Social :



ภูหินร่องกล้า เขาค้อ

06 มิ.ย. 60 08:06
ภูหินร่องกล้า เขาค้อ

ภูหินร่องกล้า เขาค้อ

1 cover-เขาค้อ

 

ป่าเขียว…ที่ภูหินร่องกล้า

จากรีวิวเที่ยวภูทับเบิกตอนที่แล้ว ตามลิงค์นี้คลิ๊ก   เที่ยวภูทับเบิก    ในช่วงเที่ยงเรามุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เพื่อไปสัมผัสความงามและความเขียวขจีและดอกไม้ป่าซึ่งจะผลิดอกในช่วงเดือนสิงหาคม  จากภูทับเบิกใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า เราก็มาถึงจุดเดินเท้าไปยังลานหินปุ่มไปกลับประมาณ 2 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เดินเป็นเส้นทางวงกลม  ซึ่งในเวลานี้ตลอดข้างทางที่เราเดินผ่านชุ่มชื่นด้วยความเขียวต้นไม้ ใบหญ้า ที่เราจะได้พบเห็นแบบเต็มอิ่มในช่วงฤดูฝนเท่านั้น

 

1 DEW_0789

2 DEW_0785

 

มอส เฟริน  ขึ้นปกคลุมตามลานหิน กลายเป็นศิลปะทางธรรมชาติที่งดงามและดูแปลกตาในแบบที่อาจไม่ได้พบเห็นเมื่อมาเที่ยวที่นี่ในฤดูอื่น

 

3 DEW_0843

2 DEW_0798

4 DEW_0825

 

ดอกเปราะภูสีขาว นางเอกแห่งภูหินร่องกล้า  ที่เราสามารถพบเห็นได้ในช่วงเดือนสิงหาคม  แต่เนื่องจากเรามาในช่วงปลายเดือนแล้ว ดอกไม้ก็เริ่มน้อยลงไป

 

5 DEW_0805

6 DEW_0816

 

อีกหนึ่งดอกไม้เด่น ก็คือ ดอกเอนอ้าสีชมพู  ซึ่งปีนี้บานเยอะมาก เป็นดอกไม้ที่เราจะสามารถพบเห็นได้ในบริเวณพื้นที่ชื้นแฉะบนลานหิน ดอกเอนอ้ามีให้ชมตลอดทาง เรียกได้ว่าถ่ายรูปเพลิดเพลินกันไป

 

7 DEW_0837

8 DEW_0827

 

นอกจากดอกไม้ป่าแล้ว ยังได้พบเห็นกับหินใหญ่รูปร่างแปลกตา ซึ่งในช่วงฤดูฝนก้อนหินก็จะถูกปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้ป่า มอส เฟริน เช่นกัน

 

DEW_0851

DEW_0859

DEW_0874

 

บรรยากาศของป่าสองข้างทาง อากาศในเวลานี้เย็นสบายๆ

 

DEW_0890

DEW_0908

DEW_0917

 

เห็ดป่าก็มีให้ชม

 

DEW_0904

DEW_0924

 

เมื่อใกล้ถึงลานหินปุ่ม เราก็จะเริ่มเห็นก้อนหินปุ่ม  ซึ่งมีลวดลายที่เกิดจากธรรมชาติเช่นกัน

 

DEW_0941

DEW_0943

DEW_0952

 

เป็นภาพที่มองแล้วสดชื่นสบายตา

 

DEW_0956

DEW_0960

 

เดินมาอีกนิด ก็มาถึงลานหินปุ่ม ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร ที่เดินมาซึ่งใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ผ่านป่าดง พงหญ้า  เราก็กลายเป็นผู้พิชิตลานหินปุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

DEW_0991

DEW_1002

 

จากนั้นเราก็เดินไปยังผาชูธงต่อ ระยะทางจากลานหินปุ่มไปประมาณ 500 เมตร  ระหว่างทางเดินก็จะได้พบเห็นกับดงดอกไม้ป่าสีขาว กลีบดอกห้อยยาวระย้า  ชื่อว่า  ตาเหินไหว  ชื่อแปลกดี

 

DEW_1008

DEW_1009

 

ดอกไม้ชนิดนี้ขาว มีลักษณะคล้ายกับดอกเข็ม มาครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน มาครั้งนี้ก็เจออีก

 

DEW_1019
จุดไฮไลต์สุดท้ายของเรา ผาชูธง จากนั้นเราก็เดินกลับไปยังลานจอดรถ เพื่อไปยังจุดหมายต่อไป นั่นก็คือ เขาค้อ

 

DEW_1021

 

หมอกขาว… ที่เขาค้อ

เขาค้อ มีทะเลหมอกให้ชมหลายจุด แล้วแต่ว่าเราจะเลือกไปไปตรงไหน   1 เช้า ที่ต้องเลือกของเราตอน คือ ตั้งใจจะไปดูหมอกที่ร้านกาแฟพีโนลาเต้ ซึ่งเห็นวิวพระธาตุผาซ่อนแก้ว แต่เมื่อผ่านไปปรากฏว่าไม่มีหมอกมาให้เห็น เลยกลับมายังที่พักของเราที่ บิ๊กคอฟฟี่  รีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ข้างไปรษณีย์เขาค้อ จุดชมทะเลหมอกชั้นดีอีกแห่งหนึ่ง จากบรรยากาศในช่วงแรกที่หมอกลอยฟุ้งเริ่มจะหมดหวังว่าคงไม่ได้เจอแล้วซินะ และไม่คิดจะไปยังจุดชมทะเลหมอกอื่นต่อๆ

MulticollaC
เพราะคิดว่าสภาพอากาศตงคล้ายหมดทุกแห่ง   แต่เพียงเสี้ยวเวลาผ่านไปประมาณ 8 โมงกว่า  ระหว่างที่เรานั่งถ่ายรูปตัวเองกันเล่น หมอกฟุ้งก็เริ่มหาย กลายเป็นสายหมอกบางคลอเคลียอยู่ตรงไหล่เขามาแทนที ถึงแม้อาจไม่ยังไม่ใช่หมอกหนาแบบที่เราอยากเห็น แต่ได้เห็นเพียงแค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้วละ

 

 

DEW_1043

DEW_1036

DEW_1024

DEW_1035

 

อากาศเริ่มโปร่งขึ้น มุมมองของสายหมอกจากระเบียงทานอาหารเช้า

 

DEW_1044

DEW_1053

DEW_1055

 

” เดินไปดูหมอกที่ไปรษณีย์เขาค้อกัน”   เราบอกเพื่อนร่วมทางให้รีบเดินไปดูหมอกอีกจุดหนึ่งของเขาค้อ เพราะสภาพอากาศเริ่มปลอดโปร่งแล้ว  ณ จุดชมวิวตรงนี้ก็มีสายหมอกบางลอยมาตลอด  อากาศก็เย็นสบายไม่หนาวจนเกินไป

 

DEW_1061

DEW_1062

DEW_1064

 

จุดชมวิวทะเลหมอกไปรษณีย์เขาค้อ ถือว่าเป็นจุดกางเต้นท์ชั้นดีอีกแห่งหนึ่ง ตื่นมาปุ๊บก็เห็นหมอกลอยอยู่ตรงหน้า  แต่ถ้ามากางเต้นท์หน้าฝนก้ต้องเตรียมตัวมาให้พร้อมนิดนึงกับลมแรงและฝนที่อาจจะพัดมาแบบไม่ทันตั้งตัว

 

DEW_1071

DEW_1077

 

เก็บภาพความทรงจำก่อนเดินกลับไปยังที่พักเพื่อไปรับประทานอาหารเช้า

 

DEW_1081

DEW_1105

 

ระเบียงของห้อง VIP  ของบิ๊กคอฟฟี้ รีสอร์ท  ซึ่งเป็นระเบียงรวมของห้อง VIP  3 ห้อง  คือ 1 2 3  เราพักห้อง vip 2  เช้าๆ มานั่งชมวิวตรงจุดนี้ฟินมาก แต่บรรยากาศในห้องพักไม่ได้ถ่ายมาฝากกัน เพราะมาถึงในเวลาค่ำแล้ว แอบหมดแรงจากการเดินทางมาทั้งวัน  แต่สามารถเข้าไปชมภาพในเฟสบุคของบิ๊กคอฟฟี่ตามลิงค์นี้  https://www.facebook.com/BIGCOFFEEKHAOKHO  ราคาปกติของห้อง VIP ในช่วงโลว์ซีซั่น คือ 2500 แต่ทางรีสอร์ทลดให้เหลือแค่ 2000 บาท พร้อมอาหารเช้า สภาพห้องข้องในโอเค  มีระเบียงพักผ่อนส่วนตัว  ใกล้กับจุดชมวิวทะเลหมอกของเขาค้อ ในราคานี้ถือว่า คุ้มค่า

 

DEW_1109

DEW_1110

 

ด้านหน้า มีประภาคารสีเขียวทรงสูงโดดเด่น มีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก สีสันสดใส สะดุดตา

 

DEW_1112

DEW_1115

 

เก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพ ระหว่างทางก็แวะไปชมบรรยกาศของร้านกาแฟที่ฮอตที่สุดในเวลานี้  พีโน่ลาเต้  เห็นวิวของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว  สำหรับรีวิวฉบับเต็มคลิ๊กชมได้ที่  http://www.paiduaykan.com/travel/pinolatte 

 

DEW_1116

 

DEW_1122

DEW_1118

DEW_1129

 

จากนั้นเราก็แวะไปที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เพื่อไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารที่วิวสวยอีกแห่งหนึ่ง  ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดเลยคะ

 

DEW_1142

DEW_1146

DEW_1153

DEW_1154

 

มองไปก็เห็นวิวภูเขาแบบนี้

 

DEW_1158

 

สำหรับอาหารก็เป็นอาหารตามสั่งมีให้เลือกหลายเมนู  มีส้มตำ ลาบ น้ำตก คอหมูย่าง ส่วนรสชาติอาหารต้องบอกกันตามตรงว่าไม่ผ่านเท่าไหร่  ที่สั่งมาทั้งหมดมีอร่อยอยู่อย่างเดียว คือ ผัดยอดฟักแม้ว   เน้นวิวสั่งกาแฟมานั่งจิบเพลินๆน่าจะเข้าท่ากว่าคะ

 

DEW_1166

 

เดินเข้าไปชมพระพุทธเข้า 5 องค์ ซักหน่อย ตอนนี้สร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว

 

DEW_1137

 

ฤดูฝนซึ่งคาดว่าจะยังคงอยู่กับเราอีกหลายเดือน ลองมาเดินเที่ยวป่าชมความเขียวขจี  ชมหมอก สูดอากาศบริสุทธิ์สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนกับธรรมชาติ แถมด้วยความชิคเก๋  ของวิวภูเขา  ภูหินร่องกล้าและเขาค้อ ก็แพคกระเป๋ามาเที่ยวมากในช่วงกรีนซีซั่นแบบนี้


ขอบคุณข้อมูลจาก

paiduaykan.com

โพสต์โดย : ต้นน้ำ