Social :



พปชร.คึก!เปิดตัว500ส.ส.ยันพร้อมลต.

03 ก.พ. 62 08:02
พปชร.คึก!เปิดตัว500ส.ส.ยันพร้อมลต.

พปชร.คึก!เปิดตัว500ส.ส.ยันพร้อมลต.

พปชร. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 500 คน ยิ่งใหญ่ คนแห่ร่วมให้กำลังใจเต็มสนามฟุตซอลบางกอกอารีน่า - "สนธิรัตน์" มั่นใจ ประชาชนเทคะแนนเสียงให้






พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 500 คน แบ่งเป็นแบบบัญชีรายชื่อ 150 คน และแบบแบ่งเขต 350 คน ภายใต้ชื่องาน รวมพลังสร้างชาติ ท่ามกลางกองเชียร์และผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจจำนวนมากเต็มสนามฟุตซอลบางกอกอารีน่า หนองจอก โดยทันทีที่เริ่มงานนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค ได้เดินเข้ามาภายในสนามฟุตซอลเพื่อเป็นการเปิดงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

 



 

นอกจากนี้ ภายในงานได้มีการชี้แจงผู้สมัครเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ค่าใช้จ่าย วิธีการหาเสียงและป้ายโฆษณา ตลอดจนประเด็นข้อสงสัยเพิ่มเติมระเบียบที่เปิดโอกาสให้ผู้สมัครหาเสียง เช่น การอัดรายการทีวี รายการวิทยุ และการนำนโยบายพรรคไปใช้หาเสียง ขณะที่การรักษาความปลอดภัยโดยรอบงานได้มีการตรวจกระเป๋าผู้เข้าร่วมงานเพื่อป้องกันการพกพาอาวุธเข้ามาสร้างความวุ่นวายภายในงาน

นายสนธิรัตน์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งในงานรวมพลังสร้างชาติว่า วันนี้เป็นวันที่พรรค พลังประชารัฐ ประกาศเกียรติภูมิถึงความพร้อมที่จะอาสามารับใช้บ้านเมืองและเป็นวันเปิดตัวทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อที่ยิ่งใหญ่ของการเมืองไทยในยุคนี้ เสียงของประชาชนในสนามวันนี้ เชื่อว่าวันที่ 24 มีนาคม คะแนนจะถล่มทลายกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เสียงของประชาชนคือสิ่งที่ พรรคพลังประชารัฐ น้อมรับและจะฟังเสียงตั้งแต่ที่อาสาเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองซึ่งตนเองอยู่ต่อหน้าขุนพลของพรรค ผู้อาวุโสทางการเมืองของประเทศที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรค และยังมีคนคุณภาพที่ตั้งใจมารับใช้บ้านเมือง พรรพลังประชารัฐ ก่อตั้งบนความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย บนสิ่งที่เห็นตรงกันว่าบริบทการเมืองของไทยต้องเดินไปข้างหน้า และไม่ถอยหลังกลับไปสู่ความขัดแย้งและวังวนอุปสรรคต่อความก้าวหน้า จึงจำเป็นต้องมี พรรคที่พร้อมเป็นทางเลือกและทางออกให้กับประเทศ ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐ จึงเข้ามาด้วยระบบ ประชาธิปไตย จัดตั้งเป็นพรรคใหม่ตาม รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตย และมองว่าสังคมที่ขัดแย้งจำเป็นต้องมีพรรคที่พร้อมจะต้องประสานความร้าวลึกเพื่อให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้ แต่ขณะนี้ยังมีบางกลุ่มหวงประชาธิปไตยไว้ และอ้างตนเองว่าสนับสนุนประชาธิปไตย ชี้นิ้วถึงพรรคอื่นที่อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการอ้าง ประชาธิปไตยเข้าสู่อำนาจว่าเป็นพรรคสนับสนุนเผด็จการ อย่างไรก็ตาม ประชาธิปไตย ที่แท้จริง คือ ประชาธิปไตยเพื่อประชาชนยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ใช่ประชาธิปไตยเพื่อใครบางคน สามารถแก้ปัญหาอุปสรรคบ้านเมืองไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้เพื่อพวกพ้องของตนเอง และเมื่อพ่ายแพ้กลับพาพวกลงเดินบนท้องถนน

