หากพูดถึงประสบการณ์การเที่ยวสวนสัตว์ในแบบที่เราเคยเจอก็คือ เดินหรือนั่งชมสัตว์แต่ละชนิดที่อยู่ในกรงขัง ซึ่งเรียกได้ว่าสวนสัตว์เกือบทุกแห่งจะเป็นแบบนี้ แต่ได้มีโอกาสไปเที่ยว สวนสัตว์เปิด ซาฟารีปาร์ค กาญจนบุรี ต้องบอกเลยว่ารู้สึกสนุกและตื่นเต้นมาก เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวสวนสัตว์ที่เราไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนในประเทศไทย น่าจะเป็นที่นี่เพียงแห่งเดียวที่เราสามารถได้ให้อาหารสัตว์แบบใกล้ชิดอารมณ์คล้ายกับนั่งรถส่องสัตว์ในแอฟริกาที่เราจะเห็นสัตว์น้อยใหญ่อยู่ใกล้เพียงนิดเดียว
สวนสัตว์เปิด ซาฟารีปาร์ค แอนด์แคมป์ กาญจนบุรี เป็นสวนสัตว์เปิดแนวธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่น ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อพลอย ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 3086 (กาญจนบุรี-บ่อพลอย) ประมาณกิโลเมตรที่ 21 จะเห็นป้ายสวนสัตว์เปิดทางซ้ายมือ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00–17.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 70 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท ที่นี่มีสัตว์นานาชนิด เช่น กวาง หมีควาย สิงโต เสือดาว ม้าลาย ยีราฟ นกกระจอเทศ เป็นต้น การเข้าไปชมสวนสัตว์จะมีรถนำเที่ยวพาเข้าไป เป็นรถบัสคันเล็กน่ารัก หน้าตาคล้ายกับรถรับส่งนักเรียน โดยเราสามารถนั่งรถและให้อาหารสัตว์ได้ มีไกด์คือ คนขับที่คอยอธิบายจุดต่างๆให้เราฟัง รถจะได้ไม่มีออกเป็นรอบค่ะ แต่ทางสวนสัตว์จะนับตอนมีคนขึ้น โดยให้รอไม่เกิน 10 นาที จะมีลูกค้ากี่ท่านก็ออกค่ะ โดยการเที่ยวชมใช้เวลาประมาณ 10 นาที จะนำรถส่วนตัวเข้าไปได้แต่ทางสวนสัตว์จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่มีรอยขีดข่วนจากสัตว์ค่ะ เพราะตามที่บอกว่าที่นี่คือ สวนสัตว์เปิดสัตว์จะวิ่งรายล้อมเข้ามาที่รถเราแบบใกล้ชิดถึงรถเลย เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ใช้บริการรถบัสดีกว่าเพราะทางสวนสัตว์ให้บริการฟรีอยู่แล้ว
สำหรับใครที่อยากให้อาหารมีขายอาหารใส่กระจาดพลาสติก เป็นแครอทโดยต้องซื้อเพิ่ม ราคา 1 ชุด มี 4 กระจาดๆ ละ 100 บาท ก็แล้วแต่เราว่าจะซื้อเท่าไหร่
จุดเข้าชมภายในสวนสัตว์มีทั้งหมด 7 จุด แบ่งเป็นส่วนโดยมีประตูกั้นและแยกสัตว์แต่ละชนิดออกจากกัน ข้อแตกต่างของสวนสัตว์เปิดที่นี่กับสวนสัตว์เปิดในเมืองไทยที่อื่นๆ คือ สัตว์ทั้งหลายจะเดินเข้ามาใกล้รถของเราเพื่อมาขออาหาร ได้ป้อนได้ถ่ายภาพและสัมผัสกันแบบใกล้ชิด โดยที่ไม่มีกรงมาขวางกั้นไว้ จุดแรกคือ กวาง ตอนแรกเห็นกวางแล้วค่อนข้างน่าสงสารพอสมควรเพราะบางตัวผอมมาก เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับที่นี่ค่อนข้างน่าเห็นใจค่ะ เพราะเจ้าของทำสวนสัตว์ด้วยใจรักจริงๆ และด้วยสถานที่ที่อยู่ออกมาอีกเส้นซึ่งไม่ได้เป็นย่านท่องเที่ยวของเมืองกาญแบบที่อื่น ทำให้คนรู้จักและมาเที่ยวน้อย บางปีก็ขาดทุนแต่ก็ยังสู้ต่อค่ะ ด้วยราคาค่าเข้าที่แจ้งไปข้างต้น สำหรับเราไม่แพงเลยค่ะ อาหารอะไรก็ไม่แพง เพราะฉะนั้นเรามาเที่ยวกระจายรายได้ให้กับที่นี่เยอะๆถือว่ามาเลี้ยงให้อาหารสัตว์ด้วยได้บุญเพิ่มอีก ซึ่งเอาจริงๆ ในเส้นทางอำเภอบ่อพลอยก็มีที่เที่ยวเกิดใหม่ที่น่าสนใจเยอะหลายแห่งแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรือสุพรรณหงส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดห้วยกระเจา หรือพระปางเขาฝน วัดทิพย์สุคนธาราม ที่อยู่ในโปรเจคตำนานเขาเล่าว่าของการท่องเที่ยวในปีหน้า
ซึ่งจริงแล้วที่นี่ไม่ได้ปล่อยให้สัตว์อดยากค่ะ มีให้อาหารเป็นรอบอยู่แล้ว แต่เราว่าที่กวางอยู่ในสภานแบบนี้อาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่ค่อนข้างแห้งแล้และร้อนมากด้วยทำให้บางทีมันอาจไม่สบายตัว เพราะกวางบางพันธุ์นำมาจากต่างประเทศซึ่งอาจชินกับสภาพอากาศเย็นมากกว่า เจ้ากวางน้อยพอมันเห็นเรามันก็วิ่งตามมาเพื่อกินอาหารที่เราให้
มาถึงจุดต่อไปประตูกั้นก็เปิดออกโซนนี้คือ เป็นที่อยู่ของหมีควาย มีเขียนป้ายไว้หน้าประตูทุกจุดว่าเวลาชมสัตว์ห้ามลงจากรถเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายได้ นั่งมองและให้อาหารมันจากบนรถก็เพียงพอแล้วค่ะ
เห็นตัวดำใหญ่โต กำลังนั่งกินมะละกออย่างเอร็ดอร่อย
อีกตัวก็นอนแช่น้ำเย็นสบาย
โซนต่อไป เป็นที่อยู่ของเสือ มีอยู่ประมาณ 3-4 ตัว อุบส์ เห็นกันแบบใกล้ชิดจากรถแบบนี้เลย ตัวแรกนอนอยู่ใต้แคร่ไม้ลวดลายสวยเลยทีเดียว ส่วนอีกตัวก็นั่งเล่นอยู่ในพื้นที่ของมัน
มีเสือแล้วก็ต้องมีสิงโต เป็นของคู่กัน ผ่านมาอีกโซนก็เป็นที่อยู่ของสิงโต มีอยู่หลายตัวมากค่ะ ตัวแรกเห็นพวกเราก็หันมามองใหญ่เลย แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะมาสิ่งไล่รถหรืออะไรน่ะค่ะ สัตว์ทุกตัวในนี้ค่อนข้างเชื่องและคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว เพรามีมาชมแบบนี้ทุกวัน ลักษณะนิสัยและสัญชาติญาณของความเป็นสัตว์ป่าก็น้อยลงไปด้วย
สังเกตได้ว่า มีรถเจ้าหน้าที่เข้ามาคอยดูความเรียบร้อยมันก็นอนเล่นแบบไม่สนอะไรเลย คือ คงชินกันแล้วจริงๆ
ส่วนตัวนี้นอนอยู่เดียวดาย คุณลุงคนขับรถบอกว่ามันแก่มากแล้วอยู่มานานกว่าตัวอื่น
โซนต่อไป คือ เสือดาว นอนเล่นอยู่บนก้อนหิน ลายสวยมาก เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเสือดาวแบบใกล้ชิดขนาดนี้ โดยที่เราไม่ได้กลัวอะไรเลย เพราะตัวมันเองก็ไม่ได้มีท่าทีดุร้ายอะไรค่ะ นอนมองพวกเราแบบเป็นชินมาก ไม่ได้มาแยกเขี้ยวขู่หรืออะไรเลยแม้แต่น้อย
อีกตัวก็เดินเล่นอยู่ในพื้นที่ของมัน พอเห็นพวกเรามาก็สะบัดบ๊อบเดินหันหลังกลับทันที
มาถึงโซนต่อไป เป็นที่อยู่ของกวางกลุ่มที่ 2 ค่ะ อยู่กันเยอะและหลายตัวบางตัวก็อ้วนท้วมสมบูรณ์ บางตัวก็ผอมไปตามภาพ สัตว์ที่นี่ทุกตัวก็ดูโอเคหมดค่ะ ยกเว้นแต่กวางที่เป็นพันธุ์จากต่างประเทศที่จะผอมซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน แต่เราก็สันนิษฐานกันเองว่ามันอาจจะร้อนและชอบอากาศที่ชุ่มชื้นมากกว่ากวางที่อยู่ในโซนร้อน หรือ อย่างสัตว์แบบสิงโตหรือเสือสามารถอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนแบบซาฟารีได้
และก็มาถึงจุดสุดท้าย เห็นขายาวกำลังเดินมาเลย นั่นก็คือ ที่อยู่ของยีราฟและม้าลาย
มาถึงตรงนี่แหละ ที่เป็นไฮไลท์ความสนุกของการมาเที่ยวสวนสัตว์แห่งนี้เลย นั่นก็คือ เราจะได้ป้อนอาหารยีราฟแบบใกล้ชิด
บางตัวก็เอาหัวยื่นเข้ามาภายในรถ เพื่อเข้ามาหาอาหาร สร้างความสนุกและตื่นเต้นให้กับพวกเราทุกคนในรถมากค่ะ เพราะไม่เคยเจอการเที่ยวสวนสัตว์แบบนี้มาก่อน ตอนแรกแอบกลัวกันเล็กน้อยแต่พอซักพักเริ่มชินกลายเป็นหัวเราะกันทั้งคัน ไม่ต้องห่วงว่ามันจะมาทำร้ายหรืออะไร มันแค่โผล่คอมากินแครอทในกระจาดเท่านั้น มันเป็นมิตรกับเรามาก สามารถป้อนอาหารให้มันได้เลย กินอย่างน่าเอ็นดูมาก
นอกจากยีราฟแล้วก็มีเข้าม้าลายวิ่งเข้ามากินอาหารที่รถด้วย นี่ถ้ามันคอยาวแบบยีราฟก็คงโผล่คอมาเหมือนกัน
อาหารในกระจาดของเราหมดแล้เจ้ายีราฟก็ยังคงด้อมๆ มองๆ อยู่ แต่มันก็ไม่โผล่หัวเข้ามาแล้ว เหมือนมันรู้เลยค่ะว่าไม่มีอาหารให้มันกินแล้วน่ะ
โซนนี้นอกนอกจากยีราฟ และม้าลายแล้ว มีนกฟลามิงโก้ด้วย
ชมสัตว์ครบหมดทุกโซนก็มาถึงทางออกแล้วค่ะ มีเจ้านกกระจอกเทศมาคอยส่งเราที่หน้าประตู
ลงจากรถแล้วก็มาล้างมือให้สะอาดกันซักหน่อย
เดินต่อไปเพื่อไปชมการแสดงจะเข้ ซึ่งระหว่างทางมีรูปปั้นเต่ากับกระต่ายตัวใหญ่ ให้เราได้ถ่ายภาพเก๋ๆ
เดินมาอีกนิดก็เจอช้าง ซึ่งให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพคู่กับช้างได้ โดยคิดราคาคนละ 100 บาท ก็ถือว่าเป็นการทำบุญให้ค่าอาหารช้างไปด้วย
ผ่านกรงจระเข้ ซึ่งอันนี้คงต้องดูผ่านกรงค่ะ ถ้ามาแบบใกล้ชิดอาจลำบากได้
เข้ามาชมการแสดงจระเข้ ซึ่งก็เป็นโชว์จระเข้ปกติในแบบที่เราเคยเห็น
การได้มาเที่ยวสวนสัตว์เปิดที่เมืองกาญถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุกสนานมากค่ะ สารภาพตามตรงว่ามาเที่ยวกาญจนบุรีบ่อยมากแทบทุกเดือน แต่ไม่เคยทราบเลยว่ามีสวนสัตว์แบบนี้ด้วยทั้งที่ก็เปิดมานานแล้ว เลยอยากให้ทุกคนได้มาเที่ยวกัน มีโอกาสพาลูกหลานมาเที่ยวค่ะ เอาจริงแล้วก็ไม่ได้อยู่ไกลจากกรุงเทพมาก มาช่วยกันซื้ออาหารให้กับสัตว์น้อยที่น่ารัก รับรองว่าจะชอบและประทับใจกลับไปแน่นอนกับการเที่ยวสวนสัตว์ในความรู้สึกแบบนี้ค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์
40/2 หมู่5 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี 71160
โทร. (034) 678225, มือถือ 086-3000667 โทรสาร. (034) 678226
Website : http://www.safaripark-kan.com E-mail : [email protected]
ขอบคุณข้อมูลจาก
paiduaykan.com