Social :



แทบไม่อยากเชื่อ!! เรื่องจริงหรือแค่ความเชื่อ “ทางสามแพร่ง” เป็น “ทางผีผ่าน” รู้แล้วขนลุกสุดผวา!? (รายละเอียด)

28 ก.พ. 60 23:02
แทบไม่อยากเชื่อ!! เรื่องจริงหรือแค่ความเชื่อ “ทางสามแพร่ง” เป็น “ทางผีผ่าน” รู้แล้วขนลุกสุดผวา!? (รายละเอียด)

แทบไม่อยากเชื่อ!! เรื่องจริงหรือแค่ความเชื่อ “ทางสามแพร่ง” เป็น “ทางผีผ่าน” รู้แล้วขนลุกสุดผวา!? (รายละเอียด)

ตามความเชื่อของคนโบราณทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างบอกกันว่า ทางสามแพร่งนั้นเป็นตำแหน่งไม่ดี อัปมงคล 

สิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้เป็นเพียงความเชื่อ แต่เป็นความจริงตามหลักการพื้นฐาน เนื่องจากการสร้างบ้านในตำแหน่งทางสามแพร่งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลมต่อการเกิดอุบัติเหตุ เกิดความวุ่นวาย ก่อให้เกิดเสียงรบกวน แสงไฟสาดส่องเข้าบ้านในยามค่ำคืน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางสามแพร่งดังกล่าว จะหมายถึงเฉพาะบ้านที่อยู่ติดถนนใหญ่ หรือเป็นเส้นทางหลักที่มีรถสัญจร ยิ่งมีรถปริมาณมาก ขับเร็วมาก ยิ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ดี ผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกไม่สบายใจ ว้าวุ่นกังวลใจอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้จะรบกวนต่อการใช้ชีวิต ส่งผลให้ชีวิตไม่เป็นสุขได้ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้แย่เสมอไป ขึ้นอยู่กับว่าชีวิตความเป็นอยู่เดิมของบ้านที่ติดกับทางสามแพร่งนั้นเป็นอย่างไร

ถ้าเป็นบ้านก็จะทำให้สมาชิกในครอบครัวเจอเรื่องร้ายต่างๆนานา เป็นร้านค้าหรือสำนักงานก็จะทำให้การไม่เจริญรุ่งเรื่อง ล้มละลาย ถึงขั้นปิดกิจการกันได้ แต่ถ้าหากสังเกตบ้าน ร้านค้า หรือ อาคารที่ตรงกับทางสามแพร่งนั้นแล้วก็ไม่ได้มีบ้าน ร้านค้าหรือกิจการจะอยู่บริเวณทางสามแพร่งแล้วไม่ดีไม่เจริญรุ่งเรื่องหรือมีปัญหาต่างๆนานาทุกร้าน ยังมีบ้าน ร้านค้าหรือกิจการที่เจริญรุ่งเรื่องในบริเวณทางสามแพร่งหลายแห่ง ซึ่งหากพิจารณาฮวงจุ้ยที่ตรงกับทางสามแพร่งนั้นเป็นทำเลไม่ดีจริงแล้ว บ้าน อาคาร ร้านค้า กิจการต่างๆที่ตรงทางสามแพร่งนั้นจะต้องมีปัญหา ไม่เจริญรุ่งเรื่องกันหมดทุกที่ถึงจะบอกได้ว่าฮวงจุ้ยตรงทางสามแพร่งไม่ดีแน่นอน

ความเป็นจริงแล้วทางสามแพร่งนั้น เปรียบเสมือนช่องลมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นช่องบีบให้อากาศหรือลมนั้นเข้ามาสะสมได้มากเป็นพิเศษ และส่วนถนนด้านที่มีรถยนต์วิ่งเข้าหาบ้านหรืออาคารตรงทางสามแพร่งก็จะรับพลังงานรุนแรงเป็นพิเศษอีกด้วยเนื่องจากรถยนต์เวลาวิ่งเข้ามาก็จะลากกระแสพลังงานมาด้วย สังเกตได้เมื่อรถยนต์วิ่งผ่านเราใกล้ๆนั้นเราจะรู้สึกถึงแรงลมที่รถวิ่งผ่านไปโดยลมเหล่านี้ก็เป็นพลังงาน ดังนั้นบริเวณทางสามแพร่งจะได้กระแสพลังงานสะสมจากที่รถยนต์วิ่งแล้วลากเข้ามาหาตัวบ้านหรืออาคารบริเวณนั้นเป็นพิเศษ จึงสรุปได้ว่าบ้านและอาคารที่อยู่ตรงทางสามแพร่งมีโอกาสได้รับพลังงานมากและรุนแรงเป็นพิเศษ แต่ว่าการรับพลังที่มากนั้นไม่ได้แปลว่าต้องร้ายเสมอไป


ดังนั้นก็แปลว่าบ้านหรืออาคารใดๆ ที่อยู่ในตรงทางสามแพร่งก็จะมีช่วงจังหวะเวลาราวๆทุก 20 ปีที่ทางสามแพร่งนั้นเป็นพลังงานในองศาทิศทางที่ดีหรือร้ายสลับกันไปได้ ซึ่งซินแสบางคนบอกว่าทางสามแพร่งนั้นไม่ดีนั้นเพราะต้องการหลีกเลี่ยงการคำนวณทิศทางว่าเป็นพลังงานจากทิศดีหรือทิศร้ายในแต่ละช่วงยุคสมัยนั้นเอง หรือแม้ว่าคำนวณว่าทิศทางสามแพร่งนั้นเป็นองศาทิศทางที่ดีแต่พอช่วงยุคสมัยหรือราวๆทุกรอบ 20 ปีเปลี่ยนไปทิศทางนั้นอาจเป็นทิศร้ายจึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ซินแสบางคนไม่ชอบทางสามแพร่งเป็นพิเศษ 

แต่สำหรับซินแสบางคนก็จะมีมุมมองต่างๆ กันเนื่องจาก ทางสามแพร่งนั้นหากอยู่ในทิศทางที่ดีแล้วก็ส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรื่องเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่องที่พลังผ่านมาอย่างรุนแรงเป็นพิเศษยิ่งกระตุ้นพลังที่ดีมากดังนั้นสำหรับมุมมองของซินแส บางคนอาจเลือกทำเลบ้าน ร้านค้า หรืออาคารต่างๆในตรงกับทางสามแพร่งในทิศทางองศาที่ดีเพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรื่องถึงที่สุด แต่ทั้งนี้ซินแสก็ควรจะต้องบอกช่วงระยะเวลาที่ดีของฮวงจุ้ยที่ตรงทางสามแพร่งนี้ว่ามีระยะเวลาที่ดีนานแค่ไหนให้กับผู้ที่ต้องการใช้สถานที่นั้นให้รู้

แต่ทั้งนี้ กรณีทางสามแพร่งในโครงการบ้านจัดสรร ไม่สามารถนำทฤษฎีทางสามแพร่งมาใช้ในหลักฮวงจุ้ยได้ทั้งหมด เนื่องจากลักษณะการอยู่อาศัยภายในโครงการบ้านจัดสรร จำกัดพื้นที่ความเป็นส่วนตัวไว้แล้ว ผู้ที่เข้ามาภายในโครงการบ้านโดยหลักจะเป็นผู้อยู่อาศัย หากเป็นโครงการบ้านขนาดใหญ่ตั้งแต่ 100 ยูนิตเป็นต้นไป และตำแหน่งทางสามแพร่งตั้งอยู่ตั้งแต่ต้นทางของโครงการ ตรงส่วนนี้อาจมีผลกระทบได้ แต่หากเป็นโครงการขนาดเล็กหรือทางสามแพร่งที่อยู่ท้ายโครงการ ตำแหน่งดังกล่าวจะไม่นับว่าเป็นจุดอัปมงคลแต่อย่างใด เนื่องจากโดยปกติแต่ละวันค่อนข้างมีรถผ่านเข้าออกน้อยมาก หรือหากผ่านเข้ามาก็จะขับกันอย่างช้าๆ เท่านั้น แม้ว่าทางสามแพร่งภายในโครงการบ้านจะไม่ได้มีผลใดกับฮวงจุ้ย แต่เชื่อได้ว่าบางท่านก็ยังอาจมีความกังวลใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย  จึงขอปิดท้ายด้วย วิธีแก้เคล็ดทางสามแพร่ง ซึ่งมีวิธีการไม่ยากเลย

1.ทำกำแพงบ้าน กำแพงบ้านในตำแหน่งดังกล่าว ควรออกแบบให้เป็นกำแพงที่สามารถปกปิดได้ เหมาะกับลักษณะแบบกำแพงปูนด้านล่างปิดทึบ ด้านบนสลับด้วยวัสดุอื่นๆ เพื่อความสวยงาม ติดไฟไว้ตามเสากำแพงเพื่อให้แสงสว่างยามค่ำคืน

