Social :



@ถ้ำเขาวังทอง นครศรีธรรมราช

08 ก.พ. 61 09:02
@ถ้ำเขาวังทอง นครศรีธรรมราช

@ถ้ำเขาวังทอง นครศรีธรรมราช

ถ้ำเขาวังทอง จ.นครศรีธรรมราช

     จะมีใครสักกี่คนที่ทราบบ้างว่า อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ก็มีถ้ำที่น่าสนใจเหมือนกัน ดังเช่นถ้ำเขาวังทอง  เพราะได้หาข้อมูลว่าเป็นถ้ำที่มีสีทองอร่าม และก็น่าค้นหา สมมติว่าเล่นน้ำทะเลอยากจะมาค้นหาความน่าตื่นเต้น ผจญภัยเล็กๆ ก็น่าสนใจนะครับ  ไม่ไกลจากตัวอำเภอขนอมเลย งั้นขอบอกพิกัดก่อนเลยนะครับ 

เส้นทางการเดินทาง
     ถ้าเดินทางจาก อ. ขนอม ออกมาถึงสามแยกครูวิง ให้เลี้ยวขวาที่จะไปทางท่าเรือเฟอรี่ แต่ยากสามแยกนั้นไปประมาณ 8-10 กม ให้มองทางซ้ายไว้จะมีป้ายบอกว่า ไปถ้ำเขาวังทอง ซึ่งเป็นถนนสายหน้าควน - ต้นเหรียง ปากทางมีป้ายท่องเที่ยวถ้ำเขาวังทอง 


สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนไปเข้าถ้ำคือ : 

1. ไฟฉายส่วนตัวเลยครับ เอาแบบคาดหัวก็ได้เพราะในนั้นถึงแม้จะมีดวงไฟ แต่ไม่เพียงพอในการที่เราจะมองเห็นเส้นทางการเดินของเราเลยครับ และควรมีสำรองสักหน่อย
2. รองเท้ากันลื่นควรเป็นรองเท้าที่ผจญภัยได้หน่อยครับเพราะพื้นถ้ำลื่นมากๆ เป็นกึ่งดินและโคลนบางๆ
3. เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยเพราะเข้าไปข้างในมันลำบาก มีห้องน้ำที่จุดพักอุทยานก่อนขึ้นครับ
4. ใครชอบถ่ายภาพแนะนำเลยขาตั้งกล้อง
5. ขากล้องแล้ว ต้องไฟแฟลช เดี๋ยวบอกเพราะอะไร
6. ควรสวมกางเกงขายาวเพราะหินอาจจะบาดและไม่ต้องพกของพะรุงพรัง
7. ใจที่พร้อม  

ถ้าพร้อมแล้ว เดินทางเลยครับ


      มีที่จอดรถถึงจุดพักของเจ้าหน้าที่อุทยานเลยครับ มีห้องน้ำเข้าให้เรียบร้อย แล้วแจ้งกับเจ้าหน้าที่ครับ ว่าจะมาเที่ยวถ้ำเขาวังทอง จะมี เจ้าหน้าที่นำทางเราไป ไม่มีค่าผ่านทางแต่...มีตู้ให้บริจาคเพื่อพัฒนาบริเวณก็ควรทำครับ  จุดนี้เดินขึ้นไปบันไดประมาณ ร้อยกว่าขั้น ชันหน่อยครับ วัดอายุกันนิ๊ด อิอิ  



        มองย้อนลงไปข้างล่างก็สวยดี เป็นป่าเขียวขจีสูดลมหายใจได้ฉ่ำปอด หายใจลึกๆครับเดี๋ยวข้างในไม่มีอากาศเพียงพอ เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างอับอากาศครับ



        ปากทางเข้าถ้ำครับ รูนิ๊ดเดียวเอง ไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนครับ ผมนั่งรอคณะที่มาก่อนหน้าประมาณ 15 นาทีเพราะถ้าเข้าไป จะยัดเยียดเกินไป  พอคณะออกมา ก็เข้าไป จะพบกับพระไว้ปากทางเข้า แล้วเดินลาดชันลงไป จะเจอส่วนนี้ก่อนครับ



        ตรงนี้เลยครับ เป็นผนังถ้ำที่มีสีแดงอิฐเป็นจุดๆเพราะเป็นเขาหินปูนที่มี ธาตุเหล็ก ดังนั้นมีธาตุเหล็กที่โผล่ออกมาสวยงามมากๆ ตรงนี้ผมใช้ขาตั้งกล้องปรากฎว่าลื่นมากๆ เพราะลาดเอียงด้วย พื้นแฉะโคลนบางๆด้วย ต้องหาจุดที่ตั้งให้ดีครับ   หลังจากนั้นเดินต่อครับ

      
Lif
คราวนี้เป็นช่องแคบๆเดินได้คนเดียว มีหินแหลมๆสองข้างทางต้องระวังกระเป๋ากล้องให้ดี และที่สำคัญคือ
"หน้าผาลึกลงไปเกือบ 5 เมตร " เป็นบันไดเหล็กเล็กๆค่อยๆเดินลงไป  และมุดอีกสองสามครั้ง แล้วจึงจะมาพบกับ ห้องโถงแห่งนี้ครับ  


       โห...สวยอร่ามมากๆเป็นห้องโถงที่ใหญ่ สีทองอร่ามเพราะมีธาตุเหล็กอยู่เยอะ มีเสียงน้ำหยดตลอดเวลา  เจ้าหน้าที่เตือนก่อนลงมาว่าห้ามจับหินงอก หินย้อย ผมไม่จับ เราต้องฟังคำเตือนของเขา เพราะเราต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติเอาไว้  



       ด้วยไม่เคยมีประสบการณ์ในการถ่ายถ้ำ ก็พยายามมโนว่า  คงต้องใช้วิธีถ่ายแบบนานๆเพื่อให้ได้ภาพที่ดี และจะใช้วิธีการยิงแฟลชเยอะๆกระจายหลายๆส่วนของผนังถ้ำ ดังนั้นจึงกางขาตั้งกล้องแล้วตั้งกล้อง F16 และสปีดต่ำมากๆประมาณ 12 วินาที เพราะในช่วงเวลา 12 วินาทีนั้น ผมหันหัวไฟแฟลชแยก กดปุ่มยิงแฟลช ซ้าย กลาง ขวา ทุกซอกหิน ให้ได้มากที่สุด เพื่อลบเงาต่างๆ ใช้หมวด M สัดส่วน 1/2
ปัญหาที่ไม่เคยถ่ายภาพถ้ำเลยคือ "หาโฟกัสไม่เจอ"  



       ภาพคือไม่ชัดหลายรูป ผมทดลองใช้วิธี เอาไฟฉายที่เจ้าหน้าที่ถือให้พี่เขาส่องที่กำแพง แล้ว กดให้โฟกัสที่มีแสงริบหรี่นั้น กับทดลองตั้งเป็นค่า MF แล้วเอามือหมุนกะว่าชัดที่ผนังสักกี่เมตร







        รูปนี้มีมิติ พอได้เห็นทั้งหินย้อยเดิม เก่าแก่ และหินย้อยที่กำลังก่อตัว สีเหลืองอ่อนกำลังเริ่มงอก  
ต้องรีบถ่ายเพราะ รู้สึกว่าอากาศน้อยมากหายใจถี่  เหงื่อออกที่หลัง และที่แขนผุดออกมาเต็มแขนทั้งสองข้างเลย  



        ถ่ายรูปนี้สุดท้ายแล้ว ที่จริงมีลงไปลึกอีก เจ้าหน้าที่บอกว่ามีห้องเล็กๆอีกประมาณ 12-13 ห้อง แต่ห้องโถงนี้ใหญ่ที่สุด บางห้องเป็นแอ่งน้ำ เป็นครีบปลา
ตามหลากหลายจินตนาการ  หลังจากนั้นไม่นานก็ออกกันมาไม่ได้ไปครบทุกห้อง

       ใครที่คิดจะเข้าไปเอง ขอบอกเลย  "ห้ามเข้าเองครับ" เพราะเคยมีคนหลงในนั้น ควรจะมีผู้ชำนาญในการนำทางครับ  


ขอบคุณข้อมมูลจาก
pantip สมาชิกหมายเลข 2635861

โพสต์โดย : ต้นน้ำ