เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในระยะนี้ส่งผลทำให้ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดฝนฟ้าคะนองและลมพัดแรงขึ้นบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยพายุฝนได้พัดกระหน่ำอย่างหนักในเขตเทศบาล ต.แม่สาย เป็นเวลาประมาณ 30 นาท
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในระยะนี้ส่งผลทำให้ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดฝนฟ้าคะนองและลมพัดแรงขึ้นบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
โดยพายุฝนได้พัดกระหน่ำอย่างหนักในเขตเทศบาล ต.แม่สาย เป็นเวลาประมาณ 30 นาที และยังมีลูกเห็บขนาดเล็กตกลงมาอย่างหนาแน่น ทำให้พื้นที่หลายแห่งได้รับความเสียหาย ส่วนใหญ่เป็นต้นไม้หักโค่นลงมาทับถนน รั้วกั้นสถานที่ต่างๆ เช่น ต้นไม้ภายในโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ได้เอนลำต้นจนทำให้ฐานคอนกรีตใต้ต้นไม้ดันรั้วด้านหนึ่งจนเสียหายบางจุด ฯลฯ
นอกจากนี้ยังพบว่ามีต้นเสากาแลรูปทรงศิลปะที่ตั้งบนถนนพหลโยธินขาเข้าและออกเมืองแม่สาย ได้ล้มลงมาบนผิวจราจรแต่ช่วงเกิดเหตุไม่มีรถสัญจรผ่านไปมาทำให้ไม่มีผู้ได้รับอันตราย
นายวรรณศิลป์ จิระกาศ ปลัดเทศบาล ต.แม่สาย กล่าวว่าจากเหตุการ์พายุลูกเห็บดังกล่าวถือเป็นพายุฤดูร้อนทำให้เทศบาลได้สำรวจความเสียหาย พบว่ามีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 7 จุด จึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปช่วยเหลือตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะการตัดกิ่งไม้ต้นไม้ที่ล้มขวางถนน ส่วนกรณีต้นเสากาแลที่ล้มบนถนนก็จะได้รีบเก็บกู้และซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน
โพสต์โดย : ปลายน้ำ