ไม่สนใจ! นายกฯเมินเปลี่ยนชื่อ”ทักษิณ”รอดูนโยบายพปชร.ถึง8ก.พ.

นายกรัฐมนตรีเมิน ผู้สมัคร ส.ส. เปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ชี้เป็นเรื่องของ กกต. ยันไม่ห้ามล้อการเมืองฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ไม่ตั้งใครแทน "พุทธิพงษ์" ยังไม่ตัดสินใจร่วมงานพลังประชารัฐ บอกยังมีเวลา ไม่เกิน 8 ก.พ.นี้  

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อชาติ เปลี่ยนชื่อเป็น “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” จำนวน 15 คน ว่า เป็นเรื่องที่แปลก และไม่น่าสนใจ ซึ่งในเรื่องนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้พิจารณาเอง

ส่วนกรณีการจัดฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ที่มีการสั่งห้ามขบวนล้อการเมือง หรือชี้นำการเลือกตั้ง นั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ห้าม โดยได้มีการสอบถามฝ่ายความมั่นคงแล้ว ว่า เป็นการขอความร่วมมือเท่านั้น และขออย่าทำอะไรเกินเลยมากเกินไป ซึ่งความสนุกสนาน จะต้องมีขอบเขต โดยก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการผ่อนผัน จึงขออย่าอ้าง คสช. และมาตรา 44 “you get what you pay” อยากให้ประเทศเป็นอย่างไรก็ทำแบบนั้น และจะอ้างแต่ว่าเป็นประชาธิปไตยไม่ได้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึง กรณีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ลาออกจากตำแหน่งข้าราชการการเมือง และโฆษกรัฐบาล ว่า เป็นเรื่องของนาย พุทธิพงษ์ ที่จะไปทำงานการเมือง และจะไม่มีการตั้งบุคคลอื่นมาแทน เนื่องจากมีคณะทำงานอยู่แล้ว พร้อมกับยืนยันว่า การลาออกของนายพุทธิพงษ์ไม่มีการกดดันให้ออกจากตำแหน่งแต่อย่างใด

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่พรรคพลังประชารัฐ เทียบเชิญให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ว่า กำลังศึกษานโยบาย โดยยืนยันว่า จะไม่เกินวันที่ 8 ก.พ. อยู่แล้ว จึงขอเวลา เพราะขณะนี้ตนเองก็ทำงานบริหารประเทศอยู่ตลอดเวลา และไม่ได้สนใจเรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะประชาชนต้องการความช่วยเหลือดูแล

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ส่วนตัวยังไม่ได้เห็นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ เพราะเรื่องภายในของพรรค ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง และ ขอให้ประชาชนช่วยดูแลว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ที่ผ่านมามีการพูดถึง เรื่องปรองดองสมานฉันท์ ก็ต้องดูด้วยว่า คนที่เข้ามาทำงานการเมืองนั้น ใครบ้างที่ปรองดองสมานฉันท์หรือไม่ เพราะหากต่อยตีกันไปเรื่อยๆ ก็จะไม่จบ ประเทศก็ไปไม่ได้ วันหน้าได้รัฐบาลมาก็จะไม่มีความเชื่อมั่น จึงขอให้ทุกคนช่วยกัน

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังย้ำอีกว่า การจะพิจารณาตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวกับบัญชีรายชื่อ ส.ส. ของพรรค ซึ่งตนเองจะไปร่วมในส่วนของการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากรับแล้วก็จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นและยอมรับว่า ได้มีการเผื่อใจไว้แล้ว หากไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และในทุกเรื่องที่เชื่อว่า ที่ผ่านมา 3-4 ปี ได้ดูแลประเทศชาติดีขึ้น และอะไรที่ประชาชนคาดหวังก็จะทำให้ดีที่สุด ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะเลือกใคร ส่วนสถาการณ์บ้านเมืองขณะนี้ก็เป็นไปตามปกติ ยังไม่พบว่าจะมีข่าวเกิดความวุ่นวาย

ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews