Social :



จริงหรือมั่ว! พิสูจน์พระพ่นไฟรักษาโรค?

12 ต.ค. 60 06:10
จริงหรือมั่ว! พิสูจน์พระพ่นไฟรักษาโรค?

จริงหรือมั่ว! พิสูจน์พระพ่นไฟรักษาโรค?

กลายเป็นเรื่องราวที่ฮือฮาสนั่นโซเชียลเลยทีเดียว ในกรณีที่โลกออนไลน์แชร์ภาพ พระสงฆ์รูปหนึ่งพ่นไฟในงานบุญ ทอดกฐิน-ผ้าป่า ที่ จ. สุรินทร์ ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า.....ช่วยปัดเป่า เสริมมงคลก่อนงานบุญ จนกระทั่งเกิดกระแสท้วงติงถึงความไม่เหมาะสม และตั้งคำถามว่านั่นพระหรือนักมายากลกันแน่ เรื่องจริงหรือแค่เรื่องแหกตา จนกระทั่งรายการโหนกระแสวันที่ 11 ต.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”  ทางช่อง 33

ได้เชิญ “พระปลัดรัตนชัย อหิงสโก” เจ้าอาวาสวัดป่ารัตน์สุทธิกระทม ซึ่งเป็นพระพ่นไฟที่กำลังฮือฮาในโลกโซเชียล รวมไปถึงลูกศิษย์ “นางวรัญญา ตระกูลดี” หรือ “แม่อึ้ม” และ “คุณนวลนภา สืบเสาะเสม” หรือ “แม่นวล” รวมทั้งเชิญ “พระมหาไพรวัลย์ วะระวันโน” พระภิกษุวัดสร้อยทองมาร่วมพูดคุยกันในรายการ

 

ซึ่งทางเจ้าอาวาส ได้เผยว่า..... พระปลัดก็เหมือนเป็นตำรวจพระ ในภาพคืออาตมากำลังเป่าสิ่งไม่ดี ปกติเขาไปรักษาใน รพ. แล้วไม่หาย เช่นเดินไม่ได้เจ็บขาเจ็บแข้งมาให้ช่วย ก็เป่า ก็หายกัน ก็เห็นมากันทุกปี มาวันนึง 70-80 คนทุกวัน



ที่มาที่ไปวิชานี้เอามาจากไหน?

เจ้าอาวาส : แต่ก่อนเดินตามหลวงปู่สรวง ท่านก็มีกองไฟไปด้วย อาตมาก็เป็นเด็กน้อยเดินตามท่าน ท่านก็ให้ชุดสีขาวไว้ เป็นผ้าขาว หลวงปู่สรวงท่านจะห่มลายห่มเหลืองบ้าง ท่านจะทำเหมือนปุถุชนคนธรรมดา ดำนามั่ง แล้วก็มาได้เจอท่าน จนได้บวชก็เจอท่านอีก ตอนท่านจะละสังขารก็เจออีก ท่านก็เสกมัน(หัวมันที่ชาวบ้านไปขุด) ให้ฉันตอนที่ละสังขาร ก็เรียกอาตมาไป ท่านเอาไปเผา แล้วหลวงปู่สรวงก็เรียกไปนั่งกับท่านที่ชนบท เป็นกระท่อมนาตายายท่านก็ให้ฉันมัน หลวงปู่สรวงให้ฉัน 6 อัน หลวงปู่ฉัน 2 ชาวบ้านให้ฉันก็ฉัน

 

เป็นการเพิ่มวิชาเหรอ?

เจ้าอาวาส : ก็ไม่รู้ท่าน แต่ท่านจับอะไรก็เป็นของวิเศษหมด เราจะเชื่ออย่างนี้

 

พระอาจารย์เอาวิชานี้มาอย่างไร หลวงปู่สอนให้?

เจ้าอาวาส : มันเป็นโดยจิตพาไปเอง ซึ่งการพ่นไฟก็ต้องมีคาถา เขาก็หายกัน อย่างเช่นคุยกับ รพ.ไม่รู้เรื่อง สติฟั่นเฟือน มาให้อาจารย์เป่าก็จะหายแต่ถ้าแขนขาหักนี่ไม่ค่อยจะมี คือจู่ๆ เดินไปก็มีอาการขาชาไปข้างหนึ่ง เขาก็ว่าเส้นเลือดในสมองตีบ มาหาอาตมาก็เดินได้ ก็งงๆ อยู่เหมือนกันที่มาหาอาตมาก็เดินได้หลายท่าน

 

พ่นออกมาเองหรือดื่มสุราเข้าไปก่อนแล้วถึงพ่น?

เจ้าอาวาส : น้ำตาเทียนที่หยด สุราไม่ได้ ไม่ได้อมสุรา ใช้น้ำตาเทียนที่หยดลงมา เป็นไฟได้

 


หลายคนถามว่าพระหรือนักมายากล?

เจ้าอาวาส : ไม่รู้ เป็นพระแหล่ะ โดยกระแสของจิต ลูกศิษย์เขาบอกว่าอาตมาเป็นสายหลวงปู่สรวง ไม่ได้หลอกใคร คนฉะเชิงเทรา ที่ไปหากฐินแต่ละปี วันนั้นเป่ากัน 100 กว่าคน ก็หาย เดินได้หมดก็แห่มากฐินทุกปี เหมือนไล่สิ่งไม่ดีออกไป ถ้าไม่คลุมผ้าก็ไหม้ ตั้งแต่พ่นมาก็ไม่มีใครติดไฟ มันจะลุกแค่ชั่วขณะหนึ่งน้ำตาเทียม ไม่ใช่เอาน้ำมันมาใส่ผ้าขาว มันก็ไหม้หมด เป็นคาถาของหลวงปู่สรวง แล้วก็เป่าเข้าไป

 

ทำมานานเท่าไหร่?

เจ้าอาวาส : 8-9 ปี  ไม่เคยมีใครมาต่อว่าว่าหลอกลวง มีแต่มาถวายตังค์ นี่วันนี้ยังถวายค่าประตู 48000 แม่พันตำรวจโท

 

ท่านอวดอ้างหรือเปล่า?

เจ้าอาวาส : ไม่เลย ไม่มีแอบอ้าง มีแต่มาขอร้องให้ทำ

 

แม่อึ้มมารักษาอะไร?

แม่อึ้ม : จริงๆ มีไข้ด้วย ทีแรกก็ปฏิบัติอยู่ที่บ้าน ทีนี้ท่านก็เดินเข้าไป ท่านบอกว่าเบื้องบนสั่งให้มาดูแล ท่านบอกว่าให้มาดูแลแม่อึ้งเพราะแม่อึ้งก็ปฏิบัติมายาวนาน 9 ปี อยู่ๆ ท่านก็เดินเข้าไป เบื้องบนก็เหมือนนิมิต เหมือนญาณ เดินไปไม่รู้ตัว แล้วก็พูดๆ แม่ก็กราบ องค์นี้ท่านเคยพ่นไฟ ท่านก็บอกว่าเขาให้มาดูแล เพราะปฏิบัติมา 9 ปี บารมีสูงจะมีมารเข้ามา มีมารมาทำลาย เขาก็บอกแบบนี้ พออยู่มาก็ทำบุญ แล้วมีสิ่งไม่ดีเข้ามาจริงๆ หนึ่งคือกายไม่สบาย ป่วย มันเหนื่อย ทานข้าวไมได้ หายใจไม่ออก ก็ไปหาหมอ ก็ได้รับยามาอยู่ ก็ไม่หาย ใจก็สั่นๆ
MulticollaC
พอท่านเข้ามาท่านก็ดูแล

 

ท่านรักษาแม่ยังไง?

แม่อึ้ม : ท่านก็ดูแลพ่นไฟ พรมน้ำมนต์ให้ อาการก็ดีขึ้น ร่างกายก็ดีขึ้น ตอนแรกเป็นโรคกระเพาะ ต่อมาก็ไม่ได้เป็น ก็ดีขึ้น ไม่ได้คิดไปเองนะ อะไรที่เกิดขึ้นเราก็ดูแลอยู่

 

แม่นวลล่ะ รักษาอาการอะไร?

แม่นวล : พอดีช่วงนั้นมีอาการป่วย เป็นไข้เป็นเวลา จะเป็นช่วงเก้าโมงกับบ่ายสาม ไปทำงานแล้วรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกอยู่ดีๆ ก็ฟุบ จนเพื่อนถามว่าเป็นอะไร อาการแปลกๆ ก็เลยไปหาหมอ ตั้งแต่พ.ย. ปีที่แล้วจนหลังมี.ค. ก็กินยา ตอนแรกบอกว่าน่าจะเครียดลงกระเพาะ กินยาก็ไม่หาย ทานไปแล้วอาการก็เหมือนเดิม ทีนี้พอช่วง เม.ย.- พ.ค. ก็ไปปรึกษาท่าน ตอนแรกไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ที่อื่นก่อนนะ ไม่ได้มาหาท่าน พอมาปรึกษาท่าน ท่านก็บอกว่าเหมือนโดนน้ำมันพราย โดนของ

 

ยุคนี้ยังมีปล่อยน้ำมันพราย ปล่อยควายธนูอยู่เหรอ?

เจ้าอาวาส : มีอยู่ ที่โดนที่เห็นก็มีกันอยู่

แม่นวล : ถามว่าเราไปโดนได้ยังไง เราไม่เคยไปทำอะไรใคร ท่านก็เป่า จะใช้เคี้ยวหมากเป่าข้างหลัง เป่าอยู่สองครั้ง ก็รู้สึกดีขึ้น ไม่ได้ไปติดตามอีกนะ แต่พออยู่มาก็เป็นอีก ช่วงเดือนก.ย. เป็นหนัก เหมือนเพี้ยนๆ แต่ก็หาหมอตลอด ไม่ได้ทิ้งทางหมอนะ ไปเช็กสมอง เจาะเลือด เจาะจนพรุนแล้ว ตอนแรกกลัวว่าเป็นเบาหวาน ก็ไม่มี ถามว่าสาเหตุ ไปหาหมอที่รพ. ก็ไม่มีสาเหตุ หาหมอก็ไม่หาย ก็ไปบ่อยๆ เผื่อหาโรคไม่เจอ สุดท้ายมาหาท่าน ท่านก็เป่าน้ำหมากให้ ไม่ได้พ่นไฟ ครั้งที่สามก็รู้สึกดีขึ้น พอครั้งที่สี่ น็อกอยู่กลางทาง แน่นหน้าอก เราไม่ได้เป่าต่อเนื่องนะ เว้นะระยะเกือบ 20 วัน ท่านเป่าให้ครั้งที่สี่ ขี่มอเตอร์ไซด์กลับบ้านเวียนหัวแน่นหน้าอก มีอาการอาเจียนออกมา มีเหล็กออกมา อยู่สองคนกับคนเลี้ยงวัว เหล็กออกมาจากปากแล้วมีกลิ่นเหมือนยาสระผม พี่แน่นหน้าอกมากจนคนเลี้ยววัวบอกว่าน้องเป็นอะไร ก็เลยโทร.ไปหาพระอาจารย์ อ้วกออกมาแล้วมีเหล็ก ท่านก็บอกว่าให้เอาไปทิ้ง เลยเอากระดาษทิชชู่ห่อเอากลับไปบ้าน ที่บ้านก็บอกว่าพากันคิดว่ามันเป็นบ้า พอผลสุดท้ายเป็นแบบนี้จริง ก็เลยถามท่านว่าหลวงพี่จะดูมั้ยหนูกลัวมาก

เจ้าอาวาส : พอเป่าเสร็จก็ออกมาเอง หลายคนก็เป็น เขาถึงแห่กันไป ที่หมอรักษาไม่เจอ ขอร้องให้ช่วย แต่ถ้าหนักๆ ก็ต้องพ่นไฟ

 

ปี 53 ท่านเคยทำเป็นวัตถุมงคลให้ทางทหารเรื่องจริง?

เจ้าอาวาส : เรื่องจริง ช่วงเขมรไทยยิงกัน

 

ขอถามทางพระมหาไพรวัลย์ แบบนี้ผิดหรือไม่?

พระมหาไพรวัลย์ : ถ้าบอกว่าผิดถูกจะเป็นการตัดสินท่าน แต่ในแง่ความเหมาะสมไม่เหมาะสม เราพูดกันได้ เพราะจากที่ดูคลิปของหลวงพ่อท่าน ถ้าคนไม่รู้จักท่านมาก่อนจะตั้งคำถามว่าหลวงพ่อเป็นพระหรือเป็นฤาษี

เจ้าอาวาส : ก็เป็นพระนี่แหล่ะ

พระมหาไพรวัลย์ : คือพระปลัดใครก็เป็นได้ แต่ว่าเรามาพูดกับสิ่งที่หลวงพ่อท่านทำดีกว่า คือโอเค ญาติโยมหลวงพ่อเองอาจรู้จักหลวงพ่อมาดี เป็นคนในหมู่บ้านดูแลดี แต่พอภาพมันออกไปคนไม่รู้จักก็จะเอ๊ะ พระพ่นไฟได้ยังไง หลวงพ่อกำลังแสดงกายกรรมหรือเปล่า ทำการแสดงอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ดีๆ ใส่จีวรพ่นไฟ คือภาพที่มันออกไปกับความเป็นพระมันค่อนข้างแย้งกัน ภาพของพระที่ใส่จีวร แล้วอยู่ดีๆ ไปพ่นไฟเหมือนนักกายกรรมที่เขาแสดง

 

ในมุมมหาเถระสมาคม ห้ามอวดอ้างในทางมอมเมาหรืออวดอ้างวิชาต่างๆ นานา?

พระมหาไพรวัลย์ : ตอนนี้เมื่อมีกฎนี้ออกมา แสดงว่าท่านกำลังพยายามสอดส่องดูพฤติการณ์หรือกรกระทำของพระที่มันนอกลู่ในทางพระ อันนี้คือสุ่มเสี่ยงหมิ่นเหม่มาก

เจ้าอาวาส : ภาพอันนี้มันก็นานแล้วตั้งแต่ยังไม่ประกาศ ตอนนี้หยุดมาเป็นปีแล้ว ภาพอันนี้ลูกศิษย์ขอร้อง แค่เอาฤกษ์เอาชัยเคลื่อนขบวน ส่วนมากลูกศิษย์ที่มาทอดกฐินจะมีเจ็บแข้งเจ็บขามา ก็ขอร้องให้หลวงพ่อเป่าให้ บางทีมากัน 4-5 คันรถบัส เป่ากันร้อยกว่าคน ก็ดีขึ้น ภาพเป่าก็คือทางเจ้าภาพเขาขอร้องให้เป่า ก็ไม่นึกว่าโลกโซเชียลจะเอาไปออก ก็พูดกับทางเจ้าภาพใหญ่ว่าเขาห้าม แต่เขาบอกว่าขอนิดหนึ่ง เพื่อเป็นสิริมงคลให้เขา นี่คือเจ้าภาพใหญ่มาสร้างโบสถ์ สร้างพระใหญ่และมาทุกปี

พระมหาไพรวัลย์ : ก็เอาใจโยมแต่เสียหายเรา ถ้าโยมขอร้องแต่เสียหายเรา เราในฐานะที่เป็นพระต้องอธิบายบอกเขาว่ามันทำไม่ได้แล้ว พอเรื่องเสียหาย เขาก็ไม่ได้ด่าคนที่ให้หลวงพ่อทำนะเพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครให้ทำ แต่เขามาด่าหลวงพ่อ หลวงพ่อต้องคิดถึงความเสียหายของตัวเองว่าไม่ได้แล้ว โยมยังไงก็ไม่ได้นะ ให้ทำอย่างอื่นไป เทศน์ไปสอนไป

 

ถ้าไม่หยุดจะมีปัญหามั้ย?

พระมหาไพรวัลย์ : ก็พอเป็นข่าวปุ๊บ เดี๋ยวเรื่องจะไปถึงพระเจ้าคณะผู้ปกครอง หรือมีคนไปร้องเรียน ท่านก็ต้องสั่งมาให้ตรวจสอบ หลวงพ่อก็เดือดร้อน อย่างแรกคือตักเตือนก่อน ดูว่าผิดเยอะมั้ย อย่างหลวงพ่อท่านทำอาจเป็นเรื่องของอนาจาร อนาจารนี่ไม่ได้หมายถึงโป๊เปลือยนะ คนละความหมาย อนาจารในทางพระคือไม่เหมาะสมเท่านั้นเอง ก็จะตักเตือนกันก่อน


ขอบคุณข้อมูลจาก:horoscope.sanook

โพสต์โดย : monnyboy