Social :



บริโภคร้องเรียนสายแทบไหม้ รพ.โขกค่ารักษาแพง ก.พาณิชย์ลุยต่อ สอบคลินิก-รพ.สัตว์เพิ่ม

10 มิ.ย. 62 00:06
บริโภคร้องเรียนสายแทบไหม้ รพ.โขกค่ารักษาแพง ก.พาณิชย์ลุยต่อ สอบคลินิก-รพ.สัตว์เพิ่ม

บริโภคร้องเรียนสายแทบไหม้ รพ.โขกค่ารักษาแพง ก.พาณิชย์ลุยต่อ สอบคลินิก-รพ.สัตว์เพิ่ม

บริโภคร้องเรียนสายแทบไหม้ รพ.โขกค่ารักษาแพง ก.พาณิชย์ลุยต่อ สอบคลินิก-รพ.สัตว์เพิ่ม


“พาณิชย์”เผย ผู้บริโภคร้องเรียนสายด่วน 1569 ถูกโรงพยาบาลเอกชนคิดค่ายา ค่ารักษาเกินจริงต่อเนื่อง ล่าสุดกำลังตรวจสอบอีก 1 ราย เรียกมาชี้แจงแล้ว หากเคลียร์ไม่ได้ ส่งดำเนินคดีทันที 

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า มีประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนเข้ามาที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแล้วคิดค่ายาและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริง ซึ่งกรมฯ อยู่ระหว่างการทยอยตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการคิดราคาสูงเกินจริง ก็จะเรียกมาชี้แจงต่อไป ซึ่งล่าสุด ได้ตรวจสอบพบว่ามีโรงพยาบาลเอกชนอีก 1 แห่ง คิดว่ารักษาเกินจริงตามที่มีการร้องเรียน โดยขณะนี้ ได้เชิญโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้มาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว


ทั้งนี้ หากไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเหตุใดจึงคิดราคายาและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินไป หรือชี้แจงแล้วไม่สมเหตุสมผล จะดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที โดยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะเป็นการแจ้งความเพิ่มเติม จากที่ก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาลเอกชนรายหนึ่งไปแล้ว เพราะคิดค่ารักษาอาการท้องเสีย และค่ายาสูงเกินจริงไปแล้ว

นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 52 ที่กำหนดให้โรงพยาบาลต้องแจ้งราคาซื้อขายยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์มาให้กรมฯ นั้น ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนอยู่ระหว่างการส่งราคา โดยมีกำหนดวันสุดท้าย คือ วันที่ 12 ก.ค.2562 ซึ่งหากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็จะนำราคาขึ้นไปใส่ไว้ในเว็บไซต์ของกรมฯ และจัดทำเป็น
Lif
QR Code ส่งให้โรงพยาบาลเอกชนนำไปติดไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคตรวจสอบ

“หลังจากได้ข้อมูลราคายามาครบถ้วนแล้ว กรมฯ ก็จะมาวิเคราะห์ดูว่าสอดคล้องกับที่โรงพยาบาลเอกชนส่งข้อมูลมาก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะที่เคยได้ข้อมูลเดิม ยาบางชนิดมีส่วนต่างราคาซื้อและขายสูงถึง 29.33%-8,766.79% และมีกำไรตั้งแต่ 47.73- 16,566.67% เช่น ยาพาราเซตามอล เม็ดละ 2-5 บาท แต่ขายเม็ดละ 200 บาท หรือยามะเร็งบางชนิด 1 โดส ราคา 2 แสนบาท แต่คิด 8 แสนบาท ซึ่งไม่รู้ว่าคิดจากอะไร อาจจะรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเภสัชกร ค่าแอร์ ค่าเก็บสต๊อก ค่าลงทุนต่างๆ มาไว้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ โดยจะต้องเชิญมาให้ชี้แจงต่อไป” นายวิชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม กรมฯ มั่นใจว่า ต่อไปมาตรฐานราคายา ที่โรงพยาบาลเอกชนคิด จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน เพราะจะรู้ข้อมูลของโรงพยาบาลทั้งหมด ทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภค เพราะโรงพยาบาลเอกชนจะคิดราคาที่สูงเกินจริงได้ยาก ส่วนค่าบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลสามารถคิดราคาแตกต่างกันได้ตามระดับของโรงพยาบาล เช่น ระดับ 5-6 ดาว จะแพงกว่าระดับ 2-3 ดาว เป็นต้น

"หลังจากที่กรมฯ ได้กำหนดมาตรการกำกับดูแลโรงพยาบาลเอกชนไปแล้ว ต่อไปจะเข้าไปดูแลค่ายาและค่ารักษาพยาบาลของคลีนิคเอกชน และโรงพยาบาลสัตว์ เพราะผู้บริโภคหลายรายได้ร้องเรียนว่าคิดค่ายา และค่ารักษาสูงเกินจริงเช่นเดียวกันกัน อีกทั้งยังไม่ปิดป้ายแสดงราคาให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจน โดยเฉพาะสถานรักษาพยาบาลสัตว์” นายวิชัย กล่าวย้ำ


ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์  thaiquote

โพสต์โดย : Ao