ไม่คุยด้วย! นายกฯเมินเจรจา”ทักษิณ”เชื่อตปท.เข้าใจหากเลื่อนลต.

นายกรัฐมนตรี ย้ำ ไม่เคยบอกเลื่อนการเลือกตั้ง เชื่อต่างชาติเข้าใจ เรื่องพระราชพิธีสำคัญ ไม่รู้วันประกาศพระราชกฤษฎีกา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการชี้แจงกับนานาประเทศในเรื่องการเลือกตั้งเพราะเคยยืนยันกับต่างประเทศไว้ว่าประเทศไทยจะมีเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 2562 ว่า ส่วนตัวยังไม่บอกว่าเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาเชื่อว่าต่างชาติเข้าใจอยู่แล้ว เพราะจากการไปทุกประเทศก็ถามตนเองเสมอว่าพระราชพิธีสำคัญที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อใดและหากต่างชาติประสงค์จะมีส่วนร่วมในพระราชพิธีดังกล่าวได้หรือไม่ ซึ่งทุกประเทศถามเช่นนี้ ซึ่งส่วนตัวไม่เข้าใจว่าเป็นอะไรกันมากนักในประเทศไม่พอ แต่ยังนำต่างประเทศมากดดันมากขึ้น จึงอยากถามว่าประเทศไทยและคนไทยใช่กระบวนการทั้งหมดโดยเร็วและรัฐบาลมีเสถียรภาพ จึงขออย่าไปพูดว่าหรือไม่ จึงขอสำนึกกันบ้างในเรื่องเหล่านี้ พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น และอยากให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นตามขั้นตอนและจะขยายอำนาจ เพราะส่วนตัวพูดได้เต็มปากว่าไม่ได้มีอำนาจและผลประโยชน์ตรงไหน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความชัดเจนพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งว่า ตนยังไม่ทราบ เพราะยังไม่มีพระราชกฤษฎีลงมา หากเป็นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ ที่เสนอให้มีการตั้งโต๊ะเจรจา เพื่อพานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศ ว่า ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ยังยึดมั่นหลักการเจรจาของรัฐบาล เหตุใดจึงต้องเจรจา เพราะไม่ได้ไปสู้รบกับนายทักษิณ และนายทักษิณก็ไม่ได้สู้รบกับตนเองด้วย จึงไม่ใช่สงคราม ดังนั้นหลักการของรัฐบาล คือเจรจากับคนหลบหนี คดีไม่ได้ ไม่มีความผิดก็กลับมาสู้คดีและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และกฎหมายที่กระทำความผิดก็กฎหมายปกติ ไม่ใช่กฎหมายพิเศษ หรือ อำนาจตามมาตรา 44

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการรับมือกลุ่มเคลื่อนไหว หลังทีกระแสต่อต้านมากขึ้น ว่า มากขึ้นเท่าไหร่และวันนั้นมีกี่คน สื่อเขียนกันไปเองกลัวจะไม่วุ่นวายหรืออย่างไร ดังนั้น ขอสื่อโซเชียลอย่าปลุกระดมอย่าให้ค่า และอย่าให้ความสำคัญมากนัก ซึ่งทุกคนทราบดีว่า อะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม หรืออะไรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ก็ถูกครอบงำหลายอย่าง

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช. เตรียมเช็คบิล คดีของ นายชัชชาติสิทธิพันธ์ ท่ามกลางกระแสความนิยมที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ว่า ความนิยมและความขัดแย้งอะไร เหตุใดต้องสร้างคะแนนซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดกันในโซเชียลมีเดีย มีหลักฐานหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.ที่จะตรวจสอบ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ตำรวจบุรีรัมย์เข้าจับกุม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 พรรคเพื่อไทย ระหว่างช่วย หญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงพื้นที่หาเสียง ว่า ทำผิดกฎหมาย หรือไม่ส่วนตัวไม่ทราบ แต่วันนี้ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน เข้าไปตรวจสอบติดตามทุกพรรค หากไม่มีเรื่องก็คงไม่จับ คงไม่ดำเนินคดี ส่วนตัวได้สั่งการฝ่ายความมั่นคงไปแล้ว ซึ่งหากมีความผิดก็ต้องดำเนินคดี วันนี้หากแบ่งข้างกันอยู่แบบนี้ ก็ไม่มีทางหารือหรือทำงานร่วมกันได้ และยังจะให้ไปเจรจากับคนอื่นอีก ก็ยิ่งไปคนละเรื่อง ดังนั้นขออย่าสร้างสังคมให้คิดแบบนี้ และต้องว่ากันด้วยหลักฐาน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีข้อห่วงกังวลถึงการใช้รถราชการ สำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ที่รถประจำตำแหน่ง แต่นำรถข้าราชการไปใช้นั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ดำเนินการตามที่ป.ป.ช.แสดงความกังวล เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีความผิดร้ายแรงที่เอารถข้าราชการที่ตนเองไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ หรือ เอารถส่วนกลางไปใช้ส่วนตัว ต้องถูกลงโทษสถานหนัก โดยจะต้องโดนไล่ออกหรือปลดออก และส่วนตัวได้กำชับในเรื่องดังกล่าวไปแล้ว จึงขอเตือนทุกส่วนราชการด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews