Social :



8 วิธี เปลี่ยนวันทำงานให้เป็นวันพิเศษ

23 ก.ย. 60 06:00
8 วิธี เปลี่ยนวันทำงานให้เป็นวันพิเศษ

8 วิธี เปลี่ยนวันทำงานให้เป็นวันพิเศษ

8 วิธี เปลี่ยนวันทำงานให้เป็นวันพิเศษ



"สุขใดเล่า จะเท่าศุกร์ เสาร์ อาทิตย์" เหล่าคนทำงานทั้งหลายคงพยักหน้าเห็นด้วยกับประโยคข้างต้นนี้...แน่ล่ะ ก็วันทำงานมันออกจะน่าเบื่อนี่นา!

          จะดีกว่าไหม หากเราจะเปลี่ยนวันทำงานจันทร์-ศุกร์ ให้กลายเป็นวันพิเศษ ขนาดที่พูดใหม่ได้เลยว่า "สุขใดเล่า จะเท่าจันทร์ อังคาร พุธ ฯ..." ถ้าอยากเปลี่ยน มาทำตาม 8 ต่อไปนี้กันดีกว่า

             1. หัวเราะเข้าไว้... ช่วยให้สมองแล่น

          งานวิจัยจากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดา ระบุว่าอารมณ์ของคนเรามีผลต่อการประมวลผลข้อมูลของสมอง ถ้าอารมณ์ดีจะช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์ ในทางกลับกันถ้าอยู่ในอารมณ์หวาดวิตก เคร่งเครียด หรือแม้แต่มีความมุ่งมั่นมากเกินไป จะมีผลทำให้คิดอะไรไม่ออก สมองไม่แล่น อารมณ์ดีหรือไม่ดีมีผลต่อกระบวนการคิดและแก้ปัญหาในเชิงสร้างสรรค์ของคนเรามากทีเดียว

          ดังนั้น ถ้าคิดงานเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก อย่าลืมมีอารมณ์ขันระหว่างทำงานบ้าง การหัวเราะจะช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) นักวิชาการบางท่านนิยามสารชีวเคมีนี้ว่าเป็น "สารสุข" ทำให้เราอารมณ์ดี มีความสุข และช่วยให้ไอเดียบรรเจิดเกิดความคิดสร้างสรรค์ เรื่องไหนที่สมองกำลังตันก็จะแล่นฉิวทีเดียว

              2. ไปถึงที่ทำงานให้เร็วขึ้นสัก 10 นาที และเริ่มต้นวันด้วยกิจกรรมที่คุณแฮปปี้

          ลองทำกิจกรรมที่ถูกใจก่อนเวลาเริ่มงาน เช่น ดื่มกาแฟที่โปรดปรานสักถ้วย อ่านนิตยสารที่ชอบ ฟังเพลงจังหวะซอฟท์ ๆ นั่งสมาธิเงียบ ๆ ถ้าถือคติว่าเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ก็เชื่อได้เลยว่าวันนั้นทั้งวันงานคุณจะราบรื่นไม่มีสะดุด

              3. ขอเวลานอกสั้น ๆ วันละ 3 ครั้ง

          เมื่อเริ่มงานได้สักพัก คุณอาจเริ่มพิมพ์งานไม่คล่องสมองไม่แล่น อย่าไปนั่งกดดันตัวเอง ลองขอเวลานอกออกไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสายให้สบายเนื้อสบายตัวสัก 5-10 นาที (คำเตือน : ระวัง อย่าหายตัวไปนาน อาจถูกหักเงินเดือนได้นะจ๊ะ !)

          จากผลการวิจัยพบว่า คนเราจะมีสมาธิจดจ่อต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพราว ๆ 20 นาทีเท่านั้น เมื่อผ่านยี่สิบนาทีทองนี้ไปแล้ว ก็มีแนวโน้มว่างานจะเริ่มผิดพลาดมากขึ้น ดังนั้น หากรู้ตัวว่าเริ่มไม่มีสมาธิ ให้ลุกไปหาอะไรทำคั่นเวลาสักหน่อย (ย้ำ....หน่อยเดียวนะจ้ะ อย่าเถลไถล !) แล้วค่อยกลับมาลุยงานต่อ 

          1 นาทีก็ผ่อนคลายได้

          อาจมีบางวันที่เวิร์คกิ้งวูแมนหรือเวิร์คกิ้งแมน จำเป็นต้องออกไปนำเสนองานหรือเข้าร่วมประชุมอย่างกะทันหัน โดยยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ Secret ขอนำเสนอวิธีคลายความประหม่าตื่นเต้นภายใน 1 นาที ! 

          วิธีที่ 1 ประสานมือโดยให้นิ้วมือทั้ง 5 มาจรดกัน หายใจเข้าออกอย่างมีสมาธิ 2-3 ครั้ง คุณจะพบความสงบสบายในจิตใจ วิธีนี้เป็นเคล็ดลับที่หลายคนใช้เรียกความมั่นใจเมื่อต้องพูดต่อหน้าคนหมู่มาก... ซึ่งใช้ได้ผลทีเดียว

Lif
          วิธีที่ 2 เพ่งสมาธิไปที่ลมหายใจ โดยหายใจเข้าลึก หายใจออกยาวจากท้อง ถ้ามีเวลาให้นึกถึงฉากหลังอันแสนสงบ เช่น ภูเขา สวนดอกไม้ ริมแม่น้ำ แล้วค่อย ๆ ท่องคำพูดง่ายๆที่ช่วยให้ใจสงบ เช่น "ฉัน-สงบ" "ฉัน-ทำได้-แน่นอน"

              4. ทำใจให้มีความสุขในการทำงานร่วมกับคนอื่น

          ในชีวิตการทำงาน เราอาจต้องพบปะสัมพันธ์กับคนที่มีความคิดแตกต่าง อย่ามองว่านั่นเป็นปัญหา ให้มองมุมใหม่ว่าการได้ร่วมงานกับคนที่มีทักษะและทัศนคติแตกต่างจากเรา จะช่วยทำให้ผลงานมีประสิทธิภาพและหลากหลายมากยิ่งขึ้น อ๊อฟชั่นเสริม ช่วยได้ !

