Social :



สันหลังมังกร ตรัง-สตูล ที่เที่ยวสุดอัศจรรย์กลางทะเลอันดามัน

04 ก.พ. 60 22:02
สันหลังมังกร ตรัง-สตูล ที่เที่ยวสุดอัศจรรย์กลางทะเลอันดามัน

สันหลังมังกร ตรัง-สตูล ที่เที่ยวสุดอัศจรรย์กลางทะเลอันดามัน

     สันหลังมังกรตรัง-สตูล ชวนเที่ยวตรังและสตูล ชมความงดงามของท้องทะเลตรังและสตูล ที่เที่ยวทะเลอันดามันสุดอัศจรรย์ เนินทรายยาวกลางทะเล สวยงามอลังการ ต้องไปเที่ยวชมกันสักครั้ง
 
           จังหวัดตรังและจังหวัดสตูล เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของภาคใต้ที่มีท้องทะเลสวยงามจับตา ทั้งหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าเขียวมรกตใสแจ๋ว พร้อมทั้งโลกใต้น้ำที่งดงามไม่แพ้ท้องทะเลที่ไหนในเมืองไทย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการค้นพบที่เที่ยวแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่กลางท้องทะเลอย่างสันหลังมังกรหรือเนินทราย ที่โผล่ขึ้นมาอยู่กลางทะเลในยามน้ำลด โดยในท้องทะเลตรังและสตูลจะพบสันหลังมังกรหลายแห่งมากจะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ


ภาพจาก kunanon / shutterstock.com


ภาพจาก kunanon / shutterstock.com

1. สันหลังมังกรเหลือง ปะเหลียน 





ภาพจาก เฟซบุ๊ก สันหลังมังกรตรัง

           สันหลังมังกรเหลือง  ตั้งอยู่บริเวณหมู่ 2 บ้านหยงสตาร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน เป็นสันทรายสีเหลืองทองสวยงามจับตาที่โผล่ขึ้นกลางทะเล ทอดตัวยาวเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สันทรายแห่งนี้สามารถมองเห็นมาจากเกาะสะบัน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
 
2. สันหลังมังกรหยก
 
           สันหลังมังกรหยก  เป็นอีกหนึ่งสันหลังมังกรของท้องทะเลตรังที่มีความสวยงาม ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านเสียมไหม ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน มีความโดดเด่นตรงที่เป็นเนินดินโคลนผสมกับเปลือกหอยน้อยใหญ่ บนเนินทรายจะเป็นลอนคลื่นสวยงาม มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ยามที่แสงส่องลงมากระทบกับสันหลังมังกร จะสามารถมองเห็นเป็นสีเขียวมรกต
 
3. สันหลังมังกรทับทิมสยาม หรือราชาสันหลังมังกรแห่งท้องทะเลอันดามัน 

          สันหลังมังกรแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณท้องที่หมู่ 4 บ้านหาดทรายทอง ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน มีความยาวมากกว่า 5 กิโลเมตร และกว้างมากถึง 700 เมตร ถือได้ว่าเป็นสันหลังมังกรที่ใหญ่และยาวที่สุดในท้องทะเลตรัง บนพื้นสันทรายจะมีสีน้ำตาลเข้ม เนียนละเอียด แต่สิ่งที่อัศจรรย์อีกหนึ่งสิ่งของสันทรายแห่งนี้ก็คือปูแดง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นปูตัวเล็ก ๆ เดินไป-มามากมายบนเนินทราย พบได้ทั่วไปบนผืนทราย ที่นี่จึงกลายเป็นบ้านของปูแดงไปโดยปริยาย
 
4. สันหลังมังกรนิล

           สันหลังมังกรนิล  ตั้งอยู่หมู่ 4 ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ ไม่ไกลจากชายหาดทะเลสำราญมากนัก โดยบริเวณสันทรายแห่งนี้จะเป็นดินโคลนสีดำ ผสมกับวัชพืชและเปลือกหอย มองเห็นเป็นสีดำนิล มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร
MulticollaC

 
5. สันหลังมังกรเผือก

           สันหลังมังกรเผือก  เป็นอีกสันหลังมังกรที่มีความสวยงามมาก ๆ ของจังหวัดตรัง ตั้งอยู่บริเวณหมู่ 3 บ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง เป็นเนินทรายที่โผล่ขึ้นกลางทะเล ทอดตัวยาวตั้งแต่หัวเกาะบ้านมดตะนอยลงไปประมาณประมาณ 3 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะของพื้นเนินทรายจะเป็นสีขาว ชมพู และเทา เมื่อมองจากด้านบนอากาศ จะเห็นเป็นสันทรายสีขาวสุดโดดเด่น เนื้อทรายจะนุ่มเนียนละเอียด น่าสัมผัสสุด ๆ

6. สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ






ภาพจาก เฟซบุ๊ก สันหลังมังกรตรัง
 
          ห่างจากสันหลังมังกรเหลืองไม่ไกลเท่าไร ก็จะพบกับสันหลังมังกรอีกแห่ง นั่นก็คือ สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ  ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน สันหลังมังกรแห่งนี้จะแตกต่างจากสันหลังมังกรเหลือง ด้วยบนเนินจะเป็นเปลือกหอยน้อยใหญ่ มีสีเหลืองทองอร่ามงามตา ยิ่งในเวลาที่เนินเปลือกหอยเหล่านี้สะท้อนแสงแดดยามเช้าและยามเย็น ก็จะส่องแสงประกายระยิบระยับ สวยงามอลังการมาก ๆ สันหลังมังกรเกล็ดทองคำนี้มีความยาวทั้งหมดประมาณ 2 กิโลเมตร

7. สันหลังมังกรตันหยงโป จังหวัดสตูล 



          สันหลังมังกรตันหยงโป ตั้งอยู่บริเวณตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล มีลักษณะเป็นสันทรายยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ถ้าช่วงที่ลดเต็มที่ เราก็จะเห็นว่าสันทรายแห่งนี้มีลักษณะเป็นโค้งคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ บริเวณสันทรายจะเป็นเปลือกหอยเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อน เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจึงกลายเป็นสีเหลืองทองสวยงาม 

           ทั้งนี้การเที่ยวชมสันหลังมังกร สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละวันจะมีช่วงเวลาน้ำขึ้น-ลง ที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นควรที่จะเช็กข้อมูลการท่องเที่ยวสันหลังมังกรกับผู้ประกอบการนำเที่ยวก่อนเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม โทรศัพท์ 0 7528 8593 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล โทรศัพท์ 0 7521 1058 

           ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวตรัง ก็อย่าลืมแวะเวียนไปชมความมหัศจรรย์ของท้องทะเลตรังกันสักครั้งนะคะ แล้วไปเช็กอินบนสันหลังมังกรสวย ๆ ด้วยกันค่ะ :)



 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
trang.go.th, เฟซบุ๊ก ททท. ตรัง

โพสต์โดย : nampuengeiei9760