เจ๋ง! ธุรกิจแชร์จักรยาน 'ไบค์แชร์' นำร่องขยายบริการในไทย
เจ๋ง! ธุรกิจแชร์จักรยาน 'ไบค์แชร์' นำร่องขยายบริการในไทย
ธุรกิจประเภท 'แชริ่ง' ที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนี้ไม่ได้จำกัดแค่การเดินทางโดยรถยนต์อีกต่อไป เพราะหนึ่งในนั้นคือ 'ไบค์แชร์' หรือธุรกิจการแชร์จักรยาน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในจีน ส่วนประเทศไทยไม่น้อยหน้า เพราะมี 3 ค่ายใหญ่ กำลังเข้ามาทำตลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โมเดลธุรกิจของไบค์แชร์ ซึ่งเป็นบริการแบ่งปันการใช้งานจักรยานอัจฉริยะ โดยมีการติดตั้ง GPS เพื่อทำการค้นหาจักรยานที่ใกล้ที่สุด ส่วนการใช้งานทุกขั้นตอนสามารถทำได้บนสมาร์ทโฟน มีทั้งแอปพลิเคชันและคิวอาร์โค้ด ส่วนการคิดค่าบริการจะคิดตามระยะเวลาการใช้งาน และชำระเงินผ่านอีเพย์เมนต์
ในปัจจุบัน 'ไบค์แชร์' มีผู้ประกอบการต่างชาติ 3 รายที่พร้อมเข้ามาทำตลาดในไทย ได้แก่ โมไบค์ (Mobike) โอโฟ (ofo) จากจีน และโอไบค์ (oBike) จากสิงคโปร์ ซึ่งผู้ให้บริการส่วนใหญ่ เน้นกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา-บุคลากรในสถานศึกษา
ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า 'ไบค์แชริ่ง' จะมีมูลค่าเพิ่มสูงกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 116,000 ล้านบาท
โดยผู้จัดการทั่วไปของโอโฟ (ofo) ประเทศไทย เผยว่า ตลาด Bike Sharing ในไทย เป็นตลาดใหม่ และยังมีความไม่พร้อมหลายประการ เช่น ระบบสาธารณูปโภค สภาพอากาศที่ร้อน และมีฝน แต่หลังจากทดลองในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ปรากฎว่า ผลตอบรับดีเกินคาด แต่ถึงกระนั้นธุรกิจประเภทไบค์แชริ่ง ยังเป็นเรื่องใหม่ในไทย จึงทำให้ผู้ใช้งานบางคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับบริการนี้
ปัจจุบัน โอโฟ มีจำนวนจักรยานในไทยมากกว่า 5 พันคัน จอดอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 3,800 คัน และจังหวัดภูเก็ต 1500 คัน ทั้งนี้ นักศึกษาธรรมศาสตร์ อาจารย์และบุคลากรในมหาวิทยาลัย มียอดผู้ใช้งานต่อวันสูงติดอันดับต้นๆ จากสถิติของโอโฟ
อย่างไรดีแนวคิดการใช้จักรยานไม่ควรจำกัดแค่ในพื้นที่มหาวิทยาลัย เพราะหากสามารถขยายตัวการใช้จักรยานมากขึ้น มีระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ก็จะช่วยลดปริมาณรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บนท้องถนนได้ ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้มีความพยายามที่จะสนับสนุนการใช้จักรยานอยู่บ้าง ดังจะเห็นได้จากการที่กรุงเทพฯ ตีเลนขี่จักรยานเมื่อปี 2551 แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยม แม้จะถูกปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมอีกครั้งในปี 2558
ขอขอบคุณที่มา:money.sanook.com
โพสต์โดย : Wizz
