วิธีการปลูก และดูแล กล้วยเล็บมือนาง
วิธีการปลูก และดูแล กล้วยเล็บมือนาง
กล้วยเล็บมือนาง เป็นกล้วยที่มีลำต้นค่อนข้างเล็กไม่สูงมากนัก ผลขนาดเล็ก ปลายผลเรียวแหลม ผลสุกมีสีเหลืองเข้ม เนื้อแน่น รสชาดหอมหวาน ใช้สำหรับรับประทานสุก หรือทำเป็นกล้วยตาก จึงเป็นที่ต้องการของตลาดในจังหวัดชุมพรเป็นอย่างมาก การปลูกกล้วยเล็บมือนางทำได้ไม่ยากโดยมีวิธีการ ดังต่อไปนี้
การเตรียมหลุมปลูก :
- ขุดหลุมปลูกกล้วยการขุดหลุมปลูกกล้วยนิยมขุดหลุมให้มีขนาดประมาณ 20 เซนติเมตร ลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 3 เมตร
- ใช้ดินผสมกับปุ๋ยคอกรองก้นหลุมให้สูงประมาณ 20 เซนติเมตร
- จากนั้นนำหน่อกล้วยที่ตัดรากออกหมดแล้วลงไปในหลุม กลบดินพอหลวมๆ ก่อนแล้วค่อยๆ เหยียบดินรอบโคนต้นให้แน่น จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม
การปลูกและการดูแลรักษา
การเลือกหน่อปลูก :
- ต้องเป็นหน่อที่เหง้าใหญ่สมบูรณ์ ความสูงของหน่อไม่มากเกินไป ส่วนใหญ่อยู่ประมาณ 75 เซนติเมตร เป็นหน่อที่ได้จากต้นแม่สมบูรณ์ ไม่เป็นโรค ต้องเป็นหน่อใบดาบใบเลี้ยงเล็กขนาดสูงประมาณ 75 เซนติเมตร มีเหง้าขนาดประมาณ 15 เซนติเมตรเหมาะสำหรับการแยกไปเพาะปลูก
การใส่ปุ๋ย :
หลังจากกล้วยตั้งตัวได้แล้ว ควรรีบใส่ปุ๋ยให้แก่กล้วยเพื่อการเจริญเติบโตทางลำต้น และการตกเครือที่มีคุณภาพ
ชนิดปุ๋ยมีดังนี้
- ปุ๋ยคอก ใส่ขณะเตรียมหลุมปลูกแล้ว อัตรา 5 กิโลกรัม/ต้นและหลังกล้วยเจริญเติบโตเต็มที่ก่อนออกปลี อัตรา 5-10 กิโลกรัม/ต้น
- ครั้งแรกหลังตัดปลีแล้ว
- ครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 1 เดือน
การตัดแต่งหน่อ :
- หลังจากปลูกกล้วยไปแล้วประมาณ 5-6 เดือนในช่วงนี้จะมีหน่อกล้วย จำนวน 4-5 หน่อ หรือมากกว่านั้น หน่อกล้วยจะแย่งอาหารจากต้นแม่ ทำให้เครือกล้วยที่ออกมาจากต้นแม่มีขนาดเล็กควรตัดแต่งหน่อกล้วยออก เก็บไว้ได้ 1-2 หน่อ หากมีมากกว่านี้ควรขุดออกบ้างแต่ไม่ควรขุดหน่อในช่วงกล้วยออกเครือ เพราะอาจทำให้กล้วย ผลลีบเล็กเครือเล็กหรือสั้นลงได้
การตัดปลี :
- เมื่อปลูกกล้วยไปประมาณ 6-8 เดือนกล้วยจะมีลำต้นขนาดใหญ่พร้อมที่จะออกปลี กล้วยสีแดงออกให้เห็นชัดและกาบปลีจะบานต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผลกล้วยที่อยู่บนหวีเริ่มสั้นและเล็กลงอีกทั้งขนาดแต่ละผลไม่สม่ำเสมอกัน ซึ่งเรียกว่า "หวีตีนเต่า" ทำการตัดปลีออกทิ้งเพื่อป้องกันการแย่งน้ำเลี้ยงและจะได้กล้วยที่ผลใหญ่สวย
การเก็บเกี่ยว :
- ประมาณ 3-4 เดือน หลังจากเริ่มออกดอก กล้วยจะเริ่มสุกแก้ พร้อมเก็บเกี่ยว การเก็บเกี่ยวจะเก็บเกี่ยวที่ความแก่ ประมาณ 80% เพื่อให้เหมาะสมต่อการขนส่งและระยะเวลารอจำหน่ายจนถึงมือผู้บริโภค
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.rakbankerd.com
โพสต์โดย : POK@