Social :



จัดการความโลภด้วยปัญญา

31 ส.ค. 60 06:00
จัดการความโลภด้วยปัญญา

จัดการความโลภด้วยปัญญา

จัดการความโลภด้วยปัญญา



ความโลภ โกรธ หลง เป็นธรรมชาติพื้นฐานที่ติดตัวมากับมนุษย์เกือบทุกคน  และ 3 อย่างนี้เป็นเหตุให้มนุษย์วนเวียนอยู่ในความทุกข์ ช่วงนี้มีข่าวต้มตุ๋นหลวงลวงทางการเงินการลงทุนอยู่บ่อยๆ  จุดอ่อนที่ทำให้เราถูกหลอกคือความโลภนั่นเอง บทความนี้มีแนวทางในการพิจารณา เกี่ยวกับการลงทุนที่เข้าข่ายหลอกลวงมากฝาก  ถ้ามีใครมาชักชวนเราไปลงทุน ลองดูว่า เข้าข่าย 5 ข้อนี้หรือไม่


ข้อ 1 การลงทุนที่ได้ผลตอบสูงๆและได้มาง่ายๆ โดยไม่ต้องลงแรงอะไรเลย
ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงๆนั้นมี แต่ต้องแลกมาด้วยการทำงานหนัก ต้องคิดวิเคราะห์ ต้องใช้ความรู้ความสามารถ ต้องบริหารจัดการอย่างดีเยี่ยม จึงจะได้ผลตอบแทน  ไม่ใช่การเอาเงินไปวางไว้เฉยๆ แล้วอยู่ๆเงินจะงอกเงยออกมาเป็นสิบเท่าร้อยเท่า  อันนี้ดูจะเกินเลยความเป็นจริงไปหน่อย ถ้ามีคนมาชักชวนแล้วให้ผลตอบแทนแบบนี้ ให้ระวังเอาไว้ให้ดี เพราะอาจมีเรื่องปิดบังอำพรางเราอยู่

 
ข้อ 2 การลงทุนที่รับประกันผลตอบแทนในอัตราที่สูง
 ใช้หลักการง่ายๆคือ ถ้าสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ คือประมาณร้อยละ 8 ต่อปี หรือ 0.7% ต่อเดือน นั่งให้พึงระวัง เพราะธรรมชาติของทุกการลงทุนมีความเสี่ยง  หากใครมาเสนอผลตอบแทนที่มีค่าสูงกว่าปกติ คือสูงกว่า กู้เขามาลงทุน  อาจเป็นข้อชี้ให้เห็นว่า การลงทุนนั้นผิดปกติ ต้องตรวจสอบให้ดี

 
ข้อ 3  การลงทุนที่เหมือนแชร์ลูกโซ่ หรือจะได้ผลตอบแทนมากขึ้นเมื่อไปชักชวนผู้อื่นให้มาลงทุน
 เพราะกำไรที่ได้อาจมาจากเงินต่อเงิน เอาเงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่า  แม้ว่าเราจะได้กำไรก็จริง แต่ผลกำไรนั้นไม่ได้เกิดจากการลงทุนอย่างแท้จริง
MulticollaC
วันหนึ่งก็ต้องพบจุดจบ เรื่องแดงขึ้นมาจนได้ เพราะฉะนั้น ต้องเอะใจ หากมีใครชักชวนลงทุนแนวนี้ อย่างเพิ่งผลีผลามควักเงินไปลงทุนกับเขาง่ายๆ

 
ข้อ 4 การลงทุนที่มีเงื่อนไขในการถอนเงิน
หรือมีข้อจำกัดมากมายที่ทำให้เอาเงินออกมายาก เหมือนว่าตอนฝากเงินเข้านั้นง่าย แต่พอจะถอนออกไปกลับต้องมีเงื่อนไขมากมาย เช่น ต้องเพิ่มทุนเข้าไปก่อน ถึงจะถอนได้ หรือต้องถ้าจะถอนเงินต้องไปชวนคนอื่นมาลงทุนต่อเป็นต้น เงื่อนไขแบบนี้ถือว่าอาจมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่การลงทุนแบบปกติทั่วไปแน่ๆ

 
ข้อ 5 การลงทุนที่ไม่ถูกกฎหมาย หรือไม่อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย
 การลงทุนบางรูปแบบอาจถูกกฎหมายในต่างประเทศ แต่ถ้าไม่อยู่ภายใต้กฎหมายของไทย ก็ทำให้ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ ถ้าเกิดปัญหาการโกง หรือยักยอกทรัพย์กันขึ้นมา  ทำให้ผู้ลงทุนจะติดตามเอาเงินที่ลงทุนไปกลับคืนมาได้ยาก

 
ทั้ง 5 ข้อนี้เราสามารถจดจำมาใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาการลงทุนในเบื้องต้น หรือใช้เป็นตัวคัดกรองในเบื้องต้นว่า การลงทุนนั้นๆเข้าข่ายการหลอกลวงหรือไม่  ถ้าเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง ให้พึงระวังไว้ว่า อาจเป็นกลอุบายของพวกมิจฉาฃีพ หรือพวกหลอกลวง  การที่นักต้มตุ๋นเหล่านี้ยังคงดำรงอยู่ได้ เพราะใจมนุษย์นั้นมีความโลภและความหลง  หลงเข้าใจผิดคิดไปว่า ตัวเองจะโชคดี ได้อะไรมาง่ายๆฟรีๆ แบบไร้เหตุผล  โลภเพราะคิดว่า ได้แล้วอยากได้มากยิ่งขึ้นไปอีก  สิ่งที่จะยับยั้งเรื่องเหล่านี้ได้คือ สติปัญญา และความรู้ของเราเอง ต้องรู้ทันตัวเอง และรู้ทันคนอื่น และรู้ความเป็นไปของธรรมชาติแห่งการลงทุนที่ต้องมีความเสี่ยง ต้องคิดวิเคราะห์ และได้ผลตอบแทนในอัตราที่เหมาะสม และด้วยช่องทางที่ถูกที่ควร  ดังนั้นก่อนการลงทุนทุกครั้งต้องจำให้ขึ้นใจ โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆฟรีๆ  คนหลอกลวงมีอยู่ทุกที่ พร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนแห่งความโลภและหลงของมนุษย์อยู่เสมอ





ขอขอบคุณที่มา:moneyhub.in.th

โพสต์โดย : Wizz