Social :



ปลูกถั่วงอกหัวโต ไม่ใช่เรื่องยาก

23 ต.ค. 60 15:10
ปลูกถั่วงอกหัวโต ไม่ใช่เรื่องยาก

ปลูกถั่วงอกหัวโต ไม่ใช่เรื่องยาก

ปัจจุบันกระแสการกินถั่วงอกทั้งต่างประเทศและในประเทศ มีความนิยมกันมากขึ้น และนิยมเพาะกินเองเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นผักที่ปลูกง่ายได้ผลเร็ว ที่สำคัญการเพาะกินเอง ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยไร้สารพิษ


ถั่วงอกที่เพาะขายเป็นการค้า ในท้องตลาดทั่วไปมีหลายชนิด เช่น   ถั่วงอกจากถั่วเมล็ดเขียว และเมล็ดดำ แต่ที่เริ่มมีความนิยมเพิ่มมากขึ้นคือถั่วงอกหัวโต ที่เพาะจากเมล็ดถั่วลิสง หรือ เมล็ดถั่วเหลือง  


ถั่วงอกคือ หน่ออ่อนที่งอกออกมาจากเมล็ดถั่วอาศัยธาตุอาหารที่สะสมอยู่ในเมล็ดถั่ว โดยการนำเมล็ดถั่วไปเพาะในภาชนะที่มีความชื้นและความร้อน หรืออุณหภูมิที่พอเหมาะ โดยไม่ให้โดนแสงสว่าง เพื่อไม่ให้รากและใบเลี้ยงงอกออกมา ภายในระยะเวลา 2-3 วัน ก็จะได้ถั่วงอกนำไปรับประทานหรือจำหน่ายได้


องค์ประกอบสำคัญในการเพาะถั่วงอก มีอยู่ 3 อย่างคือ 1.  เมล็ดถั่ว 2.  ภาชนะสำหรับการเพาะ และ 3.  น้ำ ในการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่จะนำมาเพาะถั่วงอก ไม่ว่าจะเป็นถั่วพันธุ์ใดก็ตาม ควรเป็นเมล็ดถั่วที่ใหม่ ยิ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาจากแปลงปลูกเร็วเท่าไรอัตราการงอกของเมล็ดถั่วก็จะมากขึ้นเท่านั้น ไม่ควรนำเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้นานมาเพาะ  


โดยหลักการแล้วไม่ควรเกิน 6 เดือนถึง 1 ปี เพราะอัตราการงอกจะลดลงไปเรื่อย ตามระยะเวลาที่เก็บ คุณสมบัติที่สำคัญอีกประการหนึ่งของเมล็ดพันธุ์ที่จะนำมาเพาะถั่วงอกก็คือ ควรเป็นเมล็ดพันธุ์ที่สะอาด เพราะเมล็ดพันธุ์ที่ไม่สะอาด มีเชื้อโรคไม่ว่าจะเป็นเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อรา หรือแบคทีเรีย แม้เพียงเมล็ดเดียวก็อาจทำให้ถั่วงอกที่เพาะทั้งหมดเน่าได้


ภาชนะที่ใช้เพาะต้องป้องกันถั่วไม่ให้โดนแสงสว่างกับสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอกของเมล็ดถั่วได้ นอกจากนั้นยังทำหน้าที่สร้างขอบเขตที่จำกัดต่อการงอกของถั่วงอก เพื่อให้ถั่วงอกมีลักษณะอวบอ้วน ไม่สั้นเกินไปหรือยาวเกินไป


ภาชนะที่ใช้สำหรับการเพาะถั่วงอกนั้นมีหลากหลายมากมายหลายชนิดอาจจะเป็นภาชนะที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น หม้อดินเผา กระถางดินเผา ไห ตุ่ม ถังซีเมนต์ เข่ง หรือตะกร้าสานจากไม้ไผ่ก็ได้ หรือจะเป็นภาชนะจำพวกถังพลาสติก ถังเหล็กก็ได้ หากใช้ภาชนะจำพวกหม้อดินเผา กระถางดินเผา

MulticollaC
ตุ่ม ถังซีเมนต์ จะรักษาความชื้นไว้ได้นานทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย คือ อาจจะรดน้ำทุก 3-4 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้ถังพลาสติก ข้อดีก็คือ น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก แต่ต้องรดน้ำบ่อยขึ้นคือ ทุก 1-2 ชั่วโมง


ภาชนะเพาะควรมีสีดำหรือสีทึบ เพื่อป้องกันแสงสว่าง ส่วนขนาดของภาชนะหรือความกว้าง ยาว สูง ของภาชนะก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของถั่วงอกที่ต้องการเพาะ แต่โดยหลักการแล้วเมล็ดถั่ว 1 ส่วน จะโตเป็นถั่วงอก 5-6 ส่วนโดยน้ำหนัก และในการเพาะถั่วงอกเมล็ดถั่วต้องได้น้ำอย่างพอเพียงและสม่ำเสมอตลอดการเพาะ 2-3 วัน หากขาดน้ำช่วงใดช่วงหนึ่ง จะทำให้ถั่วงอกชะงักการเจริญเติบโตได้


นอกจากนี้ยังสามารถใช้วัสดุช่วยเพาะอื่น เช่น ทราย แกลบดิน แกลบเผา หรือฟางข้าว มาเป็นวัสดุเพาะก็ได้ โดยการนำมาปิดทับเมล็ดถั่ว เพื่อช่วยกันแสงสว่างและช่วยรักษาความชุ่มชื้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มน้ำหนักในการกดทับถั่ว ก็จะทำให้ถั่วงอกเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นวิธีการที่ชาวบ้านหลายแห่งนำมาใช้ เช่นการเพาะถั่วงอกตามหาดทรายริมแม่น้ำ หรือริมแหล่งน้ำจืดหรือทำกระบะทราย กระบะแกลบเผาขึ้นมาแล้วใช้ผ้าขาวบางห่อถั่วเขียวฝังลงในหลุมทราย หรือหลุมแกลบแล้วปิดทับด้วยทรายหรือแกลบรดน้ำทุก 3-4 ชั่วโมง 2-3 วันก็ขุดเอาห่อผ้าขึ้นมาก็จะได้ถั่วงอกอวบอ้วนน่ากินเช่นกัน


สำหรับถั่วลิสงงอก   จะให้รสชาติกรอบอร่อย มีรสมัน แต่อาจจะเพาะยากกว่าถั่วอื่น นิดหนึ่งตรงที่มักจะขึ้นราได้ง่าย จึงมีการเพาะเพื่อขายทั่วไปในตลาดน้อย ส่วนใหญ่จึงนิยมเพาะเอง โดยเฉพาะประชาชนแถบภาคใต้จะนิยมและคุ้นเคยกับการกินถั่วลิสงงอกมากกว่าถั่วงอกชนิดอื่น



ที่มา//เดลินิวส์

  

โพสต์โดย : NENPOO