Social :



ตำนาน-ประวัติ แวมไพร์ (ผีดูดเลือด)

29 มิ.ย. 59 23:50
ตำนาน-ประวัติ แวมไพร์ (ผีดูดเลือด)

ตำนาน-ประวัติ แวมไพร์ (ผีดูดเลือด)

ตำนานแวมไพร์มีมานานนับเป็นพันๆปี เรียกว่าอยู่คู่กับประวัติศาสตร์มนุษย์ก็คงจะได้ แวมไพร์มิได้หมายถึงผีดูดเลือดแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ชนชาติต่างๆทั่วโลกต่างก็มีแวมไพร์ในแบบฉบับของตัวเอง ไล่ไปตั้งแต่แวมไพร์ฝรั่งผมบลอนด์ แวมไพร์จีน แวมไพร์ญี่ปุ่น ไปจนถึงแวมไพร์มาเลเซีย แบบที่เรียกกันว่า เพนังกะลัง
อย่างไรก็ตาม แวมไพร์ที่เราๆท่านๆคุ้นเคยกัน

ใน ปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะกลายพันธ์ และภาพลักษณ์ไปหมด ทั้งนี้อาจจะเนื่องมาจาก อิทธิพลของหนังสือและภาพยนต์ ซึ่งร้อยทั้งร้อย ล้วนมาจากยุโรปและอเมริกาทั้งสิ้น จุดกำเนิดของตำนานแวมไพร์มาจากตะวันออกไกลครับ มันกระจายมาโดยผ่านเส้นทางจากจีน - ธิเบต - อินเดีย - ผ่านเส้นทางที่เรียกกันว่าทางสายไหมเข้าสู่แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตำนานนี้กระจายไปทั่วประเทศแถบทะเลดำ คาบสมุทรบอลข่าน รวมไปถึงฮังการี่ และดินแดนที่เราคุ้นเคยกัน …ทรานซิลวาเนีย

ปัจจุบัน แวมไพร์ในความนึกคิดของเรามักจะเป็นไปในแนวของ ปีศาจดูดเลือด, ผู้ที่ฟื้นคืนชีพจากความตาย, ดำรงชีวิตได้เฉพาะยามค่ำคืน สามารถกลายร่างเป็นค้างคาวได้… คุณสมบัติพวกนี้เป็นแวมไพร์ของยุโรป และในหนังผีครับ จริงๆแล้วแวมไพร์มีคุณสมบัติที่หลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เรามาดูกันดีกว่าว่า แวมไพร์ของแต่ละชนชาตินั้นเป็นอย่างไร
ชาวสลาฟเป็น ชาติที่ร่ำรวยเรื่องราวเกี่ยวกับแวมไพร์มากที่สุดในยุโรปตะวันออก ดินแดนนี้กินพื้นที่ตั้งแต่ รัสเซีย บุลแกเรีย เซอร์เบียร์ จนกระทั่งถึงโปแลนด์ ความเชื่อพวกนี้ฝังรกรากมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 แน่ะครับ

แหล่ง ชุมนุมแวมไพร์ที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ที่ เมือง Magyars ซึ่งปัจจุบันเป็นพรมแดนต่อกันระหว่างประเทศฮังการีกับโรมาเนีย คำว่าแวมไพร์ก็มาจากภาษาของพวกเขานี่แหละครับ แวมไพร์พวกนี้จะมีเล็บมือและผมที่ทั้งยาวทั้งสกปรก มุมปากมีคราบเลือดเกรอะกรัง ไม่ชอบสุงสิงกับผู้คน วิธีการปราบแวมไพร์ของชาวสลาฟก็คือจับทำบาร์บีคิวครับ เผาทั้งเป็นเลย หรือไม่ก็พรมน้ำมนต์ที่ได้มาจากโบสถ์ใส่พวกมันก็ได้

เนื่องจากโรมาเนียถูกแวด ล้อมไปด้วยประเทศของชนชาติสลาฟ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ว่าแวมไพร์ของพวกเค้าจะกระเดียดไปทางแวมไพร์เชื่อสายสลาฟนิดๆ ภาษาพื้นเมืองของโรมาเนียนั้น เรียกแวมไพร์ว่า Strigoi ครับ อาจจะหมายถึง นกฮูกแก่ๆ หรือปีศาจก็ได้ทั้งนั้น Strigoi มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน Strigoi ส่วนมากคือพวกผู้ใช้คาถา

MulticollaC
ซึ่งจะกลายเป็นแวมไพร์เมื่อตายแล้ว เจ้า Strigoi พวกนี้จะถอดวิญญาณออกจากร่างไปเพื่อชุมนุมกันในคืนพระจันทร์เต็มดวง หรือไม่ก็ออกตระเวนดูดเลือด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกในครอบครัว หรือไม่ก็เพื่อนบ้านใกล้เคียง
คนที่เกิดมาโดยมีสัญญลักษณ์ของปีศาจ (มีหาง เขี้ยวงอก ขนดกรุงรัง) หรือคนที่ตายอย่างผิดธรรมชาติ หรือตายโดยที่ยังไม่ได้ทำพิธีรับศีล พวกนี้มีสิทธิจะเป็นแวมไพร์ได้ทั้งนั้น ถ้าครอบครัวไหนมีลูกเพศเดียวกันถึงเจ็ดคน คนที่เจ็ดนั่นแหละครับ แวมไพร์มาเกิด พวกผู้หญิงแถวนั้นเวลาท้องพวกเธอต้องกินเกลือครับ เพื่อป้องกันลูกที่อยู่ในครรภ์ ส่วนพวกสุดท้ายที่มีสิทธิเป็นแวมไพร์ชัวร์ๆ คือพวกที่โดนแวมไพร์กัดเอา


มนุษย์หมาป่า (อังกฤษ: werewolf หรือ lycanthrope) เป็นมนุษย์ ซึ่งตามเทพปกรณัมหรือคติชนว่า มีความสามารถเปลี่ยนร่างตนเองเป็นหรือคล้ายสุนัขป่า เพราะถูกมนุษย์หมาป่าตนอื่นขบกัดเข้า หรือเพราะต้องคำสาป เชอร์แวสแห่งทิวเบรี (Gervase of Tilbury) นักกฎหมายในมัชฌิมยุค ตลอดจนเกเอิส เพโทรนิเอิส อาร์บีเทอร์ (Gaius Petronius Arbiter) ข้าราชการสมัยกรีกโบราณ บันทึกว่า การเปลี่ยนร่างของมนุษย์หมาป่านั้นมักเกี่ยวเนื่องกับการปรากฏขึ้นของเดือน เพ็ญ

ว่ากันว่า มนุษย์หมาป่ามีพละกำลังและประสาทสัมผัมเป็นเลิศผิดทั้งมนุษย์และสุนัขป่า ทั้งปวง และมนุษย์หมาป่านั้น จำเดิมมักปรากฏในปรัมปราของยุโรป ต่อมาจึงแพร่หลายทั่วไป ส่วนการเปลี่ยนร่างจากมนุษย์เป็นสัตว์เดรัจฉาน ปรากฏในคติชนทั่วไปทั่วโลกอยู่แล้ว และเป็นที่โดดเด่นมากในคติชนพื้นเมืองอเมริกัน ปัจจุบัน มนุษย์หมาป่าเป็นหัวเรื่องยอดนิยมในนวนิยาย ภาพยนตร์ และสื่อบันเทิงต่าง ๆ โดยมีเค้าโครงแตกต่างจากคติโบราณเป็นอันมาก เฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องสรรพคุณของกระสุนเงินในการพิชิตมนุษย์หมาป่าซึ่งโบราณไม่มี และการนำเสนอมนุษย์หมาป่าให้มีภาพลักษณ์ดุร้ายยิ่งขึ้น

มนุษย์มักพยายามแยกตัวเองออกจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น อะไรก็ตามที่ทำให้ขอบเขตระหว่าง มนุษย์กับสัตว์เลือนรางมักเป็นสิ่งที่น่ากลัวและสับสนเลื่อนลอย ความไม่แน่ชัดในขอบเขตของคนและสัตว์มีให้เห็น ดังเช่นในเรื่องของสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งคนและสัตว์ มันสามารถกลายร่างไปเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ โดยอาศัยอำนาจของปิศาจสิ่งมีชีวิตที่ว่านี้มัก มีลักษณะความชั่วร้ายของทั้งสองฝ่ายมารวมกัน เชื่อกันว่า แม่มดสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้ อย่างเช่น หมี หรือหมาป่า เสียงหมาหอนเป็นสัญลักษณ์ของภาพยนตร์สยองขวัญทำให้เราขนลุกได้ทุกครั้งที่ ได้ยินเสียงมันจะเห็นว่าเป็นอิทธิพลของภาพยนตร์อีกเหมือนกันที่มีส่วนช่วย สร้างภาพลักษณ์ที่น่ากลัวของสัตว์ชนิดนี้ แม้จะมีการทำสารคดีถ่ายทอดชีวิตความเป็นอยู่ของหมาป่าที่แท้จริงว่า มันไม่ได้มีความลึกลับที่ทำให้น่ากลัวแต่อย่างใด สารคดีช่วยนำเสนอธรรมชาติของหมาป่าที่รักสงบ ล่าเพื่อเป็นอาหารเท่านั้น และมีลักษณะเป็นสัตว์สังคม

โพสต์โดย : nampuengeiei9760