อนาคตสดใส ถ้าใช้จ่ายอย่างถูกวิธี

อนาคตสดใส ถ้าใช้จ่ายอย่างถูกวิธี

ปัจจุบัน สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศเราเริ่มส่งสัญญาณที่ไม่ดีนัก สังเกตได้จากธุรกิจขนาดเล็กหลายประเภทที่เริ่มปิดตัวลงเป็นว่าเล่น ดังนั้น นับประสาอะไรกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ที่มีเพียงเงินเดือนหล่อเลี้ยงชีวิตไปในวันหนึ่งๆ ดังนั้น จึงสมควรอย่างยิ่งที่เราจะปรับตัวให้เข้ากับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ตามวิธีต่างๆดังต่อไปนี้

 

1 ควบคุมค่าใช้จ่ายให้น้อยกว่ารายได้

วิธีคิดง่ายๆ คุณได้รับรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ ให้เอาจำนวนรายได้นั้นมาหักลบกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน แล้วสรุปออกมาว่าได้ผลลัพท์เท่าไรบ้าง ซึ่งคำตอบจะมีอยู่ 3 รูปแบบคือ รายจ่ายน้อยกว่ารายได้รายจ่ายเสมอกับรายได้และสุดท้าย รายจ่ายสูงกว่ารายได้

หากได้คำตอบตามแบบแรก ถือว่าคุณเป็นคนที่วางแผนควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี แต่ถ้าหากได้คำตอบแบบข้อสองและข้อสาม คุณต้องปรับลดพฤติกรรมในการใช้จ่ายลง จนกระทั่งมีเงินเหลือเก็บประมาณ 10% ของรายได้ที่ได้มาเมื่อทำเป็นประจำจะทำให้คุณมีเงินเก็บอย่างเหลือเฟือมากขึ้นแน่นอน

 

2 เลือกซื้อเฉพาะของที่จำเป็น

อะไรตัดได้ ควรตัด เช่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่คุณมีจนล้นตู้ แต่ก็ยังไม่วายซื้อเพิ่ม ลิปสติกที่มีครบ 12 สี ทั้งๆที่คุณมีแค่ปากเดียว และใช้อยู่สีเดียวแถมยังไม่เคยหมดแท่ง สุดท้ายก็หมดอายุและต้องกวาดทิ้งลงถังขยะ เป็นต้น เหล่านี้เรียกว่าไม่จำเป็น แถมยังฟุ่มเฟือยอีกด้วย ซึ่งจะทำให้เงินหมดไปโดยไม่รู้ตัว แถมไม่มีเงินเหลือเก็บอีกด้วย

ค่าใช้จ่ายจำเป็นส่วนใหญ่ จะเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากกว่า เช่นค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เหล่านี้เรียกว่าค่าใช้จ่ายจำเป็น อะไรที่ไม่ใช่ให้ตัดออก แล้วเก็บเงินไว้ในธนาคารก่อนเป็นการดีที่สุดหากอยากให้ของขวัญกับตัวเองสักหน่อย แนะนำว่าให้มีเงินเหลือใช้ก่อนดีกว่านะคะ

 

3 วัดคุณค่ากับมูลค่าก่อนซื้อสินค้าทุกครั้ง

คิดให้ดี คิดให้นาน ไม่ใช่ตัดสินใจซื้อปุบปับเพียงเพราะว่าสินค้าชิ้นนี้มีชื่อเสียง เพราะมันอาจไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปก็ได้ สินค้าบางตัว คุณภาพอาจอยู่ในระดับกลางๆ แต่บวกค่าโฆษณาเข้าไปด้วย การโฆษณาทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ข้อการันตี ว่าสินค้านั้นๆจะต้องมีคุณภาพที่ดีเยี่ยมเสมอไป บางครั้งสินค้าราคาแพงก็อาจจะมีคุณภาพด้อยกว่าสินค้าราคาถูกเสียอีก อย่างนี้ก็ต้องลองพิจารณากันดูนะคะ

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าทุกครั้ง คุณควรมีเวลาให้มาก ไม่ควรตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าตอนห้างใกล้ปิด เพราะ นั่นจะทำให้ช่วงเวลาในการตัดสินใจของคุณมีน้อยลง ยืนพิจารณานานๆ วัดระหว่างคุณค่าของสินค้ากับมูลค่าที่ตั้งไว้ ว่าคุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าของคุณหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เสียเงินซื้อมาโดยเปล่าประโยชน์นั่นเอง

 

4 ใช้เวลากับการเลือกซื้อสินค้าให้นานที่สุด

สืบเนื่องมาจากข้อที่สาม เพราะเวลาคือตัวแปรสำคัญในการควบคุมค่าใช้จ่าย คุณควรช้อปปิ้งในวันหยุด อย่างน้อยๆก็ควรมีเวลาให้มันสักสามชั่วโมงเป็นขั้นต่ำ หลังจากนั้นให้ยืนพิจารณาชิ้นต่อชิ้น ว่าคุ้มค่ากับราคาหรือไม่ จำเป็นที่จะต้องซื้อหรือยัง ไม่ใช่เห็นของลดราคาก็หยิบใส่รถเข็นไปเสียหมด ไม่ต้องกังวลว่าช่วงเวลาที่คุณต้องการซื้อมันจะไม่ลดอีก ถึงชิ้นนี้ไม่ลด ทางห้างร้านก็ต้องทำโปรโมชั่นสินค้าตัวอื่นที่คุณจำเป็นต้องใช้อยู่ดี ถ้าเอายอดมาหักลบกัน ยังไงๆ คุณก็ไม่มีวันเสียเปรียบ

 

5 ถามใจตัวเองให้แน่ชัด

สินค้าบางชิ้น มีความจำเป็นและไม่ได้ลดราคากันบ่อยๆ คุณอยากได้มันมาก แต่เราแนะนำให้ข่มใจไว้ แอบมองป้ายที่แจ้งระยะเวลาโปรโมชั่นในครั้งนี้ ถ้ายังมีเวลาเหลือ จงกลับไปนั่งตัดสินใจที่บ้าน คิดซ้ำไปมาหลายๆรอบ ว่าควรซื้อเพื่ออะไร ซื้อมาทำไม ซื้อแล้วจะได้ใช้บ่อยแค่ไหน เป็นต้นมีหลายคนที่เห็นสินค้าลดราคาก็รีบซื้อมาทันที โดยที่บางครั้งก็ไม่จำเป็นเลย แถมบางทียังซื้อมามากเกินไป เป็นผลให้ใช้ไม่ทันจนหมดอายุซะก่อนอีกด้วย

ยกตัวอย่างกรณีของเตาอบยี่ห้อดัง ลดราคาจากปก 10,000 บาท เหลือเพียง 3,000 บาท เนื่องจากโละสต๊อกสินค้ารุ่นเก่า คุณควรถามตัวเองว่า ปัจจุบันคุณมีเวลาทำอาหารบ่อยแค่ไหน ซื้อมาแล้วจะใช้มันกี่ครั้งต่อเดือน และจะใช้มันทำอะไรได้อีกบ้าง ถามจนได้คำตอบ เช่น คุณมีโครงการทำเบเกอรี่โฮมเมดขายเป็นอาชีพเสริม แบบนี้ควรตัดสินใจซื้อเป็นอย่างยิ่งแต่หากคุณไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้เลย เพียงแค่เห็นลดราคาเลยอยากได้มาเก็บไว้ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรเลย ดังนั้นไม่ซื้อจะดีกว่านะคะ เอาเงินเก็บไว้ซื้อสิ่งของที่จำเป็นจะดีกว่า

ถ้าคุณฝึกตัวเองแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่นานคุณก็จะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงิน มีชีวิตที่มั่งคั่งและมั่นคง ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่เกินตัวอีกต่อไป ซึ่งคุณสามารถที่จะวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น ค่าใช้จ่ายก็จะลดน้อยลง แถมยังสามารถใช้เงินได้อย่างประหยัดและทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้นอีกด้วยนะ ไม่ว่าใครก็อยากจะมีฐานะทางการเงินดีและมีเงินเหลือเก็บพอใช้กันใช่ไหมเอ่ย เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะบริหารการใช้จ่ายของตัวเองให้ดีนะคะ

ขอขอบคุณที่มา:www.lady108.com