คุณสาว ๆ รู้หรือเปล่าว่า เครื่องสำอางที่คุณใช้ทุกวันนั้น เป็นศัตรูใกล้ตัวที่แฝงกายมาอยู่ในบ้านของคุณอย่างมิดชิด ทุกวันผู้หญิงสัมผัสสารเคมีเฉลี่ย 175 ชนิดบนร่างกายในรูปของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
เครื่องสำอางส่วนใหญ่ ประกอบด้วยสารพัดสารเคมีที่หลายตัวเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพมากมาย โดยรายการส่วนประกอบอันตรายในเครื่องสำอาง ที่ใช้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มีอาทิ สารเคมีที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง สารที่สร้างปัญหาให้กับฮอร์โมน และสร้างความระคายเคืองต่อผิวหนัง
กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า www.chemicalsafeskincare.co.uk ซึ่งก่อตั้งโดยเหล่าผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติในอังกฤษ กำลังเรียกร้องให้ผู้ผลิตเครื่องสำอาง แสดงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ รวมถึงผลข้างเคียงจากสารเหล่านั้น
กลุ่มนี้เป็นกังวลมากโดยเฉพาะกับส่วนผสม 3 ตัว ได้แก่ สารกันเสียที่ชื่อว่า พาราเบน (parabens) ที่มักพบในมอยส์เจอไรเซอร์และครีมทาผิว และเกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านมและผิวหนังอักเสบ, สารที่ทำให้เกิดฟอง เช่น โซเดียม ลอเรล ซัลเฟต (sodium lauryl sulphate) และโซเดียม ลอเรต ซัลเฟต (sodium laureth sulphate) ที่ใช้ในแชมพู และว่ากันว่าเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังระคายเคือง
สุดท้ายคือ สารฆ่าเชื้อฟอร์มัลดีไฮด์ (formaldehyde) ในแชมพูและครีมล้างมือ มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังไหม้ และเกี่ยวข้องกับโรคหอบหืดและอาการปวดศรีษะ
"การที่สื่อรายงานเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสารเคมีบางตัว เช่น พาราเบน, โซเดียม ลอเรต ซัลเฟต และฟอร์มาลดีไฮด์ ทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวมากขึ้นกับสิ่งที่ตัวเองซื้อ และเรียกร้องให้มีการใช้สารเคมีทางเลือกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น"
ปัจจุบัน กฎหมายในยุโรป ซึ่งผลักดันโดยแพทย์โรคผิวหนัง บังคับให้มีการติดฉลากระบุส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย กระนั้น ผู้บริโภคและผู้ผลิตที่กังวลกับสารเคมีกำลังเคลื่อนไหว เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูล เกี่ยวกับผลข้างเคียงจากส่วนผสมเหล่านั้น โดยเฉพาะผู้ที่ผิวหนังอ่อนไหวต่ออาการต่าง ๆ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ และโรคสะเก็ดเงิน
ศาสตราจารย์เดวิด กอว์ครอดเจอร์ ที่ปรึกษาด้านโรคผิวหนังและโฆษกของมูลนิธิผิวหนังอังกฤษเสริมว่า ปัจจุบันมีชาวอังกฤษ 8 ล้านคนที่มีอาการทางผิวหนัง และตัวเลขนี้กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ
"สารเคมีบางตัวในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่ใช้อยู่ทุกวัน อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้ ปฏิกิริยาเหล่านี้มักเกิดกับคนไข้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ และผู้ที่ผิวหนังมีความอ่อนไหวมาก ๆ โดยปฏิกิริยาส่วนใหญ่จะเกิดที่ใบหน้าหรือแขน และบางครั้งอาจขึ้นที่มือและขา"
ฉะนั้น คุณผู้หญิงรู้ไว้ก็ป้องกันแต่เนิ่น ๆ ดีไหมคะ