          หากต้องอยู่ในที่ทำงานรวมกับกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันมากๆ เช่น คุณต้องการสมาธิขณะร่างสัญญา ส่วนเจ้านายชอบคุยโทรศัพท์เสียงดัง... อย่าปล่อยให้เรื่องยิบย่อยอย่างนี้มากวนใจ ลองพกลูกบอลคลายเครียดติดตัวไว้ ยามใดที่คุณถูกรบกวนมาก ๆ การบีบลูกบอลคลายเครียดโดยเอาใจเพ่งไปที่มือจะช่วยลดความตึงเครียดได้ หรือหากที่ทำงานมีเสียงดัง ก็อย่าลืมพกที่อุดหูติดกระเป๋าไว้ เพราะเสียงอึกทึกอาจทำให้คุณเครียดโดยไม่รู้ตัว

              5. เสริมความมั่นใจให้ตัวเองด้วยการนั่งตัวตรงเสมอ

          ยืดตัวให้ตรง นั่งทำงานในท่าที่ถูกสุขลักษณะ จินตนาการประหนึ่งว่ามีคนกำลังดึงเชือกบนศีรษะของคุณขึ้นจนตึง วิธีนี้นอกจากวิธีนี้จะส่งผลดีต่อแผ่นหลังแล้ว การนั่งตัวตรงยังช่วยเสริมให้ผู้นั่งเกิดความมั่นใจและภูมิใจในตัวเองด้วย

          และควรเลือกขนาดโต๊ะ-เก้าอี้ให้เหมาะสมกับสรีระ โดยเฉพาะเก้าอี้ควรเลือกที่มีพนักพิงรองรับแผ่นหลัง ปรับเอนได้ตามความเหมาะสม ควรมีหมอนหนุนระหว่างช่วงหลังกับพนักพิง และเวลานั่งต้องนั่งให้เต็มก้น วางปลายเท้าให้แนบสนิทไปกับพื้น 

              6. สร้างแรงบันดาลใจก่อนจัดการปัญหาหนักใจ

          หากต้องทำงานที่ยากเป็นพิเศษหรือเจอปัญหาหนัก ลองอ่านชีวประวัติหรือดูภาพยนตร์เกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต พวกเขาหรือเธออาจสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้ หรือไม่ก็ลองอ่านหนังสือธรรมะในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่หนักใจ แล้วคุณจะพบว่าปัญหาที่คุณประสบอยู่...ที่แท้มันก็แค่เรื่องเล็กจิ๊ดเดียว! (อ่าน Secret ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่เลวนะ... ขอบอก !)

              7. ค่อย ๆ ผ่อนงานให้เบาลงในช่วงท้ายของวัน

          คนส่วนใหญ่มักเอ้อระเหยในช่วงเช้าที่เพิ่งเข้าทำงาน และช่วงบ่ายหลังทานอาหารกลางวัน ก่อนจะมาเร่งตัวเองในช่วงเย็นจนทำให้ต้องกลับบ้านดึกดื่น เราขอแนะนำให้คุณลองเปลี่ยนตารางงานใหม่ พยายามฟิตสมองและร่างกายมุทำงานชิ้นใหญ่ในระหว่างวัน ส่วนงานที่ชอบหรือถนัดค่อยเก็บมาทำในช่วงท้ายๆ ใกล้เวลาเลิกงาน... คุณจะได้ออกจากที่ทำงานอย่างผ่อนคลายมากขึ้น

              8. เดินทางกลับบ้านในช่วงที่ถนนว่าง...ขึ้นอีกนิด

          ทุกคนคงอยากกลับไปพักผ่อนที่บ้านเร็วๆ จึงทั้งรีบทั้งเร่งพาตัวเองเข้าไปนั่งในรถที่แออัดไปด้วยผู้คน และต้องติดแหงกอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง ๆ กว่าจะฝ่าดงรถติดมรณะไปได้ก็แทบจะหมดแรง ขอแนะนำว่าไม่ควรเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน รอให้ผู้คนหรือรถราเบาบางลงแล้วค่อยกลับ ถ้าหากจำเป็นต้องกลับช่วงเวลานั้นก็อย่าลืมหยิบหนังสือดีๆ ติดมือไว้สักเล่ม จะฟังซีดีธรรมะหรือเปิดเพลงเพราะ ๆ ฟังระหว่างรอรถข้างหน้าขยับก็ช่วยได้ หรือไม่ก็ใช้เวลาว่างทบทวนสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นและได้ทำในวันที่ผ่านมา ก็ช่วยให้คุณผ่อนคลายได้เหมือนกัน

          8 วิธีง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็อาจเปลี่ยน "วันศุกร์" ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยมาทั้งอาทิตย์ ให้กลายเป็น "วันสุข(สดชื่น)" ได้ไม่ยาก !





ขอขอบคุณที่มา:icare.kapook.com

โพสต์โดย : Wizz