ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ททท.สำนักงานสุรินทร์ (สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ) 0 4451 8152
http://www.tourismthailand.org/surin
ปราสาทภูมิโปน หลังจากการเดินทางที่ต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อยระหว่างทางหลวงหมายเลข 24 มาจากศรีสะเกษ เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2124 ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร มีทางเบี่ยงขวาเข้าบ้านดม (สร.4013) อีก 1 กิโลเมตร จากนั้นก็จะเห็นทางเข้าปราสาทภูมิโปน มีป้ายเขียนบอกชื่อปราสาทและข้อความ "เก่าที่สุดในประเทศไทย" รอบๆ 
ปราสาทภูมิโปน ปัจจุบันที่เหลืออยู่ของปราสาทมีเพียงส่วนเดียวที่ใหญ่ที่สุด รายละเอียดบนปราสาทแห่งนี้เหลืออยู่ไม่มากนัก คำว่า ภูมิ มาจาก ภาษาเขมร แปลว่าหมู่บ้าน หรือดินแดน คำว่า โปน แปลว่าซ่อนตัวไม่ให้ใครหาพบ จึงหมายถึงนครลับ หรือที่แอบรวบรวมกำลังกองทัพ ชื่อเดิมของปราสาทภูมิโปน ในปี พ.ศ. 2443 คือ บันเตียย ซึ่งหมายถึงเมืองที่มีกำลังทหารป้องกัน
ปราสาทภูมิโปน นอกเหนือจากปราสาทแล้วที่เห็นต้นตาลสูงใหญ่เป็นแถวขนาบข้างปราสาทนี้มีทั้ง 2 ข้างของปราสาท ภายในบริเวณนี้จะมีป้ายข้อมูลเกี่ยวข้องกับปราสาท มีภาพถ่ายจากดาวเทียมพร้อมกับข้อมูลของสถานที่ต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ปราสาท ได้แก่ สระนาล สระตราว คันสระร่วมสระปรือสระตราว สระลำเจียก สระตา และ สระกนาล เขื่อนดินหน็อลดัจ สระปุแร็ย หรือ บาราย ปแร็ยกนาล หรือ ป่ากลางสระ คูเมือง ปุระ หรือ ปุร กำแพงเมือง เป็นต้น
ภาพดาวเทียมปราสาทภูมิโปน เป็นภาพจาก Google Earth เอามาให้ดูจะได้เห็นว่าบริเวณรอบๆ โดยเฉพาะด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของปราสาทภูมิโปนมีลักษณะคล้ายๆ สระน้ำอยู่จำนวนมาก
วิวสวยระหว่างทาง อำลาปราสาทภูมิโปนและจังหวัดสุรินทร์ หลังจากจบทริปแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี เราเลือกปราสาทภูมิโปนเป็นสถานที่สุดท้ายปิดทริปนี้ หลังจากนี้ก็กลับจากปราสาทมาที่ทางหลวงหมายเลข 24 แล้วมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ ปิดท้ายด้วยฉากสวยๆ ระหว่างพระอาทิตย์ที่กำลังลับหายไปจากท้องฟ้าภาพนี้ละครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก
touronthai.com
