Social :



‘สมุยพลัสโมเดล’ ลุยเปิดรับต่างชาติ 15 ก.ค. นี้ เอกชนย้ำความพร้อม หวังรายได้ทั้งปี 64 แตะ 8 พันลบ.

08 ก.ค. 64 11:07
‘สมุยพลัสโมเดล’ ลุยเปิดรับต่างชาติ 15 ก.ค. นี้ เอกชนย้ำความพร้อม หวังรายได้ทั้งปี 64 แตะ 8 พันลบ.

‘สมุยพลัสโมเดล’ ลุยเปิดรับต่างชาติ 15 ก.ค. นี้ เอกชนย้ำความพร้อม หวังรายได้ทั้งปี 64 แตะ 8 พันลบ.

นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ เกาะสมุย จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้โครงการสมุย พลัส โมเดล หลังจากนั้นในวันที่ 23 กรกฎาคม เกาะพะงัน และเกาะเต่า จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้โครงการเดียวกัน โดยขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งภาคเอกชนได้เตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว อาทิ การนำสถานประกอบการเข้ารับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย (เอสเอชเอพลัส) การกำหนดเส้นทางท่องเที่ยว และเงื่อนไขการปฏิบัติตัวต่างๆ โดยการเปิดโครงการ สมุย พลัส โมเดล ประเมินเฉพาะเกาะสมุย คาดว่าจะในไตรมาส 3/2564 สมุยจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีรายได้สะสมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 4/2564 เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น และสร้างรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้น แต่หากทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ อาทิ มีการแก้กฎระเบียบของภาครัฐต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยว อาจทำให้ทั้งปี 2564 สมุยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท

“ในปี 2563 เมื่อเกิดการระบาดโควิด-19 ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวเกาะสมุยปี 2563 ลดลงเหลือประมาณ 5% หรือมีรายได้ประมาณ 2,900 ล้านบาท จากปี 2562 ก่อนมีการระบาดของโควิด-19 มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวคนไทย ประมาณ 10% หรือ 3,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดสมุยรับต่างชาติแล้ว ในช่วง 1 เดือนแรก (กรกฎาคม-สิงหาคม) คาดว่าจะสร้างรายได้ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1 เท่าจากที่ภาครัฐคาดการณ์ไว้ 1,000 ล้านบาท” นายรัชชพร กล่าว

Lif
นายรัชชพร กล่าวว่า รูปแบบการเปิดสมุย พลัส โมเดล ไม่ถือว่าเป็นการกักตัว เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา ในช่วง 3 วันแรกต้องอยู่ในบริเวณโรงแรม สามารถใช้บริการในโรงแรมได้ทุกประเภท รวมถึงชายหาดในบริเวณที่เป็นส่วนของโรงแรมได้ ไม่จำกัดให้อยู่เฉพาะในห้องพักเท่านั้น วันที่ 4-7 สามารถออกจากพื้นที่โรงแรมได้ แต่ต้องอยู่ภายในเกาะสมุย โดยช่วง 7 วันแรกจะต้องพักในโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (เอแอลคิว) เท่านั้น ส่วน 7 วันหลัง จึงจะสามารถเดินทางไปเที่ยวในเกาะพะงันและเกาะเต่าได้ โดยในไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาเที่ยวเกาะสมุยจำนวนประมาณ 2,000 คน มีการใช้จ่ายประมาณ 30,000-50,000 บาทต่อคนต่อทริป แต่ยังไม่รวมกระบวนการตรวจหาเชื้อในด้านสาธารณสุข ที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 บาทต่อคน โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามานั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มฐานลูกค้าหลัก อาทิ เยอรมัน ออสเตรเลีย อาฟริกาใต้ ยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเศส โดยเฉพาะอิสราเอล ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเลี่ยงความวุ่นวายของเหตุการณ์ความไม่สงบในขณะนี้ และเข้ามาเที่ยวพักผ่อนในประเทศไทย เนื่องจากเท่าที่ได้พูดคุยกับพลเมืองในอิสราเอล พบว่าหากมีโอกาสมาเที่ยว ก็ต้องการมาเที่ยวในที่ที่สามารถนอนหลับได้สนิท และไทยก็เป็นประเทศที่มีความเป็นกลางด้านการเมือง

นายรัชชพร กล่าวว่า สำหรับกรณีหลังจากเปิดภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวคแล้ว แต่ติดเชื้อโควิด-19 จึงสร้างความกังวลในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการเดินทางเข้าพื้นที่ของคนไทย เบื้องต้นมองว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นในลักษณะนี้มีน้อยมาก ทำให้เงื่อนไขในการเดินทางเข้าพื้นที่ และการตรวจคัดกรองต่างๆ ยังคงปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขของศบค. รวมถึงผู้ประกอบการและคนในพื้นเองมีความกระตือรือร้นสูงมาก บวกกับทั้ง 3 พื้นที่ ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นต่อเนื่องเกิน 1 เดือนแล้ว จึงมองว่า วันที่ 15 กรกฎาคมนี้ พร้อมเปิดรับต่างชาติได้แน่นอน หลังจากนั้นจะหารือร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เพิ่มเติม ว่าภายหลังภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วไม่พบการระบาดของโควิด-19 หรือมีครัสเตอร์ใหม่จนส่งผลกระทบต่อคนไทยและบุคลากรด้านสาธารณสุข จะขอให้เกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นเกณฑ์เดียวกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน

โพสต์โดย : ปลายน้ำ