รู้(หัว)หน้า..ไม่รู้ใจ?

น่าสนใจความเคลื่อนไหวอันเข้มข้นคู่ขนานกันไปกับสภาพการทางการเมือง ระหว่างขั้วข้างความขัดแย้งเดิมในกระแสเคลื่อนขยับไปสู่ข้อเรียกร้องให้ทำการ “ยุบพรรค” เพื่อไทย อันโยงใยสู่การเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่มาปักหลักในฮ่องกงห้วงนี้ กับช่วงเวลาการเลือก “หัวหน้าพรรค” ในช่วงปลายสัปดาห์ไปจนถึงต้นเดือนหน้าของบรรดาพรรคการเมืองสำคัญในหน้าปัดสัมการการเมืองอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ (5พ.ย.) เพื่อไทย (28ต.ค.) และ ชาติไทยพัฒนา(26ต.ค.)

น่าสนใจสำหรับ “พรรคเพื่อไทย” ว่าใครจะหาญกล้าจะมานั่งเก้าอี้ “หัวหน้าพรรค” ในจังหวะเวลาอันแหลมคมซุ่มเสี่ยงที่จะเปลืองตัว หรือ อนาคตอาจดับวูบไปพร้อมกับ “กับดัก” การ “ยุบพรรค” ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะจิต ..โดยหนแรกชื่อของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ถูกหยิบขึ้นมากล่าวถึงแม้ในโพลต่างๆ จนถึง สมาชิกพรรคที่ใกล้คนไกลอย่าง “วัฒนา เมืองสุข” ประหนึ่งถอดรหัสสัญญาณยืนยัน แต่ทว่าคล้ายเป็นการหยั่งกระแสจากภายในที่ปรากฎแรงต้านจาก “รุ่นใหญ่” ลายครามในพรรค จนต้องออกมาในสูตรเสนอ “หญิงหน่อย” เฉพาะ “นายกฯ” หนึ่งในสาม ส่วนหัวหน้าพรรคยังเป็นหลายๆ ชื่อที่อยู่แถวต้นๆ ของพรรคที่บ้างก็ว่าสเป็กต้องแกร่งการเมืองทนแรงเสียดทานสูง บ้างก็ว่าต้องเขี้ยวในด้านเศรษฐกิจที่ล้วนเป็นตัวเลือกในสภาพการสงครามตัวแทนอีกครั้ง (อ่าน : ใคร?หน.เพื่อไทย(สงครามตัวแทนครั้งสุดท้าย!))

ตัดมาที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ภาพช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงชิงเก้าอี้ “หัวหน้าพรรค” ระหว่าง “อภิสิทธิ์-นพ.วรงค์-อลงกรณ์” ดูดุเดือดราวกับจะกลับมาอยู่กันไม่ได้เช่นกัน แต่ก็ยังประคับประคองกันอยู่ในกรอบ แม้กระทั่งการดีเบต (26ต.ค.) ของ3คน ก็มีจุดยืนอยู่ในท่วงท่าของพรรคที่สอดรับกันโดยเฉพาะ “อภิสิทธิ์” ที่ผ่อนคลายท่าทีการร่วมทางกับรัฐบาล และยืนอยู่ในจุดเดียวกับ “อลงกรณ์” ที่ยังไม่ยอมรับใน “นายกฯคนนอก” ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ซึ่งผิดจาก “น.พ.วรงค์” ที่ดูจะเปิดรับการร่วมกับฝ่ายอำนาจชัดเจนมากกว่า แต่เอาเข้าจริงโดยรวมถูกมองว่า ทุกอย่างอาจถูกจัดวางไว้ล่วงหน้าแล้วสำหรับการตัดสินใจ (อ่าน : ส่องจุดยืน 3 ผู้ท้าชิงหน.ประชาธิปัตย์)

ขณะที่เมื่อหันมาดูที่พรรคชาติไทย พรรคขนาดกลาง เช่น “ภูมิใจไทย” ที่ถูกมองว่าจะเป็น “ตัวแปรสำคัญ” สามารถสวิชต์สลับขั้วได้หวยจะออกฝ่ายไหน ก็อยู่ในจังหวะที่ต้องฟันธงหน้าตา “หัวหน้าพรรค” ที่ทำท่าจะเป็น “หนูนา” กัญจนา ศิลปอาชา “ซึ่งลองส่องโปรไฟล์คอนเนคชั่นแล้วด้านหนึ่งอาจต่อเชื่อมถึง “ลุงตู่” และ “บิ๊กฉัตร” ผ่าน ปรอ.20 อีกด้านหนึ่งยังเชื่อมแบ็คอัพคนเก่าแก่ของพรรคอย่าง “ประภัตร” มาช่วยเติมกลิ่นไอ “มังกรการเมือง” บรรหารผู้ล่วงลับได้ ที่เดินหมากเกมแบบ “ทอดไมตรี” ทางการเมืองได้กับทุกฝ่าย (อ่าน : หนูนา สืบทอดมรดก บรรหาร สานต่อ ชทพ.)

น่าสนใจว่า 30 ที่นั่ง ที่ตั้งประเมินไว้ของ “พรรคชาติไทยพัฒนา” หากเข้าเป้า และกลายเป็น “ตัวแปร” ในสมการอำนาจ ถัดจากนี้ก็ยังมีลุ้นการเลือกแทงหวยอำนาจฝ่ายใดระหว่างขั้วข้างฝ่ายอำนาจที่จะไปต่อหรือฝ่ายผู้ท้าชิง ที่ถึงนาทีนั้นแต่ละฝ่ายอาจต้องคุยกันด้วยข้อเท็จจริงจาก “หน้าตัก” ที่ตัวเองมี ที่ว่ากันว่า เอาเข้าจริง “พลังประชารัฐ” ที่มี “สามมิตร” คอยช่วยเป็นดาวบริวารหลอดกาแฟ ถึงวันนี้ก็ยัง ออกอาการหวั่นๆกับ “ความไม่นิ่ง” ของ “ตัวเลข” ที่จะได้รับ โดยเฉพาะจากการสำรวจทางลับของฝ่ายอำนาจ ก็ยังน่าห่วงเพราะดูๆ เอาเข้าจริงอาจได้มาไม่ถึงครึ่งร้อย นี่จึงเป็นอีกจุด “ตัวชี้วัด” อาการถัดจากนี้ของ “ลุงตู่” ว่าจะถึงขนาดถอดใจไปก่อนหรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก:innnews.