MulticollaC

2.ตำแหน่งประตูรั้ว ประตูรั้วบ้านควรจะต้องอยู่ในตำแหน่งเยื้องจากทางที่พุ่งเข้ามา อาจต้องคำนวณดูว่า บ้านด้านใดกินพื้นที่ทางสามแพ่งมากกว่ากัน ให้เลือกทางที่กินพื้นที่น้อยที่สุดเพื่อเป็นการหลบมุม และไม่ควรเปิดประตูทิ้งไว้ เปิดเฉพาะช่วงเวลาเข้าออกเท่านั้น

3.เสริมรั้วต้นไม้ ต้นไม้เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาฮวงจุ้ยได้ เพราะต้นไม้นับเป็นเกราะป้องกันอีกชั้นควบคู่กับกำแพงบ้าน ซึ่งในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะช่วยลดพลังงานที่ไม่ดีให้เบาลงได้ ไม่แนะนำให้กระจกอยู่ตรงกับประตู เพราะจะทำให้โชคที่กำลังจะเข้ามาสู้ร้านเราสะท้อนออกไปหมด หากนำหลักความจริงเข้ามาวิเคราะห์ ต้นไม้ช่วยในการกรองฝุ่น แสงสาดส่องจากรถยนต์ บดบังตัวบ้านได้อย่างดี ควรเลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะกับการทำรั้ว เช่น ต้นโมก ต้นแก้ว ต้นชา หรือไม้ยืนต้นอื่นๆ

4.จัดสวนหน้าบ้าน พื้นที่หน้าบ้านควรใช้เป็นพื้นที่ว่างสำหรับการจัดสวน ตำแหน่งบ้านร่นระยะเข้าไป หลักการดังกล่าวไม่เพียงแก้ฮวงจุ้ยได้ แต่ยังเหมาะกับการเสริมฮวงจุ้ยให้กับบ้านทั่วไปอีกด้วย บ้านที่ดีควรมีพื้นที่สวนหน้าบ้าน ไม่ควรให้บ้านอยู่ชิด ติดรั้วมากจนเกินไป

5.ทำทางเท้า หากเป็นโครงการบ้านจัดสรร โดยทั่วไปนิยมทำทางเท้าไว้ให้แล้ว แต่หากไม่มี เจ้าของบ้านสามารถทำเป็นทางเท้าเพิ่มเติมได้เช่นกันครับ อาจนำกระถางต้นไม้มาประดับตกแต่งให้แลดูสวยงาม มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

เรื่องราวของฮวงจุ้ยนั้น เป็นข้อมูลที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น การจะบอกได้ว่าแบบไหนดี แบบไหนไม่ดี จำเป็นต้องดูตามความเหมาะสมของสถานที่นั้นๆ สำหรับบ้านภายในโครงการจัดสรรที่เป็นทางสามแพร่ง สามารถซื้อขาย หรืออยู่อาศัยได้เป็นปกติ

ขอแถมเคล็ดอีกนิด หลักฮวงจุ้ยแนะนำว่าให้ วางกระจกเอาไว้ทั้งสองฝั่งซ้ายขวาเหมือนเป็นการเพิ่มโชคสองชั้นเพิ่มลูกค้าเป็นดับเบิ้ลนั่นเอง และที่สำคัญกระจกที่แตกร้าวไม่ควรใช้ต่อเพราะเป็นความเชื่อของโบราณที่ว่า เมื่อเราส่องกระจกที่แตก ชีวิตเราก็จะแตกร้าวเหมือนกระจก แถมอีกนิดว่ากระจกที่นำมาติดควรเห็นทั้งตัวไม่ควรเห็นแค่หน้าถึงลำคอ ไม่เช่นนั้นจะเป็นดังคำที่กล่าวว่า "กระจกตัดคอ" ส่วนในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นสามรถเลือกได้ตามศรัทธาแต่มีข้อห้ามอยู่ว่า ห้ามวางไว้ใต้คานใต้บันได

จะว่าไปแล้วจุดดังกล่าวยังมีข้อดีกว่าแปลนที่มีบ้านเคียงข้างอยู่ติดกันอย่างแออัด ทั้งทางด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง แต่หากเป็นทางแยก พื้นที่หน้าบ้านจะโปร่งโล่ง สามารถรับลมได้ดีกว่าอีกด้วย และบางโครงการตำแหน่งดังกล่าวขายยาก ทางโครงการจึงมักลดราคา ผู้อยู่อาศัยสามารถสร้างบ้านในราคาต่ำกว่าปกติ เรียกได้ว่าเป็นโอกาสซื้อที่ดินถูกสำหรับผู้รู้เลย




ที่มา www.siamdrama.com

โพสต์โดย : nampuengeiei9760