รับเหนื่อยใจ! นายกฯย้ำไม่ดึงเงินคนจนกลับ-รับเหนื่อยใจพวกเคลื่อนไหว

นายกรัฐมนตรี ประธานเปิดโครงการก่อสร้าง ปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคหนองคาย พร้อมคุยประชาชนขออย่าต่อต้านรับเหนื่อยใจหลังปลดล็อกพรรคการเมือง ใน กทม. เริ่มเคลื่อนไหว การันตี 20 ปีไทยพ้นความจน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประจิน จั่นตอง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางมายังสถานีผลิตน้ำประโค การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหนองคาย ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย โดยมีประชาชนกว่า 3,000 คน ให้การต้อนรับ พร้อมผูกผ้าขาวม้า เพื่อเป็นรับขวัญแก่นายกรัฐมนตรี

โดยนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการเปิดโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค อ.หนองคาย อ.สระใคร ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาสาขาหนองคายใช้งบประมาณกว่า 406 ล้านบาท ด้วยการวางท่อสูบน้ำดิบจากแม่น้ำโขงมายังสถานี เป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร ทำให้สามารถมีกำลังผลิตน้ำประปาเป็น 49,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมวางท่อจ่ายไปยังครัวเรือน ระยะทาง 42 กิโลเมตร

จากนั้นได้เป็นสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือที่อยู่อาศัยในป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 จำนวน 2 พื้นที่ ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีและผู้ว่าราชการจังหวัดเลย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างพบปะประชาชนที่มารอต้อนรับที่ จ.หนองคาย อย่างอารมณ์ดี พร้อมย้ำว่า ไม่มีการดึงเงินสวัสดิการคนจนกลับอย่างแน่นอน และไม่เป็นความจริงตามข่าวลือ ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด จัดระเบียบการกดเงินจากตู้ ATM และขอให้ทุกคนเรียนรู้สิทธิและวิธีการใช้บัตร ATM ของตนเอง ไม่ใช่ไปจ้างใครมากด เพราะขณะนี้เรากำลัง

ก้าวสู่โลกยุคเทคโนโลยี ทุกคนจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ เพราะเราหนีเทคโนโลยีไม่พ้น เช่นเดียวกับการขายผ่านออนไลน์ โดยกำชับให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาดูแลให้ประชาชนขยายตลาด ขายผลผลิตทางการเกษตรผ่านระบบออนไลน์ ไม่ใช่ให้รัฐบาลรับผิดชอบผลผลิตทางการเกษตรเหมือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ยังระบุว่า ภายหลังการปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้ดำเนินกิจกรรม ที่ กรุงเทพฯ ก็เริ่มเคลื่อนไหว จึง ขอร้องว่าที่นี่อย่ามี

และยอมรับว่าเหนื่อยใจ ไม่อยากทำอะไรต่อ นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี การันตีว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า จะทำให้ประเทศไทย หลุดพ้นความจน และกับดักประเทศรายได้ปานกลาง แต่ไม่ใช่ว่าจะรวยกันทุกคน เพราะทุกคนต้นทุนไม่เท่ากัน แต่ยืนยันว่าจะทำให้ทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังระบุว่า การเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่สงบ และ รัฐธรรมนูญจะมีการแก้ไขทุกครั้งหลังการทำรัฐประหาร ขออย่าต่อต้าน ในเมื่อตนเองมายืนอยู่ตรงนี้แล้ว พร้อมฝากตัวไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของประชาชน และรักกันนานๆ พร้อมทิ้งท้ายอ้อนชาวบ้าน ว่า “อย่ารังเกียจฉันเลย ไหนไหนก็หลวมตัวมารักกันแล้ว อย่าทอดทิ้งกัน”

ขอบคุณข้อมูลจาก:innnews