Social :



สุดยอดความกลัวของคนที่อยากเป็นนายตัวเองแต่ทำไม่ได้

11 ก.ย. 60 07:00
สุดยอดความกลัวของคนที่อยากเป็นนายตัวเองแต่ทำไม่ได้

สุดยอดความกลัวของคนที่อยากเป็นนายตัวเองแต่ทำไม่ได้

สุดยอดความกลัวของคนที่อยากเป็นนายตัวเองแต่ทำไม่ได้




มีหลายคนมากตัดสินใจอยากลาออกจากงาน ถ้ามาถามผมจริงๆว่าควรลาออกหรือไม่ ผมไม่สามารถชี้ชัดให้คุณได้เพราะความศรัทธาในอนาคตของแต่ละคนมันแตกต่างกัน แต่ถ้าถามว่าจะลาออกดีมั้ย…??? ผมตอบเลยว่าดี…!!! เพราะสุดท้ายปลายทางของคนที่ไม่ได้ทำงานข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจคืออะไรคุณกับผมเราย่อมทราบกันดี มันแค่วันนี้หรือพรุ่งนี้เท่านั้น การเอาความกลัวซ่อนไว้ใต้พรมแล้วหลับหูหลับตาทำงานเรื่อยๆ โกหกตัวเองว่าวันหนึ่งชีวิตของคุณจะประสบความสำเร็จจากความกล้าที่ไม่มีที่มาที่ไป นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งกว่า ยิ่งถ้าคุณมีภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนกันแบบหลายๆๆๆๆปีในขณะที่ทำงานประจำเพียงอย่างเดียว หารู้ไม่ว่าชีวิตคุณลงล็อคของแท้ มันเสี่ยงยิ่งกว่าการตัดสินใจลาออกจากงานเสียอีก ปัญหาจริงๆของคนที่อยากลาออกจากงานแต่ไม่กล้าคืออะไร เพราะมันไม่มี “เงินเดือน” มาการันตีชีวิตให้อุ่นใจ เศรษฐกิจไม่ดี จังหวะไม่ได้ หรือดวงไม่เอื้อ ทั้งหมดไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆทั้งนั้น มันเป็นข้ออ้างที่จะช่วยทำให้คุณสบายใจจากการไม่ต้องตัดสินใจ อย่าลืมว่ามหาอำนาจอย่าง Google กับ Apple ก็ถือกำเนิดในยุคที่เศรษฐกิจอเมริกาหายนะเหมือนกัน ก่อนที่ผมจะเฉลย ผมอยากให้คุณอ่านและค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง

สิ่งที่น่าลุ้นสุดๆคือหากคุณไม่ลาออกจากงาน ชีวิตของคุณจะได้ความมั่นคงมาแทนที่ อาทิเช่นคุณทำงานประจำได้เงินเดือน 25,000 บาท ภายใน 1 ปีคุณจะทำเงินได้ 300,000 บาท โบนัสเอาเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีกับประกันสังคมละกัน และไม่มีทางได้เกิน 300,000 บาทเช่นกัน นี่คือการแลกเปลี่ยน ได้แน่ๆ และไม่ได้มากกว่านี้แน่ๆ แล้วมันเลวร้ายตรงไหน คำตอบคือไม่เลวร้ายตราบใดที่คุณรักมัน แต่ถ้าคุณไม่อยากไปทำงานประจำอีกแล้ว รู้สึกตัวเองคล้ายซอมบี้ตอนทำงานแต่เป็น เทพ โพธ์งาม ตอนวันหยุด การเอาเวลาทำงานต่อปีรวมการเดินทาง 3,168 ชั่วโมงไปแลกเงินก้อนนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากนรกบนดิน

ทีนี้มาดูการเป็นนายตัวเอง แน่นอน ข้อเสียสุดๆของการเป็นนายตัวเองนั่นคือไม่มีความมั่นคงให้อุ่นใจ แต่นั่นหมายถึงคุณมีสิทธิ์ทำเงินได้เดือนละ 0 บาท (ไม่มีรายได้เลย) จนกระทั่งเดือนละล้านก็เป็นไปได้ ดูขายฝันแต่กรุณาอย่าลืมว่าในเทปสัมภาษณ์ Startyourway ก็มีนายตัวเองที่สามารถทำเงินได้เดือนละ 5 หลักจนถึง 7 หลักตั้งหลายท่าน ลองคิดดูนะครับ ถ้าคุณสามารถก้าวไปถึงระดับเดือนละล้านได้จริง นั่นหมายถึงคุณประหยัดเวลาไป 3 ปีเต็มๆ ทำงานประจำเงินเดือน 25,000 บาทต้องใช้เวลา 3 ปีกว่าๆ แต่การเป็นนายตัวเองใช้เวลาเดือนเดียว



พรประการหนึ่งที่นายตัวเองทุกคนมีสิทธิ์ได้รับ คือการกำหนดชั่วโมงทำงานโดยไม่เกี่ยวกับรายได้ตามใจปรารถนา คุณจะออกแบบไลฟ์สไตล์ให้ทำงานเป็นทาสหนักแบบ 24 ชั่วโมงจนกระอักเลือดตายไปเลยก็ได้ หรือจะเอาแบบเบาๆ ชิลๆ ทำงานวันละ 1 ชั่วโมงหรือน้อยกว่าก็ได้ คุณจะสร้างระบบด้วยการมีลูกน้องให้ปวดหัวเล่นๆก็ได้ หรือจะลุยเดี่ยวเป็น Solopreneur ทำคนเดียว แก้ปัญหาคนเดียว รวยคนเดียวเลยก็ได้ ที่สุดยอดมากๆก็คือคนทำงานด้วยชั่วโมงที่น้อยกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำรายได้ได้น้อยกว่า คนที่ไม่มีลูกน้องก็ไม่ได้หมายความว่ารายได้จะแพ้คนมีลูกน้อง ผิดกับการทำงานประจำที่จะต้องใช้เวลา 9 โมงเช้า – 6 โมงเย็นเท่ากันทุกคน และปวดหัวกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นปัญหาโลกแตกทุกออฟฟิต พูดง่ายๆก็คือชั่วโมงการทำงานกับจำนวนผู้ร่วมทีมไม่ได้เป็นตัวกำหนดเพดานรายได้เลย

การเลือกสถานที่การทำงานก็เช่นกัน ทุกวันนี้ผมเป็น Freelance สามารถทำเงินได้โดยไม่มีขอบเขตของสถานที่มาเกี่ยวข้อง ขอแค่มี Notebook กับ Internet ก็สามารถทำงานได้ทุกที่ในโลก ตอนที่ผมพิมพ์บทความอยู่นี้ ผมกำลังอยู่สุราษฏ์ธานีในวันพฤหัสบดีและรายได้ไม่ได้ลดไปเลย ถ้าคุณคิดว่าผมเจ๋งแล้ว ลองฟังเทปของครูวี ครูสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ Startyourway นายตัวเองคนที่ 6 ดู ครูวีสามารถทำเงินที่ไหนก็ได้บนโลก เงื่อนไขคือมี Pocket Wifi กับ iPhone เท่านั้น อิสรภาพสุดๆ ถ้าเทียบกับตอนทำงานประจำ ผมต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์สเป็คต่ำในออฟฟิตตลอดเวลาทำงาน หมดสิทธิ์เดินห้างในวันจันทร์โดยไม่ถูกหักเงิน

ข้อดีต่อไปนี้คุณอาจจะร้องว้าวเลยก็ได้ “อำนาจในการปฏิเสธอยู่ในมือคุณ” นั่นคือถ้าคุณเจอลูกค้างี่เง่า เรื่องมาก เรียกร้องกับคุณราวกับคุณเป็นขี้ข้า คุณสามารถใช้สิทธิ์ขาดของคุณไม่ขายสินค้าหรือบริการได้ทันที ลูกค้าไม่ได้เป็นพระเจ้าเสมอไป ถ้าการขาดรายได้จากลูกค้าเจ้าปัญหามันไม่ได้ทำให้คุณเดือดร้อน และช่วยไม่ต้องทำให้คุณกินยาคลายเครียดก่อนนอนทุกคืน มันคุ้มมากๆ แต่ถ้าคุณทำงานประจำ หน้าที่ของคุณคือบริการให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ไม่ว่าจะถูกด่าอะไรยังไงก็ตาม ต้องยิ้ม
MulticollaC
ต้องบริการชั้นเลิศ บางครั้งความเฮงซวยนั้นอาจจะมาอยู่ในรูปแบบของหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานอันนี้ยิ่งแล้วกันไปใหญ่ ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิในการปฏิเสธเลย

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณหันหลังให้องค์กร คำตอบก็คือรายได้ของคุณก็หดหายไปเลยหนะสิ แต่ถ้าคุณเป็นนายตัวเอง คุณสามารถยกหน้าที่ของคุณให้คนอื่นดูแลแทนได้ไม่ว่าจะชั่วคราวหรือถาวร ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ หากคุณทำงานประจำเงินเดือน 30,000 บาท คุณไม่สามารถเอาคนที่ทำงานกินเงินเดือน 20,000 บาทมานั่งทำงานแทนคุณแล้วกินค่าดำเนินการ 10,000 บาทได้ หยุดทำงานคือจบ ส่งต่อตำแหน่งหน้าที่ให้ลูกหลานไม่ได้ แต่ถ้าเป็นธุรกิจของคุณเองหละ คำตอบคือทำได้ 100% ขึ้นอยู่กับความเก่งในการใช้คนของคุณ ถ้าคุณไม่ชอบคุยกับคน ก็มีนายตัวเองมากมายที่ใช้เทคโนโยลีมาทำงานแทนตัวเอง อย่างน้อยตอนที่คุณอ่านบทความนี้ เว็บ Vittarot Startyourway Google Youtube Twitter Facebook กำลังทำงานประชาสัมพันธ์สิ่งที่ผมทำแทนผมอยู่ ส่วนผมอาจจะหลับยังไม่ตื่น กิน MK นวดเท้าในสปา หรือดูหนังเรื่อง Fantastic 4 ใน Major อยู่ก็ได้

สิ่งเหล่านี้คือข้อดีสุดๆของการเป็นนายตัวเอง แล้วอีกด้านหนึ่งคืออะไร…???

Startyourway อยู่ฝั่งอวยสถานะนายตัวเองขี้แตกขี้แตน คำถามคือถ้าการเป็นนายตัวเองมันดีขนาดนี้ ทำไมยังมีคนมากมายก้มหน้าก้มตาทำงานประจำทั้งๆที่อยากลาออกใจจะขาด หรือคำตอบจะคือพวกเขากลัวคำว่า “ความล้มเหลว” ขึ้นสมอง ในประเทศไทยสอนให้ความล้มเหลวเป็นสถานะที่ต้องถูกเหยียบซ้ำในฐานะคนไม่เจียมตัว คนฉลาดที่กล้าทำอะไรบ้าๆมักถูกหัวเราะเยาะและวิจารณ์มากกว่าคนโง่ที่ไม่คิดทำอะไรเลย ไม่มีใครอยากถูกหัวเราะเยาะ ถ้าให้สรุปแบบกำปั่นทุบดิน มนุษยเงินเดือนส่วนใหญ่กลัวคนอื่นมองตัวเองด้วยสายตาที่ไม่ชื่นชม หลักฐานคือพวกเขายอมจ่ายเงินมากมายเพื่อภาพลักษณ์ที่ไม่มีใครสนใจ และปวดหัวกับการเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ใดๆเลย

รถก็ต้องแพงๆ บ้านก็ต้องหลังโตๆ โทรศัพท์มือถือก็ต้องเกิน 20,000 บาท Facebook ต้องเต็มไปด้วยอาหารมีราคากับไลฟ์สไตล์แบรนด์เนม เคยมีมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งถามแฟนผมว่า ทำไมผมไม่ขับ Civic ทำไมขับ Mirage พอผมได้ยินก็คิดในใจ “มึงช่วยกูผ่อนมั้ย ไอ้สาด…!!!” เพราะจมไม่ลง เลยไม่กล้าเป็นนายตัวเองกันจริงๆจังๆ เจ๊ออจัง ซูชิ ที่มีลูกน้องกว่า 10 ชีวิต กับร้านขายอาหารของตัวเองอีก 5 สาขา Startyourway เทปสัมภาษณ์ที่ 1 ยอมทิ้งชีวิตมนุษย์เงินเดือนมาเป็นแม่ค้าตลาดนัด ล้มลุกคลุกคลานสารพัดจนลืมตาอ้าปากได้ เล่าให้ผมฟังว่า ทันทีที่เพื่อนๆรู้ว่าพี่ออจังเป็นแม่ค้า พวกเขาเลิกคบทันที และทุกวันนี้ก็ยังถูกมนุษย์เงินเดือนดูถูกกรายๆ ถ้าคุณอยากรู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไง จริงหรือไม่ คงต้องถามเจ้าตัวดูเอง

กลับมาเข้าเรื่องเงินกันต่อ ฟังแล้วอย่าหัวใจวายนะครับ นายตัวเองทุกคนที่ผมสัมภาษณ์ ขอย้ำว่าทุกคนนะครับ ใช้เงินต่ำกว่าฐานะ ไม่มีใครสนใจภาพลักษณ์บ้าบอ สินค้าราคาแพง หรือไลฟ์สไตล์ที่ต้องอวดร่ำอวดรวย อาจจะมีบ้างที่ซื้อของแพงเป็นรางวัลให้กับชีวิตตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้ตกเป็นเครื่องมือของวัตถุนิยม เพราะรู้ดีว่าการเป็นนายตัวเองไม่มีความมั่นคงให้อุ่นใจ พวกเขาจึงไม่คิดทุ่มเงินของตัวเองไปกับสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เลือกชีวิตสบายๆดีกว่าใช้เงินแบบเดือนชนเดือน



ที่สำคัญที่สุด มนุษย์เงินเดือนชอบมองสินค้าราคาแพงแบบเข้าข้างตัวเองว่ามันจะทำให้การทำงานนั้นง่ายขึ้น ความน่าเชื่อถือนั่นเพิ่มขึ้นทั้งๆที่มันไม่เป็นความจริงเลย อย่างน้อยก็ไม่เคยมีมนุษย์เงินเดือนคนไหนรายได้เพิ่มขึ้นจากการซื้อของแพงมาใช้ ผมเคยเอามือถือ Nokia ที่ผมใช้เครื่องละ 3,000 กว่าบาทวางบนโต๊ะ ใส่รองเท้าเเตะคู่ละ 299 บาท ขับรถรุ่นคุณปู่เก่าๆอายุเกือบ 20 ปีคุยงานกับนักธุรกิจที่มีเงินหลายสิบล้าน พวกเขาไม่สนใจวัตถุที่ผมใช้แม้แต่นิดเดียว สิ่งที่พวกเขาสนใจจริงๆเขาจะได้อะไรจากผมต่างหาก และผมก็ได้งานจากนักธุรกิจท่านนั้นมาเสียด้วย

สุดยอดความกลัวของมนุษย์เงินเดือนไม่ใช่ยอมรับความล้มเหลวไม่ได้ แต่ยอมรับสายตาคนอื่นที่มองตัวเองว่าล้มเหลวไม่ได้ เลิกคิดถึงตัวเองในมุมมองของคนอื่นได้เมื่อไหร่ การเป็นนายตัวเองก็ไม่ไกลเกิน 1 ฝ่ามือครับ เออ เส้นทางการเป็นนายตัวเองมันอยู่กับคุณมาตั้งนานแล้ว จะทำหรือไม่ทำมันก็เรื่องของคุณ





ขอขอบคุณที่มา:www.startyourway.com

โพสต์โดย : Wizz