Social :



ปลูกสวนหญ้าอย่างไรให้งามทั้งปี

08 ส.ค. 60 07:00
ปลูกสวนหญ้าอย่างไรให้งามทั้งปี

ปลูกสวนหญ้าอย่างไรให้งามทั้งปี

ปลูกสวนหญ้าอย่างไรให้งามทั้งปี



สนามหญ้าของบ้านนอกจากจะทำให้บ้านน่าอยู่แล้ว ก็ยังเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดจุดหนึ่งของบ้านเลยก็ว่าได้ และเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน ทำกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกภายในบ้าน สำหรับการจัดสวน และปูสนามหญ้านั้น ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบว่าต้องการจะให้สนามหญ้าอยู่ตรงส่วนใดของตัวบ้าน ดังนั้น การการปลูกหญ้าภายในบ้านจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ วันนี้เราจึงมีวิธีดูแลสนามหญ้าให้งามตลอดทั้งปีมาฝากกันค่ะ

การปลูกหญ้ามีหลายวิธี ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวก ความพอใจ ความต้องการของผู้ที่จะปลูก ตลอดจนเงินทุนในการเตรียมดิน ค่าพันธุ์หญ้า และอื่นๆ การปลูกหญ้าโดยทั่วไปมี 5 วิธี ดังนี้

1. การปลูกหญ้าเป็นแผ่นๆ หรือแบบปูพรม เป็นที่นิยมที่สุดในบ้านเรา ทำได้รวดเร็ว แต่จะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย เพราะต้องใช้พันธุ์หญ้าเป็นจำนวนมาก

2. การปลูกหญ้าแบบตัดเป็นแผ่นเล็กๆ เหมาะสำหรับสนามใหญ่ๆ เพราะถ้าปูเป็นพรมจะลงทุนสูงมาก ควรใช้กับหญ้าที่มีการเจริญเติบโนในแนวนอน และมีการเจริญเติบโตเร็ว เช่น หญ้านวลน้อย หญ้ามาเลเซีย หญ้าเบอร์มิวด้า วิธีนี้ลงทุนน้อยแต่ใช้เวลาปลูกนานหน่อย

3. การปลูกโดยใช้เมล็ด ทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่าวิธีอื่นๆ แต่ต้องทำการปราบวัชพืชในดินก่อน ไม่อย่างนั้นหญ้าที่ปลูกด้วยเมล็ดจะขึ้นสู้วัชพืชไม่ได้ ในประเทศไทยเรายังไม่นิยม เพราะไม่มีเมล็ดหญ้าจำหน่าย ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ

        4. การปลูกหญ้าแบบปักดำ วิธีนี้สิ้นเปลืองงบประมาณน้อย โดยใช้ส่วนของลำต้นที่เรียกว่าไหลปลูก ในกรณีที่ได้พันธุ์หญ้ามาจำกัด แต่จะเสียเวลานานกว่าหญ้าจะขึ้นเต็มสนาม เหมาะสำหรับปลูกในสนามหญ้าใหญ่ๆ

        5. การปลูกแบบหว่าน ใช้ไหลของลำต้นของหญ้าที่ยาวแล้ว ตัดส่วนยอดที่มีข้อมาแช่น้ำแยก และหว่านลงไปในเลน วิธีนี้จะสิ้นเปลืองน้อย แต่ใช้เวลานาน และต้องคอยรดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ

การดูแลรักษาสนามหญ้า

1. ช่วงเวลาที่รดน้ำ
Lif
ควรเป็นช่วงที่แดดไม่จัด เวลาเช้าตรู่ถือเป็นเวลาที่เหมาะที่สุด เพราะช่วงเช้าถึงเที่ยงเป็นเวลาที่หญ้าปรุงอาหารได้ดีที่สุด การรดน้ำช่วงเย็นก็สามารถทำได้ แต่ควรทำช่วงประมาณบ่าย 3 โมง เพื่อให้น้ำในสนามแห้งก่อนมืดนั่นเอง และที่สำคัญไม่ควรไปเดินเหยียบย่ำพื้นหญ้าขณะเปียก

2. รดน้ำให้เพียงพอ ควรรดน้ำแต่ละครั้งให้มากพอและไม่ควรรดน้ำบ่อยเกินไป เพราะนอกจากจะเปลืองน้ำแล้วยังชะล้างธาตุอาหารในดิน ทำให้ดินแน่นเร็วและเกิดโรคได้ง่าย รวมถึงอย่ารดน้ำบ่อยติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะน้ำจะซึมอยู่บนผิวดินตื้นๆ ทำให้รากหญ้าเจริญเติบโตในระดับผิวดินตื้นๆ หญ้าจะอ่อนแอ หาอาหารได้น้อย และขาดน้ำได้ง่าย

3. เลือกปลูกหญ้าพันธุ์ดี แนะนำให้เลือกซื้อหญ้าพันธุ์ใหม่ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้เหมาะแก่การเพาะปลูก เพราะเป็นพันธุ์ที่โตช้า ทนต่อโรคพืช ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย และไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงกำจัดศัตรูพืช รวมทั้งลดความถี่ของการตัดหญ้าอีกด้วย

4. สังเกตสัญญาณเตือน วัชพืชที่ขึ้นแซมมาในสนามหญ้าเตือนว่าดินกำลังมีปัญหา แม้ว่าเราจะกำจัดวัชพืชเหล่านี้ด้วยสารพัดวิธีไปแล้วก็ตาม แต่อีกไม่นานเจ้าวัชพืชทั้งหลายก็จะกลับมาก่อกวนสนามหญ้าของเราอีกครั้ง วิธีสังเกตก็คือ ถ้าวัชพืชขึ้นเยอะผิดปกติ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าดินด้านล่างได้กลายเป็นดินเหนียวที่มีความหนาแน่นนั่นเอง

5. หมั่นตัดหญ้าบ่อยๆ ถ้าอยากให้สนามหญ้าดูเขียวขจีน่ามอง ก็ต้องขยันตัดเล็มหญ้าบ่อยๆ จะตัดด้วยเครื่องตัดหญ้าชนิดไหนก็ได้ แต่ไม่ควรตัดให้สั้นจนเกินไป เพราะอาจจะกระทบกระเทือนไปถึงรากหญ้า และเป็นเหตุให้ต้นหญ้าตาย เหตุผลที่เราต้องหมั่นตัดหญ้าบ่อยๆ ก็เพราะว่าทุกครั้งที่ตัดเล็มหญ้า ต้นหญ้าจะผลิตยอดอ่อนออกมา ทำให้ต้นสนามหญ้าดูเขียวสดน่ามอง ซึ่งหากเป็นไปได้ก็ควรตัดเล็มหญ้าทุกสัปดาห์ แต่ในช่วงหน้าฝนที่หญ้ามักจะโตเร็ว ก็ต้องตัดหญ้าให้บ่อยขึ้น

6. เลือกใช้ยาฆ่าแมลงสูตรออร์แกนิก ขึ้นชื่อว่ายาฆ่าแมลง ยังไงก็ต้องมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม คน และสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว หากเราเลือกใช้ยาฆ่าแมลงที่มีส่วนผสมจากสารเคมีมากกว่าจากธรรมชาติ ก็จะทำให้คนรอบข้างเกิดความเสี่ยงเป็นโรคลูคิเมีย โรคมะเร็งสมอง และโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนได้

7. ฟื้นฟูสภาพดิน สารเคมีจากปุ๋ยเคมีอาจทำให้ดินมีปัญหา ดังนั้นจึงต้องการการฟื้นฟู ซึ่งวิธีฟื้นฟูก็ทำได้หลายทาง แต่ที่สะดวกที่สุดแนะนำให้ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยออร์แกนิกลงไปบำรุงดิน และเลี้ยงไส้เดือนไว้ใต้ดิน เพราะปุ๋ยจากธรรมชาติเหล่านี้มีจุลินทรีย์ที่จะช่วยพรวนดินให้มีช่องว่างพอให้อากาศ และออกซิเจนผ่านเข้าไป รวมถึงไส้เดือนเองก็จะช่วยเปิดทางให้ดินสามารถรับสารอาหารต่างๆ ที่เราใส่เพิ่มเติมลงไปได้ด้วย

เพียงเท่านี้สนามหญ้าหน้าบ้านของคุณก็จะงามตลอดทั้งปี แถมยังทำให้บ้านสวยเป็นธรรมชาติอีกด้วย ลองนำวิธีที่เราแนะนำไปทำดูนะคะ รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมดูแลสนามหญ้าสวยๆ ของคุณอย่างสม่ำเสมอ จะได้มีสนามหญ้าที่สวยโดดเด่นตลอดไปนั่นเองค่ะ



ขอขอบคุณที่มา:webboard.campus-star.com

โพสต์โดย : Wizz