เข้าช่วงเดือน ก.ย. ฤดูกาลแห่งสายฝน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเริ่มปลูกข้าวของชาวนาไทย สำหรับเราแล้วรู้จักการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต ชมนาข้าวขั้นบันไดที่ปลูกลดหลั่นกันไปตามไหล่เขา ตั้งแต่เมื่อได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองแม่แจ่ม และแม่กลางหลวง เมื่อหลายปีก่อน และเกิดความประทับใจอย่างมากต่อสถานที่ทั้งสองแห่ง หลังจากนั้นเป็นต้นมา เมื่อเข้าหน้าฝนก็พยายามเสาะแสวงหานาข้าวและอะไรเขียวๆเพื่อถ่ายภาพอยู่บ่อยครั้ง และแล้วก็ได้มารู้จักกับสถานที่แห่งหนึ่ง เกิดอาการตกหลุมรักขึ้นมาทันที และตั้งปณิธานไว้ว่าจะต้องหาโอกาสไปเที่ยวและถ่ายภาพให้ได้ ที่นี่ คือ นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน
ทริปนี้ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน เน้นเที่ยวชมนาข้าวขั้นบันได 1 คืน ซึ่งเป็นทริปไฮไลต์ของเรา ส่วนอีก 1 คืน เน้นเที่ยวไหว้พระในตัวเมืองน่าน สำหรับที่พักในคืนแรก พวกเราได้รับความอนุเคราะห์จากโครงการเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับโครงการปิดทองหลังพระ จากตัวเมืองน่านใช้เวลา เกือบ 2 ชั่วโมง วิ่งผ่านบ่อเกลือและอุทยานแห่งขาติขุ่นนาน เลยไปประมาณ 20 ก.ม. ก็มาถึงจุดนัดพบของเรากับเจ้าหน้าที่โครงการซึ่งนำรถมารับที่โรงเรียนบ้านขุนน่าน ภาพนี้เป็นภาพนาข้าวขั้นบันไดซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนบ้านขุนน่าน มองลงมาจากถนน เห็นเป็น ริ้วลายเส้น คดเคี้ยวไปมา ถือเป็นศิลปะทางธรรมชาติที่งดงามอย่างหนึ่ง
มองไปไกล เห็นชาวนากำลังช่วยกันดูแลต้นข้าวข้าวกันอย่างขะมักเขม้น
จากปากทางขึ้นไปยังที่พัก ทางขรุขระเป็นช่วง ต้องอาศัยรถกระบะ แต่ก็แอบเห็นมอเตอร์ไซต์ขึ้นไปได้อยู่ ระยะทางไปยังที่พักของโครงการเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง ไม่ไกลมาก แค่ 4 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โครงการเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง ไม่ได้เปิดเป็นที่พักอย่างเป็นทางการ ที่นี่เป็นสถานที่ทำงานและที่พักของเจ้าหน้าที่ แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจเข้ามาชมพื้นที่ของโครงการ รวมทั้งของโครงการปิดทองหลังพระซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ที่นี่ถือเป็นพื่นที่ในโครงการพระราชดำริเช่นกัน พวกเราพักกันหลังนี้ มีที่นอนผ้าห่ม ห้องน้ำ ไฟฟ้า ทีวี ให้เรียบร้อย ส่วนอาหารก็ให้ทางโครงการจัดหาให้ทุกมื้อ เจ้าหน้าที่ทุกท่านใจดีและอำนวยความสะดวกอย่างดี ตั้งแต่นำรถมารับข้างล่างและพาไปเที่ยวชมนาข้าวขั้นบันไดตามจุดต่างๆ ส่วนค่าใช้จ่ายยกเว้นค่าอาหารพวกเราให้เป็นสินน้ำใจแล้วแต่เราจะให้ค่ะ หรือหากใครต้องการกางเต้นท์นอน ที่นี่มีสถานที่กางเต้นท์กว้างขวางและบรรยากาศดีมาก มองไปเห็นภูเขารอบด้าน
ทานข้าวมื้อกลางวันกันที่โครงการเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลานั่งรถชมบรรยากาศของความเขียวชะอุ่มชุ่มชื่นของ นาข้าวขั้นบันไดบนภูเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ในโครงการปิดทองหลังพระทั้งหมด ครอบคลุมหลายพื้นที่ ตั้งแต่บ้านขุนน้ำ บ้านเปี้ยงซ่อ บ้านบวกอุ้ม และบ้านสะจุก สะเกี้ยง นั่งรถไปโยกเยกไป เพราะทางบางช่วงก็ขรุขระ และมีฝนตกโปรยปรายมาเป็นระยะ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ถูกลืมไป กลายเป็นความสุขที่ได้เห็นขุนเขาอันยิ่งใหญ่ของที่นี่
ตลอดเส้นทางจะได้เห็นภาพแบบนี้จนชินตา
นั่งรถไปเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่บอกว่า สวยที่สุด เรียกว่า แอ่งฟูจิ ต้องยอมรับว่าสวยจริง ภูเขาลูกเล็ก ใหญ่ เรียงราย ลาดเอียงขึ้นลง มองเห็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่รวมตัวกัน ตรงกลาง วิวนี้สุดยอดค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งในบริเวณเดียวกัน เห็นภูเขาไล่ระดับกันไป มีกระท่อมหลังน้อยๆ เข้ามาประกอบฉากชวนให้ภาพดูน่ามองและมีชีวิตมากขึ้น
กินลมชมวิวได้ซักพัก ก็มาถึงที่ทำการของโครงการปิดทองหลังพระ แวะเข้าไปสวัสดีเจ้าหน้าที่และอ่านความเป็นมาของโครงการนี้ซักหน่อย โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยแนวทางของโครงการ ก็คือ เริ่มต้นด้วยการลดการใช้พื้นที่ป่า แสวงหาวิธีปลูกข้าวแบบใหม่ โดยนำวิธีการทำนาขั้นบันไดบนพื้นที่เขาแทนข้าวไร่ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ได้เริ่มขุดมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2552
อ่านข้อมูลแล้วรู้สึกถึงซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง และความร่วมแรงร่วมใจของเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ที่ทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นสีเขียว เห็นในภาพก่อนเริ่มโครงการพื้นที่เป็นภูเขาโล้นสีน้ำตาลซึ่งเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นนาข้าวที่เขียวขจีตามไหล่เขา ให้เราได้ชมความสวยงามซึ่งทางโครงการมีแนวคิดจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วยค่ะ
พื้นที่ตรงนี้เป็นนาข้าวขั้นบันไดซึ่งตั้งอยู่หลังที่ทำการของโครงการปิดทองหลังพระ นอกจากต้นข้าวแล้ว ก็จะมีการปลูกพืชไร่อย่างเช่นข้าวโพดแซมกันไป
เลยที่ทำการของโครงการ จะมีนาข้าวขั้นบันไดที่พวกเราอยากไปชมอยู่ที่บ้านบวกอุ้ม มีหมู่บ้านชาวเขาอยู่บริวเณนั้นด้วย แต่เนื่องจากสภาพอากาศในตอนนี้มีฝนตกโปรยๆ ตลอด เจ้าหน้าที่เลยบอกว่าไม่กล้าเสี่ยงเอารถขึ้นไปเพราะทางค่อนข้างจะชันและขรุขระ กลัวไม่ปลอดภัย แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้พาเรามาชมนาข้าวขั้นบันไดอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในความดูแลของโครงการเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง สวยงามมากๆ
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน หรือผ่านไปทางไหนจะเห็นแต่นาข้าวขั้นบันไดบนภูเขาลดหลั่นกันไป แถมมีฉากหลังข้างหลังเป็นภูเขาเขียวขจีอีกด้วย
ที่นี่จะเป็นการปลูกนาข้าว ซึ่งได้ยินเจ้าหน้าที่เรียกว่านาข้าวหิน มีร่องลำธารเล็กๆ ไฟลผ่านตรงกลาง ระหว่างคันนาก็จะมีการหินมากั้นดินไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ดินกร่อนลงมาค่ะ
เขียวได้ใจดีจริง
แสงยามบ่ายกระทบกับต้นกล้าเล็ก ที่รอวันออกรวงเป็นสีทอง
นั่งรถกลับมายังที่พัก เพื่อพักผ่อน หลังจากนั้นก็เดินลงมาเก็บภาพยามเย็นบริเวณทางขึ้นของโครงการ ซึ่งเป็นพื้นที่การปลูกข้าวเช่นกัน
หลังจากฝนตกแปะ ๆ ฟ้าครึ้มมาเกือบทั้งวัน ตกเย็นปุ๊บก็เห็นฟ้าสีฟ้าใส สวยงามตัดกับทุ่งนาสีเขียว
ตื่นเต้นมาก เสียงชัตเตอร์ดังสนั่น ลั่นทุ่งข้าวเลยทีเดียว
ยอดข้าวเขียวขจี
พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงแล้ว แสงสวยยามเย็นกระทบตามไหล่เขา เห็นนาข้าวขั้นบันไดเป็นวงกลมอยู่ไกลๆ
หันมาอีกด้านหนึ่งแสงก็สาดส่องมากระทบกับยอดข้าว เป็นบรรยากาศยามเย็นที่ชอบที่สุด
จากสีเขียวเข้มเมื่อกระทบกับแสงก็กลายเป็นเขียวเหลืองอ่อนๆ
ถ่ายภาพไปก็คิดไป แค่ทำนาข้าวในที่ราบก็เหนื่อยเอาการอยู่ แต่นี่มาทำกันภูเขาสูงเกือบเท่าเมฆขนาดนี้ คงจะเหนื่อยไม่น้อยเวลาที่ต้องเดินไปเก็บเกี่ยว หรือใส่ปุ๋ย เพราะฉะนั้นทุกครั้งเวลากินข้าวพยามกินให้หมดจานน่ะค่ะ
ลาบรรยากาศยามเย็นกันด้วยภาพนี้ค่ะ พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว
มาพบกับความงดงามของเช้าวันใหม่ กับสายหมอกคลอเคลียตามไหล่เขาเลยที่พักของเราไปนิดนึงเองค่ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ขับรถพาเรามาดู ณ จุดนี้ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบด้านและไม่คิดว่าจะได้เจอทะเลหมอก
สายหมอกยามเช้าที่เกิดจากไอฝน คลอเคลียไปตามไหล่เขา
ยิ่งรอให้เวลาผ่านไปสายหมอกก็ยิ่งค่อยเคลื่อนผ่านมาให้เห็นตรงหน้าเยอะขึ้นเรื่อย ๆ
หันมาดูรูปตัวเองในกล้อง ดูแล้วเราน่าจะอยู่ในจุดที่สูงพอสมควรค่ะ
ตรงกันข้ามเขาอีกลูกหนึ่ง มีหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่บนสันเขาด้วย โอ้ โห้ มาสร้างบ้านกันอยู่บนนี้ นับถือจริงๆค่ะ
ถ่ายมาให้เห็นว่าต้นข้าวที่นี่ อยู่เหนือเมฆเคียงคู่กับท้องฟ้า
ซูมเข้ามาใกล้ๆ
ลากันด้วยภาพนี้ค่ะ กับความประทับใจของบรรยากาศอันบริสุทธิ์ของนาข้าวขั้นบันไดที่อยู่ในพื้นที่ของโครงการเกตรที่สูง บ้านสะจุก สะเกี้ยง เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่ามีฟาร์มแกะบนภูเขาด้วย แต่พวกเรามาเช้าเกินไป เจ้าหน้าที่ดูแลยังไม่มา อดเห็นแกะเลย ทริปนี้ถือเป็นอีกทริปหนึ่งที่ประทับใจมากๆ กับอากาศบริสุทธิ์ ภูเขาเขียวอันยิ่งใหญ่ และ ศิลปะนาข้าวขั้นบันไดบนภูเขา หาดูที่ไหนได้ยาก ถ้าไม่ใช่ที่นี่ โครงการปิดทองหลังพระ โครงการในพระราชดำริของในหลวงอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยทุกคนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
paiduaykan.com