนของตนลุกขึ้นไปดูก่อนสองคน โดยคนนึงจับเก้าอี้ไว้ เพราะเป็นเก้าอี้หมุน ๆ กลัวจะเลื่อนตก เลยไปช่วยจับ แต่แล้วพอมันขึ้นไปบนเก้าอี้ ทั้งสองคนก็แหงนหน้าขึ้นดูพร้อม ๆ กัน จากนั้นมันก็ลงจากเก้าอี้ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน และไม่ได้เอะอะหรือโวยวายอะไร
คุณบิว เล่าต่อว่า ตอนนั้นเหลือกันอยู่สองคน เลยลุกขึ้นไปดูพร้อม ๆ กัน พอตนเงยหน้าไปมอง เป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดสีขาว ๆ เงา ๆ เหมือนสาวกลางคืน อยู่ในท่าเก้ ๆ กัง ๆ คือ
ช่องแอร์มันเป็นช่องเล็ก ๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นใช้มือและเท้าของเขายันกับช่องแอร์ ซึ่งเป็นท่าทางที่น่ากลัวมาก แล้วสบตาพวกเราสองคนเข้าอย่างจัง จากนั้นพวกเราสองคนเดินจับมือกันแน่น แต่ไม่วิ่งและพยายามเดินให้เร็วที่สุด โดยที่ไม่เก็บของเคลียร์ห้องอะไรเลย ลุกออกมาแบบทันที พอมาถึงข้างล่าง ตนก็เรียกถามหาคนเก่าคนแก่ที่อยู่ที่นี่ สักพักก็มีแม่บ้านคนหนึ่งเดินมา ซึ่งตนก็ถามว่า ป้าเคยทำความสะอาดโรงแรมนี้บ้างหรือเปล่า แล้วเคยขึ้นไปบนชั้นเก้าหรือไม่ แล้วตนก็เล่าเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นให้ฟัง ด้านป้าแม่บ้านเมื่อฟังจบก็บอกว่า เมื่อปีที่ผ่านมา โรงแรมแห่งนี้เคยเปิดตู้กระจกเพื่อให้ออฟเด็ก แล้วมีเสี่ยคนหนึ่งออฟเด็กขึ้นไปที่ห้องนั้น จากนั้นก็เกิดเหตุฆาตกรรมฆ่าตัดคอ โดยเอาหัวไปแขวนไว้บนช่องแอร์ ซึ่งตอนที่ตำรวจไปพบนั้นเจอแต่ตัว 3-4 วัน กว่าจะเจอส่วนหัว และปกติก็ไม่เคยให้ใครเข้าไปพัก แต่ทำไมวันนี้ถึงเปิดก็ไม่รู้...
คุณบิว เล่าต่อว่า เรื่องผีว่าน่ากลัวแล้ว แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นสยองกว่า เพราะหลังจากที่ตนและเพื่อน ๆ ในวงเจอผีช่องแอร์ในโรงแรม ผ่านมา 3 วัน เป้ ก็ฆ่าตัวตาย โดยเป้พาแฟนไปเคลียร์ที่ร้านอาหาร ตนก็นั่งกินข้าวอยู่ห่างจากตรงนั้นประมาณ 3 เมตร สักพักก็ได้ยินเสียงปัง! คือ เป้เอาปืนกรอกปากฆ่าตัวตาย พอตนเห็นก็วิ่งไปอุ้มแต่ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ปืนทะลุเข้าท้ายทอยเสียชีวิตคาที่
ต่อมาอีก 5 วัน มือกลองคนที่เจอผีเป็นคนที่ 2 ก็เสียชีวิต โดยยามที่ห้องเช่าได้มาบอกว่า ไม่เห็นเปิดประตูมาตั้งแต่เช้า พอยามแงะเปิดเข้าไป ก็พบว่าเขากลายเป็นศพไปแล้ว ซึ่งเขาเสียชีวิตด้วยการกินยาฆ่าตัวตาย จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ คนที่เห็นเป็นคนที่ 3 ก็ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตาย จากนั้นอีก 4 วัน อีกคนก็กระโดดน้ำตาย ซึ่งพวกเขาตายติด ๆ กัน จนตนกับน้องอีกคนหลอนไปเลย ตอนนั้นที่ตนไปส่งน้องที่ออกจากห้องพร้อมกันไปอเมริกา ยังพูดกันอยู่เลยว่า ไม่รู้ว่าเขาจะเอาตัวใครไปก่อนกัน
ทั้งนี้ คุณบิว เล่าอีกว่า พอเพื่อนในวงทยอยเสียชีวิตทีละคน ตนก็ได้ไปบอกญาติ ๆ ซึ่งเขาก็พาตนไปสะเดาะเคราะห์ ไปทำบุญทุกอย่าง นอนในโลงศพตายโหง ให้พระสวดสามวันก็เคยมาแล้ว และเมื่อเล่าให้พระฟัง ท่านก็บอกว่า อย่าพยายามไปคิดถึงเขา เพราะวิญญาณที่อาฆาต ถ้าหากใครคิดถึงเขา เขาก็สามารถไปได้ในทุกทีที่มีคนนึกถึง ส่วนตนนั้นจะหักห้ามใจไม่ให้คิดถึงก็ไม่ได้ เพราะตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา ตนจำเขาได้ และนึกถึงเขามาตลอด แต่ทั้งนี้ ตนก็พยายามทำบุญให้เขามาเสมอ
ว่าแต่ว่า... เพื่อน ๆ มีเรื่องราวลี้ลับ หรือเหตุการณ์แปลก ๆ ที่ชวนขนหัวลุก แถมยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ หาเหตุผลไม่เจอบ้างหรือเปล่า... ถ้ามีเรามาแชร์ประสบการณ์สยองต้อนรับวันฮาโลวีนกันดีกว่า...
*คำเตือน... โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน!! และหันซ้ายแลขวาให้ดี เพราะไม่งั้นอาจจะมีคนอ่านเป็นเพื่อนคุณอยู่ข้าง ๆ ก็เป็นได้
โพสต์โดย : nampuengeiei9760