Social :



ยันไม่เกี่ยวกัน..นายกฯเมินคนวิจารณ์ลงหาเสียงโยนศาลดูยุบพรรค!

19 ก.พ. 62 06:02
ยันไม่เกี่ยวกัน..นายกฯเมินคนวิจารณ์ลงหาเสียงโยนศาลดูยุบพรรค!

ยันไม่เกี่ยวกัน..นายกฯเมินคนวิจารณ์ลงหาเสียงโยนศาลดูยุบพรรค!

นายกรัฐมนตรี เมินคนวิจารณ์ลงพื้นที่หาเสียง ยัน ไม่เกี่ยวกัน ชี้ยื่นยุบพรรคเป็นเรื่องของ กกต.-ศาลรธน. ย้ำ เคยถามแล้วบอกทำได้ ยัน รบ.มีแผนยกเลิกพาราควอต







พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการภายหลังตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีประชาชนมาขอถ่ายรูป และชูป้ายให้การต้อนรับจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคการเมืองอื่น ว่า ส่วนตัวไม่เห็นว่าจะเกี่ยวข้องกับการเมืองตรงไหน เพราะมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีไม่เกี่ยวข้องกับคนที่ลงไปหาเสียง และวันนี้ส่วนตัวยังทำงานอยู่ เพราะกฎหมายให้ทำได้ ดังนั้นการลงพื้นที่แล้วมีเสียงตอบรับจากประชาชนก็ไม่น่าจะมีปัญหา จึงขออย่าโยงเป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด ส่วนตัวทำงานมา 4-5 ปี ก็ต้องมีทั้งคนรักและคนชัง

ส่วนการที่หลายพรรคการเมืองยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณายุบพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ และกกต.เพราะสอบถาม กกต.แล้ว ว่าสามารถทำได้ ก็ทำไป ส่วนการทำลายป้ายหาเสียงส่วนตัวถือว่าเป็นการกระทำของคนที่คิดไม่ดี เป็นการใช้ความรุนแรง ถ้าเก่งจริงควรออกมาแสดงตัวให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุม พร้อมถามไปยังประชาชนว่าคนแบบนี้จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขใช่หรือไม่ คนแบบนี้เป็นพวกไม่บริสุทธิ์ใจทั้งสิ้น







นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำมาตลอด 5 ปี ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ เพียงแต่ติดตรงที่ที่มาของตนเองว่าหากมาจากเลือกตั้งได้ จะดีกว่านี้ ดังนั้นหากมีคนสนับสนุนให้ตนเองได้ทำต่อก็ต้องขอบคุณ อะไรที่สามารถทำเพื่อประเทศของเราได้ก็ยินดีที่จะทำ หากมีความเป็นไปได้ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะเลือกหรือไม่ แต่วันนี้ยังไม่ใกล้เลือกตั้งก็มีการหาเสียงถล่มด่ารัฐบาลกันทุกพรรคการเมือง ทั้งที่ ส่วนตัวอยากให้ประเทศสงบสุขเพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง เพราะถ้า เราไม่สามารถทำวันนี้ให้สงบได้วันหน้าก็ต้องเกิดขึ้นอีก เหมือนกับที่คนบางคนสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมากแต่ทุกวันนี้ประชาชนก็ยังฟังอยู่ ดังนั้นทุกคนต้องรู้จักเรียนรู้เพราะทุกอย่างอยู่ที่มือของประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ไม่แบนการใช้พาราควอต ว่า รัฐบาลมีแผนและมุ่งหวังที่จะยกเลิกการใช้วัตถุอันตราย หรือ พาราควอตต่างๆ ในอนาคต แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่จะออกมาตรการต่างๆ เพราะถือเป็นสิทธิ์ แต่ก็ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ รัฐบาลมีหน้าที่ทำตามมติเพื่อนำไปสู่การลด ละ เลิก การใช้วัตถุอันตรายให้เร็วที่สุด

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวโจมตีว่ามีกลุ่มทุนพาราควอตเข้าไปมีส่วนในการกำหนดทิศทางการใช้สารเคมีของประเทศ ว่าเป็นการพูดเพื่อสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ซึ่งหากยังสร้างความเสียหายและไม่ไว้วางใจกันต่อไปในวันนี้ วันข้างหน้าทุกอย่างก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ วันนี้รัฐบาลพยายามทำหลายอย่างให้เกิดการยอมรับและความเชื่อมั่น แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งได้พูดไปหลายครั้งแล้วว่ารัฐบาลนี้ได้มีการลงโทษมากมายมูลค่าหลายแสน หลายหมื่นล้านบาท ก็ยังไม่มีใครสนใจในส่วนนี้
MulticollaC
ทุกอย่างต้องนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เข้ามาเสนอในช่องทางที่เป็นไปได้ตามกฎหมาย หากทุกคนไม่ช่วยกันและรัฐบาลแก้ไขปัญหาได้อย่างไร เพราะในผู้ปฏิบัติมีคนรับรู้และรับทราบคือประชาชนในพื้นที่ มีปัญหาก็ไปร้องเรียนขึ้นมาตนเองก็ต้องสอบสวนทุกวัน







นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติข้าว ว่า กฎหมายดังกล่าวรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เสนอ เพียงแต่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เสนอขึ้นมา ประกอบกับเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณภาครัฐ จึงให้รัฐบาลเข้าไปมีส่วนในการพิจารณาด้วย ซึ่งรัฐบาลได้พิจารณาและส่งกลับไปแล้ว โดยขอให้แก้ไขในประเด็นที่มีปัญหา แต่เอกสารที่มีการนำมาเผยแพร่เป็นฉบับที่ยังไม่ได้มีการแก้ไข ทำให้สร้างความเกลียดชังกันไปทั่ว ทั้งที่เจตนารมณ์ของรัฐบาลและ สนช.ต้องการดูแลเกษตรกรให้ได้มากที่สุด ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากบุคคลใด และได้เขียนไว้แล้วว่าไม่ได้มีผลกระทบกับเกษตรกรทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องไปดูที่มาในภาคเอกชน ในการขออนุญาตของบริษัทต่างๆ ก็ต้องมีกติกาของบริษัทนั้นอยู่แล้ว

ทั้งนี้ พันธุ์ข้าวในประเทศไทยมี 2 หมื่นกว่าพันธุ์ ผสมกันไปมาจะนำมาขึ้นทะเบียนทั้ง 2 หมื่นพันธุ์ไม่ได้ แต่ก็มีการทยอยขึ้นทะเบียนไป 100 กว่าพันธุ์ ที่ส่วนใหญ่เป็นพันธ์ข้าวหลักและที่เหลือก็มีการทยอยขึ้นทะเบียนตามลำดับ จึงขอให้เข้าใจด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะตีกันไปมา ซึ่งรัฐบาลตั้งใจดูแลเกษตรกร แต่ก็เป็นเรื่องของกติกา หากมากน้อยเกินไป ก็ต้องพิจารณากันใน สนช. และเชื่อว่า สนช.ไม่ได้มุ่งหวังประโยชน์กับใครทั้งสิ้น แต่วัตถุประสงค์คือต้องการดูแลพี่น้องเกษตรกรไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองหลายพรรค รวมถึงล่าสุดพรรคเพื่อไทย ชูนโยบายยกเลิกทหารเกณฑ์ และ ลดงบกระทรวงกลาโหม 10 เปอร์เซ็นต์ ว่า ทุกคนต้องเข้าใจว่าหน้าที่ในการป้องกันประเทศไม่ใช่อยู่ที่ทหารเพียงอย่างเดียว แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน อีกทั้งการเกณฑ์ทหารเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญที่ชายไทยทุกคนต้องเป็นทหาร ซึ่งตามหลักการรัฐบาลที่มีหน้าที่ป้องกันประเทศและภารกิจที่ไม่ใช่สงคราม ขณะเดียวกัน ยังช่วยกันพัฒนาประเทศรวมถึงเสริมกำลังให้หน่วยงานอื่นๆ โดยทุกอย่างต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่วันหน้าถึงเวลาแล้วไปเกณฑ์มา ซึ่งประเด็นสำคัญอย่ามองในแง่สงครามอย่างเดียว จึงขอให้เข้าใจกันด้วย และเป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคนต้องตอบแทบคุณแผ่นดิน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวยืนยันว่า ทหารไม่ได้มีการเตรียมการเพื่อต่อต้านการเมือง ซึ่งหน้าที่ของทหารและกระทรวงกลาโหม ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้ารัฐบาลอยู่แล้ว ดังนั้นการลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม ต้องไปดูว่าแต่ละกระทรวงมีงบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งทุกกระทรวงมีการเพิ่มงบประมาณทุกปีตามสัดส่วนและหลักการ เพราะต้องพิจารณาในรูปแบบคณะกรรมการเรื่องของงบประมาณ ดังนั้นการหาเสียงถ้าเอาแต่สนุกปาก พูดอะไรก็ได้ ไม่ต้องนึกถึงประเทศและความเป็นจริง วันหน้าต้องรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้นมา ทั้งนี้ อย่าเอาอะไรมาตีกันจนวุ่นวาย เพราะช่วงนี้เป็นความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ส่วนเรื่องการหาเสียงเป็นเรื่องของอนาคต เพราะต้องผ่านกฎหมาย พ.ร.บ.การเงินการคลัง และพ.ร.บ.งบประมาณ

นอกจากนี้ ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าได้ฟังเพลงที่ฮิตในโซเชียลขณะนี้แล้วหรือไม่นั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่รู้ ไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง



ขอบคุณข้อมูลจาก:.innnews.

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด