ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ททท.สำนักงานสุรินทร์ (สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ) 0 4451 8152
http://www.tourismthailand.org/surin
ชิ้นส่วนปราสาทศีขรภูมิ ชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นชิ้นส่วนที่อยู่บนปราสาทมาก่อน หลังจากนั้นเกิดการชำรุดหักพังหล่นลงมาจากปราสาท จึงได้มีการนำมารวบรวมตั้งไว้บริเวณด้านหน้าของทางเข้าใต้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ด้านขวามือ จากนั้นจึงได้สังเกตุเห็นบริเวณรอบปราสาทแห่งนี้มีต้นโพธิ์อยู่ 3 ต้น อยู่ที่มุม 3 มุมรอบบริเวณองค์ปราสาท ขาดเพียงมุมด้านหลังขวามือที่ไม่มีต้นโพธิ์ ต้นโพธิ์ต้นหนึ่งด้านซ้ายมือด้านหน้าทางเข้ามีข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทแห่งนี้ให้อ่าน
ปราสาทศีขรภูมิ เป็นภาพด้านหน้าของปราสาท ในขณะที่เดินทางไปถึงปราสาทแห่งนี้ตามแผนการเดินทางของทริปแห่เทียนอุบลราชธานี เราเลือกปราสาทศีขรภูมิเป็นจุดแวะบนทางผ่าน เพียงแต่เราเข้าไปถึงเวลา 16.27 น. ซึ่งปราสาทแห่งนี้เปิดให้เข้าชมได้ถึงเวลา 16.30 น. ค่อนข้างเฉียดฉิวทีเดียว แต่เวลาช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวน้อยสะดวกในการเก็บภาพเป็นอย่างยิ่งปราสาทที่ยิ่งใหญ่เบื้องหน้าที่เราเห็น ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก
ปรางค์ทั้ง 5 องค์สร้างบนฐานเดียวกัน กว้าง 25 เมตร ยาว 26 เมตร สูง 1.5 เมตร
บริเวณรอบปราสาทศีขรภูมิ นับว่าปราสาทแห่งนี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง รอบองค์ปราสาทเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่มากทีเดียว
ทับหลังปราสาทศีขรภูมิ องค์ปรางค์ประธานมีทับหลังสลักเป็นรูปศิวนาฏราช (พระอิศวรกำลังฟ้อนรำ) บนแท่น มีหงส์แบก 3 ตัวอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข มีรูปพระคเนศ พระพรหม พระวิษณุ และนางปารพตี (นางอุมา) อยู่ด้านล่าง เสาประตูสลักเป็นลวดลายเทพธิดาลายก้ามปูและรูปทวารบาล
ภายในปรางค์ประธาน มีช่องประตูเล็กๆ เดินเข้าไปภายในได้ แต่ภายในนั้นค่อนข้างแคบและมืด มีพระพุทธรูปบูชาขนาดเล็กไว้ให้กราบไหว้บูชา
ฐานแท่นบูชาภายในปราสาท ความมืดด้านในองค์ปรางค์ประธานทำให้มองแทบไม่เห็นองค์พระพุทธรูปในนี้ แต่ประชาชนที่นี่ก็มากราบไหว้บูชาจุดธูปเทียนและปิดทอง
ปรางค์มุมหลังซ้าย ถ้าหันหน้าเข้าหาปราสาทศีขรภูมิ จะมีปรางค์องค์เล็กที่มุมหลังซ้าย ที่ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุด มีช่องประตูเข้าไปได้ จากหลักฐานเชื่อว่าปรางค์องค์นี้ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ได้มีการบูรณะส่วนยอดในราวพุทธศตวรรษที่ 22 สมัยศิลปล้านช้างดังมีจารึกอักษรธรรมปรากฏอยู่ ณ ปราสาทหลังนี้
ด้านหลังปราสาทศีขรภูมิ ชมรอบๆ ปราสาทมาจนถึงด้านหลัง
คูน้ำรอบปราสาทศีขรภูมิ รอบๆ องค์ปราสาทที่มีพื้นที่กว้างขวางมากนี้ มีคูน้ำอยู่รอบๆ อีกชั้นหนึ่ง เว้นเฉพาะด้านหน้าด้านทิศตะวันออกของปราสาทที่ไม่มีคูน้ำ จนเกือบเหมือนรูปตัว C ถ้าหากมองจากด้านบน
ขอบคุณข้อมูลจาก
touronthai.com