Social :



กรมวิชาการเกษตรเตือน เกษตตรกรเฝ้าระวังโรคหอมเลื้อย ในหอมแดงและหอมหัวใหญ่

03 ม.ค. 62 10:01
กรมวิชาการเกษตรเตือน เกษตตรกรเฝ้าระวังโรคหอมเลื้อย ในหอมแดงและหอมหัวใหญ่

กรมวิชาการเกษตรเตือน เกษตตรกรเฝ้าระวังโรคหอมเลื้อย ในหอมแดงและหอมหัวใหญ่

กรมวิชาการเกษตรเตือน เกษตตรกรเฝ้าระวังโรคหอมเลื้อย 
ในหอมแดงและหอมหัวใหญ่

ระยะนี้อุณหภูมิลดต่ำลง  มีหมอกในตอนเช้า  และมีฝนตกเล็กน้อยบางแห่ง   กรมวิชาการเกษตร   เตือน เกษตรกรผู้ปลูก หอมแดง และ หอมหัวใหญ่    ให้เฝ้าระวัง โรคหอมเลื้อย   ที่สามารถพบได้ในระยะการเจริญเติบโตทางลำต้น  มักพบแสดงอาการของโรคบนใบ  กาบใบ  หรือส่วนหัว  โดยเริ่มแรกพบจุดเล็กสีเขียวหม่นฉ่ำน้ำ  ต่อมาแผลขยายใหญ่เป็นแผลรูปกลมหรือรี  เนื้อแผลยุบลงเล็กน้อย บนแผลมีหยดของเหลวสีชมพูอมส้ม เมื่อแผลแห้งจะเห็นเป็นตุ่มเล็กสีน้ำตาลดำ  เรียงเป็นวงรีซ้อนกันหลายชั้น  ถ้าแผลขยายใหญ่  หรือหลายแผลมาชนกัน  จะทำให้ต้นหักพับ  แห้งตาย  หรือเน่าตายทั้งต้น  ทำให้ผลผลิตลดลง หากแสดงอาการของโรคในระยะที่ต้นหอมยังไม่ลงหัว จะพบแสดงอาการต้นแคระแกร็น  ใบบิดเป็นเกลียว ไม่ลงหัว  ถ้าเป็นโรคในระยะที่ต้นหอมเริ่มลงหัว จะทำให้หัวลีบยาว บิดโค้งงอ ส่วนกาบใบที่อยู่บริเวณเหนือหัวหอม (คอหอม)  มักยืดยาว  มีระบบรากสั้นกว่าปกติ  ทำให้ไม่ได้ผลผลิต.

ให้เกษตรกรหมั่นตรวจและกำจัดวัชพืชในแปลงและรอบแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ   เพื่อลดการสะสมเชื้อสาเหตุโรค  ถ้าพบต้นที่เป็นโรค ให้ถอนต้นที่พบเชื้อรานำไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที  จากนั้นให้เกษตรกรพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชโพรคลอราช  50%  ดับเบิ้ลยูพี อัตรา  20 กรัมต่อน้ำ  20  ลิตร  หรือสารอะซอกซีสโตรบิน 25% เอสซี อัตรา  10  มิลลิลิตรต่อน้ำ  20  ลิตรหรือสารไดฟีโนโคนาโซล  25%  อีซี  อัตรา  20  มิลลิลิตรต่อน้ำ  20  ลิตร หรือสารคาร์เบนดาซิม  50%  เอสซี  อัตรา  15  มิลลิลิตรต่อน้ำ  20  ลิตร  โดยพ่นสารชนิดใดชนิดหนึ่ง 
MulticollaC
กรณีโรคยังคงระบาด ให้พ่นซ้ำทุก 5 วัน แต่ไม่ควรเกิน 4 ครั้ง และควรพ่นสลับกับสารแมนโคเซบ 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา  40-50  กรัมต่อน้ำ  20  ลิตร  เพื่อป้องกันการดื้อยาของเชื้อสาเหตุโรค


ทั้งนี้  ก่อนการปลูกหอมแดง เกษตรกรควรไถพรวนพลิกดินขึ้นมาตากแดด  2-3  แดด  โดยไถให้ลึกจากผิวดินมากกว่า  20  เซนติเมตรขึ้นไป  และตากดินไว้ให้นานกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจตกค้างในดิน  และช่วยลดปริมาณเชื้อในดินลงได้มาก จากนั้นให้ใส่ ปูนขาว  ปุ๋ยคอก  หรือปุ๋ยอินทรีย์  เพื่อปรับสภาพดิน  และเลือกใช้หัวพันธุ์ที่มีคุณภาพดีจากแหล่งปลอดโรค โดยแช่หัวพันธุ์ก่อนปลูกด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์มา อัตรา 10-20 กรัม ต่อหอมแดง 1 กิโลกรัม หรือสารป้องกันกำจัดโรคพืชโพรคลอราช 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา  40  กรัมต่อน้ำ  20  ลิตร  แช่นาน  15-20  นาที  อีกทั้งในแปลงที่เคยมีการระบาดของโรครุนแรง  เกษตรกรควรเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ไม่ใช่พืชสกุลหอมและกระเทียมสลับหมุนเวียนอย่างน้อย  2  ปี

ข้อมูลอ้างอิง  :  https://www.moac.go.th/

โพสต์โดย : POK@