ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน หลายคนอยากไปพักผ่อนคลายสมอง แต่อาจคิดว่าหน้าฝนจะมีอะไรให้เที่ยว หรือจะไปเที่ยวที่ไหนดี แถมช่วงนี้น้ำก็ท่วมในหลายจังหวัดอีกด้วย หากนึกไม่ออกลองเก็บกระเป๋าออกมาจากบ้านขับรถ ผ่านนครปฐม ราชบุรี เพียงสองชั่วโมงกว่าก็จะถึง กาญจนบุรี จุดหมายปลายทางของเรา ก็จะพบกับความเขียวของธรรมชาติ ชมน้ำตกสวย โดยที่ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางนาน แถมระหว่างเดินทางหากใครยังนึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหน แวะ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ในอำเภอท่ามะกา เพื่อมาสอบถามข้อมูลและขอแผนที่ หรือแวะพักเข้าห้องน้ำซึ่งทางศูนย์ภูมิใจนำเสนอมากเพราะเป็นห้องน้ำติดแอร์
วิธีการทำแผนที่ไอเดียดีมาก จะให้เรามายืนถ่ายแล้วระบุจุดหมายปลายทางที่เราจะไปเที่ยว
หลังจากนั้นก็ปรินท์สีใส่กระดาษอย่างดี มีรูปเราเล็กๆ อยู่ตรงมุมขวาบนด้วย ไปไหนรับรองไม่หลงทาง
ได้แผนที่แล้วก็เดินทางไปยังที่พัก วันแรกก็พักผ่อน นอนเล่น ให้เต็มที่ เราพักที่ La Foresta by the river lodge เป็นที่พักเปิดใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ที่พักจะตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ เส้นทางอำเภอศรีสวัสดิ์ ไปน้ำตกเอราวัณ และเขื่อนศรีนครินทร์ บรรยากาศก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัว สงบและอยู่ท่ามกลางแมกไม้ เข้ามาปุ๊บจะรู้สึกได้ถึงความร่มรื่น มีลมเย็นพัดมาตลอด
ยืนยันอีกภาพว่าต้นไม้เยอะจริงๆ เห็นแล้วนึกถึงบ้านสไตล์คันทรี่ในต่างประเทศ กำลังจินตนาการว่าถ้าหน้าหนาว ใบไม้คงเริ่มเปลี่ยนสีสลับกันไปคงสวยไปอีกแบบ เดินเล่นชมบรรยากาศไป ก็จะมีใบไม้สีเหลืองเล็กๆ ร่วงลงมามายังพื้นหญ้าด้านล่างได้ feel ดีแท้
พันธุ์ไม้ที่เจ้าของบ้านนำมาตกแต่ง สวย แปลกตาดี
มีสะพานข้ามสระน้ำเล็กๆ มุมนี้เก๋มาก
ที่นั่งพักผ่อนเป็นชิงช้าไม้อยู่ด้านข้าง
บรรยากาศสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการมาพักผ่อน
มองลงมาจากข้างบน
ที่พักอยู่ติดริมน้ำสามารถเดินเล่นไปชมวิวได้ค่ะ ช่วงน้ำลงเห็นว่าน้ำใสสามารถลงไปเดินเล่นข้ามไปมายังฝั่งตรงข้ามได้
ชมบรรยากาศรอบบ้านแล้ว ก็มาสำรวจภายในบ้านกันบ้าง ที่พักจะเป็นบ้านส่วนตัวหลังใหญ่หลังเดียว 2 ชั้น ข้างในจะมีทั้งหมด 4 ห้อง และห้องน้ำแยกออกมาเป็นส่วนกลางอีก 2 ห้อง ห้องนอนข้างล่างแบบเตียงคู่
ส่วนห้องนี้เป็นเตียงเดี่ยว
มีเก้าอี้โยก สำหรับนั่งเล่น
ออกมาข้างนอกจะเป็นโซนของห้องรับแขก
เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้จัดแต่งแบบวินเทจ หรูหราตามสไตล์อังกฤษ
มองเห็นวิวด้านนอก
มีมุมจิบไวน์ด้วย
ชั้นสองจะเป็นห้องนั่งเล่น ดูทีวี กว้างขวาง ด้านข้างมีครัวเล็กๆไว้ประกอบอาหาร
อีกชั้นก็จะเป็นห้องใต้หลังคา ซึ่งจะจัดเป็นห้องพัก จะมีอยู่ 2 ห้อง
เดินเล่นพักผ่อนสักครู่ ก็เดินมาถ่ายรูปเล่นที่โซนรับแขก ซึ่งอยู่ด้านหน้า สีสันถูกใจมาก
นั่งเล่น ทานอาหารคุยกันได้สบาย หากไม่อยากไปทานอาหารไกลๆ ที่นี่จะมี contact ร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ สามารถสั่งมานั่งรับประทานได้
พักผ่อนเต็มที่ 1 วัน วันรุ่งขึ้น ก็เตรียมตัวไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักมาก เริ่มจากที่นี่ อุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ เป็นสถานที่รวบรวมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สงคราม 9 ทัพ เป็นสงครามครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สถานที่นี้ท่านมุ้ยเคยมาถ่ายภาพยนตร์เรื่องสงครามเก้าทัพด้วย ไม่รู้จะจำกันได้หรือเปล่า ภายในอาคารจัดเป็นตู้จำลองเหตุการณ์และโต๊ะทรายแสดงภูมิประเทศจำลองเส้นทางการเดินทัพของข้าศึก นอกจากนี้ยังมีหอสังเกตการณ์เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจประวัติศาสตร์เข้าใจการเลือกใช้ภูมิประเทศในการเดินทัพ และจุดสกัดกั้นทัพพม่าได้ชัดเจนขึ้น เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00–17.00 น
ชอบที่สุดคงเป็นวิว ทิวทัศน์สวยมาก มีภูเขาอยู่ด้านหลัง
บรรยากาศเขียวขจี ธรรมชาติสุดๆ
แวะสักการะอนุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
จากอุทยานประวัติศาสตร์ ฯ ก็มาถึง แคมป์ช้างทวีชัย ที่นี่กว้างขวางและเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง
มีกิจกรรมที่ให้บริการหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นนั่งช้างชมธรรมชาติและความงามของป่าเขา ล่องแพไม้ไผ่ หรือให้อาหารช้าง ชอบกิจกรรมแบบไหนก็เลือกได้ตามใจ
นั่งรถผ่านเส้นทางถนนคดเคี้ยว ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวสลับสีกันในช่วงฤดูฝน นั่งชมวิวข้างทางก็เพลิดเพลินไปอีกแบบ
มุ่งหน้ามาถึงสถานที่อีกแห่ง ที่ทุกคนรู้จัก น้ำตกชื่อดังของเมืองกาญ น้ำตกเอราวัณ ช่วงนี้น้ำกำลังเยอะสวยเลยทีเดียว มาเมืองกาญหลายครั้งแต่ขอสารภาพว่าไม่เคยแวะมาเที่ยวที่นี้เลยซักที ทั้งๆที่อยู่ใกล้และเดินทางสะดวกมาก
น้ำสีฟ้าใสไหลเย็นเห็นฝูงปลาที่แหวกว่าย ปลาที่นี้ดูจะคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
หน้าฝนอะไรก็ดูชุ่มชื่นไปหมด
เคยเห็นภาพน้ำตกเอราวัณ ก็รู้สึกว่าสวย แต่ไม่คิดว่าสถานที่จริงจะสวยงามมากขนาดนี้ ชอบสีของน้ำตกมากค่ะ สีฟ้าเขียวใส ไล่โทน ดูแล้วระดับน้ำก็ไม่ลึกมากจนเกินไป สามารถนอนเล่นแช่น้ำได้เกือบทุกจุด
มีแคร่ไม่ไผ่ สำหรับให้นั่งพักผ่อนตลอดทาง
เดินถ่ายภาพเฉพาะบริเวณน้ำตกตรงทางเดินด้านล่าง ยังไม่ได้ขึ้นไปถึงชั้นบนของน้ำตกที่คล้ายรูปเศียรช้างเอราวัณ ซึ่งเค้าว่าสวยมาก แต่สำหรับเราแค่จุดนี้ก็สวยสุดๆแล้ว
แสงส่องกระทบมายังตัวน้ำตกเป็นหย่อม ๆ ยอมรับเลยว่าน้ำตกหินปูนเป็นน้ำตกที่ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยจริง อย่างน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นก็เป็นน้ำตกหินปูนเช่นกัน
มาถึงที่สุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ แวะเข้าตัวเมือง ไปที่ สุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ ในตัวเมืองกาญจะมีสุสานแบบนี้ 2 แห่ง คือ สุสานทหารพันธมิตร ซึ่งอยู่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว กับ สุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน
บริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งค่ายใหญ่ของเชลยศึกและกรรมกร เป็นค่ายที่มีกิจกรรมหลายอย่าง เช่นโรงพยาบาล โบสถ์ มหาวิทยาลัย โรงภาพยนตร์ เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเป็นทหารอังกฤษ ที่นี่บรรจุศพทหารเชลยศึก ประมาณ 1,740 หลุม เมื่อมีผู้เสียชีวิต เชลยศึกจะช่วยกันฝังไว้ โดยเฉพาะตามเส้นทางรถไฟและช่องเขาขาด เมื่อสงครามสงบ ผู้ที่เคยเป็นเชลยจำได้ว่าฝังศพเพื่อนไว้ที่ไหน ก็ทำการขุดศพขึ้นมาบรรจุลงหลุมฝังศพใหม่และบรรจุไว้ในสุสานช่องไก่แห่งนี้
บริเวณหลุมศพจะมีต้นไม้เล็กๆปลูกไว้ และเหนือหลุมศพจะมีแผ่นทองเหลืองจารึกชื่อ สกุล อายุ ประเทศของผู้เสียชีวิต รวมทั้งคำไว้อาลัย เพื่อให้ญาติผู้เสียชีวิตมาเยี่ยมเคารพค่ะ
จบทริปเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน ไม่ต้องเดินทางไกลให้เหนื่อย ได้เที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ผจญภัย และประวัติศาสตร์ ที่นี่ เมืองกาญจนบุรี
รายละเอียดเพิ่มเติม
La Foresta by the river lodge กาญจนบุรี เว็บไซต์ http://paiduaykan.com/laforesta.html
แคมป์ช้างทวีชัย โทร 081 914 146 -58 เว็บไซต์ http://www.taweechaielephantcamp.com/
การเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวในทริปนี้เริ่มจากอำเภอเมืองกาญ วิ่งมาทางถนนลาดหญ้า – ศรีสวัสดิ์ (ทางหลวง 3199) ผ่านแยกลาดหญ้า ผ่านถนนเส้นเอราวัณ – ศรีสวัสดิ์ จะถึงที่พัก La Foresta ซึ่งอยู่ติดริมถนน จากนั้นขับไปอีกไม่ไกล(ไม่ถึง 5 นาที) จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ ต่อด้วยแคมป์ช้างทวีชัย ขับตรงไปอีกก็จะถึงเขื่อนท่านา น้ำตกเอราวัณ เขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
แผนที่ท่องเที่ยวสำหรับทริปนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก
paiduaykan.com