Social :



@แม่น้ำสองสี อุบลราชธานี

22 ธ.ค. 60 06:30
@แม่น้ำสองสี อุบลราชธานี

@แม่น้ำสองสี อุบลราชธานี

แม่น้ำสองสี

     สถานที่ตั้ง แม่น้ำสองสี หรือดอนด่านปากแม่น้ำมูล อยู่ในเขตบ้านเวินบึก นั่งเรือจากตัวอำเภอโขงเจียมไปประมาณ 5 นาที เป็นบริเวณที่แม่น้ำมูลไหลลงสู่แม่น้ำโขงเกิดเป็นสีของแม่น้ำที่ต่างกันจึงเรียกกันอย่างคล้องจองว่าโขงสีปูน มูลสีคราม จุดที่สามารถมองเห็นแม่น้ำสองสีได้อย่างชัดเจน คือ บริเวณลาดริมตลิ่งหน้าวัดโขงเจียม และบริเวณบางส่วนของหมู่บ้านห้วยหมาก ในเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่เห็นความแตกต่างของสีน้ำได้ชัดเจนที่สุด นอกจากนี้แล้วบริเวณใกล้เคียงยังมีบริการเรือพาล่องชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำ ชมแม่น้ำสองสี 200 บาท / แก่งตะนะ 400 บาท/ บ้านเวินบึก 400 บาท/ ผาแต้ม 800 บาท) โดยสามารถแวะซื้อของที่ระลึกที่ตลาดหมู่บ้านในฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้อีกด้วย

     ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ททท.สำนักงานอุบลราชธานี โทร. 0 4524 3770, 0 4525 0714
http://www.tourismthailand.org/ubonratchathani

เดินทางเข้าวัดโขงเจียม

     เดินทางเข้าวัดโขงเจียม

Lif
อย่างที่เรารู้กันดีว่าจะชมแม่น้ำสองสีกันชัดๆ ก็ต้องเข้ามาริมตลิ่งฝั่งโขง วัดโขงเจียมกลายเป็นทำเลที่ดีที่สุดไปโดยปริยายเพราะตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อีกด้านหนึ่งของวัดติดแม่น้ำมูล เรียกว่าอยู่ตรงปากแม่น้ำพอดิบพอดี ถ้าเดินทางจากอุบลราชธานีผ่านพิบูลมังสาหาร มาถึงโขงเจียมผ่านหน้าวัดถ้ำคูหาสวรรค์ ทางหลวงหมายเลข 2222 จะพาเรามาบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 2134 ให้เลี้ยวขวาเข้าเมืองโขงเจียม เข้ามาแล้วจะเป็นบรรยากาศที่คึกคักตามสมควร เพราะเป็นเมืองที่ค่อนข้างสงบคนไม่พลุกพล่านเหมือนเมืองใหญ่ คงเป็นเหตุผลให้ชาวต่างชาติรักที่จะมาอยู่ที่นี่เป็นเวลานานๆ อีกอย่างอำเภอโขงเจียมเป็นอำเภอที่มีที่เที่ยวทางธรรมชาติมากมายหลายอย่าง นอกจากแม่น้ำสองสีนี้ ก็ยังมีที่เที่ยวลือชื่อได้แก่ผาแต้ม บันทึกประวัติศาสตร์ด้วยภาพเขียนบนผนังถ้ำที่ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา อยากไปดูให้รีบไปนะเอ้อ นอกจากนั้นยังชมพระอาทิตย์ขึ้นชนิดข้ามฟากแม่น้ำโขงพระอาทิตย์เคลื่อนตัวขึ้นช้าๆ จากฝั่งลาว หรือจะไปอีกหน่อยกางเต็นท์ค้างคืนที่ผาชะนะได ชมพระอาทิตย์ก่อนใครในสยาม และยังมีน้ำตกมากมายหลายแห่ง ทุ่งดอกหญ้าที่หลายๆ คนต่างดั้นด้นมาชม นี่แหละเสน่ห์โขงเจียม
     กลับมาที่เรื่องแม่น้ำสองสีกันต่อ พอเข้าโขงเจียมมาแล้วจะมีสามแยกใหญ่ๆ มีป้ายบอกทางชี้เข้าไปเขียนว่าแม่น้ำสองสี นั่นแหละคือจุดหมายปลายทางของเรา พอเข้าทางแยกมาเรื่อยๆ ผ่านโรงเรียนโขงเจียม เข้าวัดโขงเจียม มาสุดด้านในของวัดมีศาลาให้พักผ่อนชมวิว ชาวบ้านบอกว่าแม่น้ำสองสีจะเห็นได้ชัดในเวลาเย็น การได้นั่งอยู่ตรงปากน้ำแม่น้ำสายใหญ่บรรจบกันเช่นนี้บอกได้เลยว่าเป็นบรรยากาศที่สบายมากๆ ลมเย็นๆ พัดเข้ามาในศาลา ผมมาถึงตอนเที่ยงก็เลยไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารริมน้ำซึ่งมีอยู่หลายร้าน หน้าร้านเป็นระเบียงทางเดินเลียบโขงทะลุมาที่หน้าวัดโขงเจียมตรงศาลาแห่งนี้ได้

แม่น้ำสองสี

     น่าเสียดายที่ความแตกต่างของสีของแม่น้ำในวันนี้มีน้อยมากแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าด้วยซ้ำ แต่พอเอากล้องถ่ายรูปมาก็ยิ่งมองเห็นไม่ชัดใหญ่เลย ฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับคนที่จะมาชมความแตกต่างของแม่น้ำสองสีควรจะเป็นฤดูแล้งสุดๆ อย่างมีนาคม หรือ เมษายน ถึงเวลานั้นผมอาจจะมีโอกาสได้มาเก็บภาพกันอีกสักครั้ง วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนครับ แต่วิวดอนทรายที่โผล่ขึ้นมาคล้ายรูปสามเหลี่ยมก็สวยดีนะครับ ส่วนร้านอาหารใกล้ๆ วัดโขงเจียมก็มีร้านกุ้งริมโขง กับร้านแม่น้ำสองสี ลองแวะไปสั่งอาหารเมนูปลาจะไม่ผิดหวัง

ขอบคุณข้อมูลจาก

touronthai.com

โพสต์โดย : ต้นน้ำ