รัฐบาลเนปาล สั่งแบนพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง ในบริเวณเขาเอเวอเรสต์

อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วงนี้กระแส รณรงค์ลดโลกร้อน  กำลังเป็นกระแสที่มาแรงอย่างมาก ที่ทั้งภาครัฐ และเอกชนหลายๆ ประเทศต่างหันมาสนใจ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเราได้เห็นผลเสียทางระบบนิเวศน์มากมายจากการทิ้งขยะที่เป็นพลาสติกลงในแม่น้ำ ทะเล และแหล่งพื้นที่ธรรมชาติ ล่าสุดทาง รัฐบาลเนปาล   ได้ประกาศการแบนพลาสติดที่ใช้แล้วทิ้งในภูมิ ภาคคัมบู(Khumbu) ที่เป็นสถานที่ตั้ง Base Camp จุดแวะพักก่อนที่จะขึ้นสู่   เขาเอเวอเรสต์

สำหรับภูเขาเอเวอเรสต์ ถือว่าเป็นยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์  ที่เป็นเสมือนจุดหมายสูงสุดของนักปีนเขาทุกคน ที่จะต้องขึ้นมาพิชิตสถานที่แห่งนี้สักครั้ง  ซึ่งในแต่ละปี จะมีนักปีนเขา  และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่าแสนชีวิตเดินทางเข้ามาหาประสบการณ์ ณ ที่แห่งนี้  ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งคนเข้ามาท่องเที่ยว มาผจญภัยจำนวนมาก  ก็ได้ส่งผลให้มีขยะในเขาแห่งนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน

โดยในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นได้พยายามดูแล  จัดการปัญหาดังกล่าว  ซึ่งเมื่อช่วงต้นปี  2019  ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ต้องจัดการขยะที่หนักถึง  11  ตัน   จนล่าสุดทางรัฐบาลเนปาล  ได้มีมาตรการแบนการใช้   พลาสติก ใช้แล้วทิ้งเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับมาตรการดังกล่าว จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนมกราคม  2020  เป็นต้นไป  ซึ่งจะมีการสั่งห้ามนักปีนเขา นักท่องเที่ยว  และร้านค้าต่างๆ  ใช้งานพลาสติกที่มีความหนาน้อยกว่า  0.03  มิลลิเมตร  (ไม่นับรวมกับขวดน้ำพลาสติก) พร้อมทั้งได้มีการติดต่อขอความร่วมมือกับทาง  ห้างร้าน  เอเจนต์ทัวร์  และสายการบินต่างๆ  แล้ว  ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา  รัฐบาลเนปาล  ได้มีการประกาศกฏข้อบังคับเรื่องการใช้พลาสติกต่อนักปีนเขาแล้ว  แต่ทว่ามีเพียงนักปีนเขาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่ให้ความร่วมมือ

นอกเหนือจากปัญหาเรื่องขยะพลาสติกแล้ว  อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า  เอเวอเรสต์มักพบกับปัญหาเรื่องคนหายสาบสูญ  และการเสียชีวิตระหว่างปีนเขา  ทำให้ล่าสุดทางคณะกรรมการที่ปรึกษาของรัฐยาล  ได้มีการออกกฏข้อบังคับสำหรับผู้ที่จะมาปีนเขาเอเวอเรสต์  ว่าจะต้องผ่านประสบการณ์การปีนเขาที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า  21,000  ฟุต  พร้อมทั้งต้องเสียงค่าธรรมเนียมเพิ่มจากเริ่มต้นที่  11,000  USD  เป็น  35,000  USD  หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ  1  ล้านบาท

ข่าวท่องเที่ยว    รณรงค์ลดโลกร้อน    รัฐบาลเนปาล    เขาเอเวอเรสต์    พลาสติก