Social :



ต้องช่วยกัน! ทักษิณห่วงวิกฤติฝุ่นทำปท.เสียหายจี้ไทยกล้าเปลี่ยนแปลง

22 ม.ค. 62 07:01
ต้องช่วยกัน! ทักษิณห่วงวิกฤติฝุ่นทำปท.เสียหายจี้ไทยกล้าเปลี่ยนแปลง

ต้องช่วยกัน! ทักษิณห่วงวิกฤติฝุ่นทำปท.เสียหายจี้ไทยกล้าเปลี่ยนแปลง

"ทักษิณ" มาตามนัด บอกห่วงปัญหาฝุ่น ชี้ทำให้เกิดผลเสีย 2 ด้าน สุขภาพ-เศรษฐกิจ ชี้ต้องการเปลี่ยนแปลง






นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จัดรายการ “Good Monday รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก” ตอนที่ 2 “แก้วิกฤตฝุ่น ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง” ว่า คราวที่แล้วบอกว่าจะเล่าเรื่องไปเมืองจีน พอดีที่เมืองไทย มีปัญหาที่ตกใจกันมากก็คือเรื่องของ “ฝุ่น” เรื่องของอากาศมลพิษที่มีฝุ่นขนาดเล็ก ถึง 2.5 ไมครอน ซึ่งเป็นขนาดที่อันตรายในการทะลุทะลวงเข้าไปในหลอดเลือดต่างๆ ทำให้สุขภาพเสียหาย การมีมลภาวะที่ติดอันดับ 10 ของโลก มันเสียหาย 2 ส่วนแน่นอน ส่วนหนึ่ง คือสุขภาพอนามัยของคนไทย แต่ส่วนที่สอง คือ ความเสียหายทางเศรษฐกิจ คือเรื่องของภาพพจน์ที่เสียหายไป การท่องเที่ยวก็จะมีผล เพราะคนก็ไม่อยากจะมาในช่วงที่ภาวะมลพิษทางอากาศสูงเหมือนหลายประเทศ หลายเมืองที่ขึ้นบัญชีว่าเป็นเมืองที่มีมลพิษสูง ฉะนั้นก็จะเสียหายทางเศรษฐกิจ




MulticollaC


ที่ปักกิ่ง เมืองเป็นแอ่ง เวลามีมลภาวะจะอยู่นานออกไปได้ยาก แน่นอนสาเหตุหนึ่งก็เกิดจากรถติด และเครื่องยนต์ดีเซลทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหินอยู่รอบเมือง ตอนหลังก็ยกเลิก และก็ไปใช้พลังงานอื่นที่สะอาด โรงงานอุตสาหกรรมรอบเมืองก็จับย้ายหมด ส่วนเรื่องของปัญหาด้านรถยนต์ ก็มีนโยบายเลยว่า ภายใน 5-6 ปีข้างหน้า รถที่จะวิ่งในปักกิ่งต้องเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้น และถือโอกาสเอาวิกฤตนี้ มาส่งเสริมอุตสาหกรรมทำรถไฟฟ้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราวกลับมาที่บ้านเรา ปัญหาที่เกิดจากฝุ่นจำนวนมากมายวันนี้ จนเป็นมลภาวะที่ติดอันดับ 9 ของโลก(อันดับ 10 เป็นดูไบ) เพราะว่ามันเกิดจาก 2 อย่าง หนึ่งคือเกิดจากเรื่องรถ โดยเฉพาะรถดีเซล กับรถที่ไม่ได้มาตรฐาน รถเก่า หมดสภาพ ปัญหารถติด รถมาก รถดีเซล ต้องได้รับการแก้ไขระยะยาว ,สอง การส่งเสริมให้อุตสาหกรรมรถยนต์เปลี่ยนจากการใช้เครื่องยนต์ เป็นรถมีไฮโดรเจนบ้าง หรือเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า และไปจนถึงรถที่ไม่ต้องมีคนขับ เพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก ถ้าไม่มีแผนที่ชัดเจนจะย้ายหนีหมด ถ้ามีนโยบายที่ชัดเจน บริษัทรถยนต์เหล่านี้ก็จะหันมาผลิตรถไฟฟ้าในเมืองไทย ดำรงความเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกได้อยู่ต่อไป เพราะฉะนั้นต้องมีนโยบายที่ชัดเจนว่า การจะไม่ให้รถที่เป็นเครื่องยนต์วิ่งได้อีกกี่ปี ก็ต้องมีแผน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คนที่มีรถที่เป็นเครื่องยนต์ธรรมดาวันนี้ต้องเดือดร้อน


อีกตัวนึง คือการเผาชีวมวลทั้งหลาย ต้องรณรงค์เพื่อให้เกษตรกรทั้งหลายเข้าใจว่ ทำแบบนี้ดีกว่า และเป็นประโยชน์ เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทุกคนลองดูว่าอนาคตโลกจะไปทางไหน แล้วประเทศไทยจะรับมือยังไง เพราะอยากให้คนไทยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกให้ได้



ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด