Social :



ความเชื่อโบราณ : ทรงเจ้าเข้าทรง

21 ก.ย. 61 17:09
ความเชื่อโบราณ : ทรงเจ้าเข้าทรง

ความเชื่อโบราณ : ทรงเจ้าเข้าทรง

การทรงเจ้าเข้าทรงเป็นความเชื่อที่ยังมีอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นความเชื่อที่ปรากฏอยู่ในลัทธิศาสนาแบบ ดึกดำบรรพ์ ( PrimitiveReligion )ซึ่งแยกออกเป็น 3 ลัทธิ ศาสนา คือ 





1. ลัทธิศาสนาแบบบูชาธรรมชาติโดยตรง( Simple Nature Worship ) 

2. ลัทธิศาสนาแบบไสยนิยม ( Animatism ) 

3. ลัทธิแบบวิญญาณนิยม ( Animism ) 

     ลัทธิศาสนาแบบดังกล่าวนี้ เป็นต้นเค้าของศาสนาในยุคหลังในปัจจุบัน ร่องรอยของลัทธิศาสนาแบบดึกดำบรรพ์ก็ยังคงมีการประกอบพิธีกรรม แบบไสยศาสตร์ หรือ ( Magical Rites ) 

     เพราะเชื่อว่ามนุษย์นั้นสามารถ ใกล้ชิดกับอำนาจลึกลับ หรือ อำนาจศักดิ์สิทธิ์ได้ การทำพิธเข้าทรงยังมีอยู่ในสังคมที่มีความเชื่อใน ลัทธิศาสนาแบบดึกดำบรรพ์ และ สังคมที่มีความเชื่อในลัทธิศาสนาแบบเทวดานิยมซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อในเรื่อง ภูติ ผี วิญญาณ (Animism)  

     และความเชื่อเรื่องเทพ ( Divine ) โดยเฉพาะเชื่อว่าอำนาจของวิญญาณของคนที่เคยได้รับความเคารพนับถือ เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น บรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย ตลอดจน บุคคล ที่เป็นผู้นำ หรือเป็น วีระบุรุษของสังคม และ อำนาจของเทพเจ้า หรือ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถที่จะเข้ามาอยู่ในร่างของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ ในลักษณะ ของการเข้าทรง หรือ ข้าสิง (Possession) 

 
Lif
  ซึ่งจัดเป็นปรากฏการณ์ทางไสยศาสตร์แบบหนึ่งลักษณะของความเชื่อ เรื่องกาารเข้าทรง มีความสอดคล้องกับ ความเชื่อเรื่องการอวตาร (Incarnation) ในศาสนาฮินดู การอวตารเป็นความเชื่อที่ว่าเทพเจ้าได้กลายร่าง หรือ แบ่งภาคแบ่งส่วนลงมาอยู่ท่ามกลางหมู่มนุษย์โดยจะแสดงออกในลักษณะต่างๆกัน 




    เพื่อปฏิบัติภารกิจตามความ ต้องการของเทพเจ้าแล้วก็เสด็จกลับคืนสู่สวรรค์ตามเดิม วิธีนี้เข้าใจว่าเป็นวิธีสุดท้ายที่เทพเจ้า ทรงใช้ หลังจากที่ทรงใช้วิธีอื่นๆ เช่น การดลใจ การเข้าฝัน การให้สัญญาณ หรือ การแสดง นิมิตแล้วไม่ได้ผล การอวตาร มีอยู่ 3 ลักษณะ คือ 

    ลักษณะแรก เป็นการกลายร่างจากเดิมมาเป็นร่างใหม่ และอยู่ในร่างใหม่จนสิ้นอายุขัย ลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่า " อวตาร " ( Avatara ) 

    ลักษณะที่สอง เป็นการกลายร่าง เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือเพื่อจุดประสงค์บางประการ และ เมื่อปฏิบัติหน้าที่ สำเร็จตาม จุดประสงค์แล้ว ก็กลับคืนร่างเดิม ลักษณะดังกล่าวนี้ เรียกว่า "อาเพศ" (Avesa) 

    ลักษณะที่สาม เป็นการกลายร่างด้วยอำนาจด้วยอิทธิฤทธิ์บางส่วน ในตัวของเทพเจ้าเพียงเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์บางอย่าง เรียก ลักษณะดังกล่าว นี้ว่า " อังศะ " ( Amsa ) 


ขอบคุณข้อมูลจาก:horoscope.thaiza.


โพสต์โดย : monnyboy