นอกจากนี้
Lif
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวว่า แม้จะมีคนบอกว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้เปรียบในการลงสู่การเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ลืมไปว่าพรรคพลังประชารัฐเกิดขึ้นภายใต้กติการัฐธรรมนูญ ที่ทุกพรรคต้องเคารพ ซึ่ง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาให้สอดรับกับบริบทการเมือง และได้ถูกทำประชามติผ่านความเห็นชอบของประชาชนกว่า 15 ล้านคน แม้จะมีพรรคการเมืองอย่างน้อย 2 พรรค พยายามล้ม รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ดังนั้น อย่าอ้างความเห็นของตนเองแล้วโจมตี รัฐธรรมนูญโดยไม่เคารพมติของประชาชน ขณะเดียวกันขอให้เลิกโจมตีที่มาของนายกรัฐมนตรีที่ให้ ส.ว.และ ส.ส.ร่วมกันลงมติเนื่องจากประชาชนได้เห็นชอบแนวทางนี้แล้ว โลกโจมตีสิ่งที่ตนเองทำไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านั้นทำให้ประเทศเกิดความล้าหลัง หากจำได้ดี เมื่อปี 2557 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นจากกฎหมายนิรโทษกรรมที่พรรคการเมืองหนึ่งเสนอ ซึ่งความขัดแย้งดังกล่าวสะสม จนเป็นเหตุทำให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต้องเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งทันทีที่พูดถึงพลเอกประยุทธ์ ได้ปรากฏภาพ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมข้อความที่ระบุว่า ผู้นำที่เหมาะสม ในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า บริบทการเมืองในวันนี้หากมีผู้นำที่ไม่เหมาะสม ก็จะไม่สามารถสานต่อภารกิจในการฟื้นฟูประเทศได้ เวลานี้คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด จึงหวังว่าพลเอกประยุทธ์จะใช้เวลานี้ตัดสินใจมาเป็นผู้นำของเรา


ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากเห็นทุกพรรค ทุกกลุ่มการเมืองเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย ด้วยแนวคิด นโยบาย ผลงาน ไม่ใช่ด้วยการสร้างความแตกแยก หรือทำให้คนอื่นผิดแล้วตนเองถูก ประเทศต้องการความสงบเรียบร้อย ไม่ต้องการความขัดแย้งและต้องเดินหน้าต่อไป ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐจะไม่ยอมให้ใครนำประเทศกลับไปสู่ความขัดแย้งและตกต่ำอีกต่อไป






นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศัยตอนหนึ่งในงานรวมพลังสร้างชาติว่า เหลืออีก 50 วันเราจะก้าวสู่ชัยชนะอย่างแน่นอน และยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่เลือกอยู่ข้างคนที่อ้างว่าเป็นผู้สนับสนุนประชาธิปไตยทั้งที่เป็นเผด็จการรัฐสภาและพาคนไทยตายไปพร้อมกัน แต่พรรคเลือกที่จะสร้างสรรค์ประชาธิปไตยให้คนไทยอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ การแก้ไขปัญหาความยากจน เพิ่งจะมีรัฐบาลนี้ออกนโยบายอย่างจริงจังเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยสะสมและมีมานาน จึงต้องใช้เวลา เพราะหากแก้ไขได้ง่ายก็คงไม่ต้องรอให้พรรคพลังประชารัฐมาแก้

ทั้งนี้ นโยบายของพรรค ให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะสวัสดิการประชารัฐ ที่มุ่งขจัดความเหลื่อมล้ำและเน้นสานต่อสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำไว้ อาทิ ขยายผลบัตรประชารัฐ ให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติ แต่ตกหล่นให้ได้รับสิทธิครบถ้วน รวมไปถึงการเพิ่มสิทธิต่างๆในบัตรประชารัฐ ตลอดจนเร่งแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน ด้วยนโยบายการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี นอกจากนี้จะเพิ่มสิทธิ์ที่ดินทำกิน สปก. 4-01 เป็น สปก.4.0 ให้ผู้รับสิทธิ์ทำประโยชน์ในที่ดินได้ สามารถโอนสิทธิ์ให้บุคคลอื่นได้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด