นอกจากนี้ ให้เกษตรกรหมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบโรคให้ตัดส่วนที่เป็นโรคและเก็บใบเป็นโรคที่ร่วงหล่นไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก หากโรคยังคงระบาดให้พ่นด้วยสารไดฟีโนโคนาโซล 25% อีซีอัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารโพรพิโคนาโซล 25% อีซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารคลอโรทาโลนิล 50% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 7 วัน
หลังจากหมดฤดูปลูกแล้ว เกษตรกรควรทำความสะอาดและกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกโดยเก็บเศษซากพืชไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก จากนั้นตัดแต่งใบแก่ออก เพื่อให้ต้นโปร่งอากาศถ่ายเทสะดวก สำหรับแปลงที่เกิดโรคระบาด งดการให้น้ำแบบพ่นฝอย ควรเปลี่ยนมาให้น้ำในระบบน้ำหยดแทน และพื้นที่ที่เกิดโรคระบาด ควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน ในส่วนของฤดูปลูกถัดไป ให้ใช้กิ่งพันธุ์ที่ปลอดโรค ควรปลูกให้มีระยะปลูกที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงปลูกต้นเบญจมาศชิดกันเกินไป เพื่อลดการระบาดของโรค
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.moac.go.th