‘ชูวิทย์’เชื่อ ‘ตู้ห่าว’หลุดแน่!ตร.ไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน ขอ อสส.รับเป็นคดีข้ามชาติ

นายชูวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ตนมายื่นเอกสารขอให้อัยการสูงสุดรับคดีนายตู้ห่าว เป็นคดีนอกราชอาณาจักรอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะมีข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการแจ้งข้อหาฟอกเงิน ทั้งๆ ที่เป็นความผิดมูลฐานจากเรื่องยาเสพติด โดยนายตู้ห่าวนั้น ถูกแจ้ง 3 ข้อหา ประกอบด้วย สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันค้ายาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ตนจึงต้องการให้อัยการสูงสุดเป็นคณะนำทีมสอบสวนในการทำคดีนี้ เพราะการที่ไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน จะทำให้การยึดอายัดทรัพย์เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และเมื่อถึงชั้นฎีกา อาจมีการยกฟ้องได้ และบรรดาคนใกล้ชิดนายตู้ห่าว ไม่ว่าจะเป็นนางพัชรินทร์ นางสุชาดา และพี่เขยนายตู้ห่าว ที่เป็นอดีตสารวัตรตำรวจ จะอยู่ในฐานะพยานเท่านั้น อีกทั้งเมื่อไม่มีการแจ้งข้อหาฟอกเงิน ก็อาจจะทำให้นางพัชรินทร์ รอดข้อหาสมคบกันฟอกเงินกับนายตู้ห่าวได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังแถลงเสร็จสิ้น นายชูวิทย์ได้พยายามขอขึ้นไปพบอัยการสูงสุดที่ชั้น 9 แต่ทางเจ้าหน้าที่พยายามให้นายชูวิทย์ ส่งมอบเอกสารผ่านโฆษกอัยการสูงสุด แต่นายชูวิทย์ยืนยันที่จะรอพบอัยการสูงสุดเท่านั้น พร้อมระบุว่า ตนเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่ง อัยการสูงสุดก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ทำไมตนจะขอเข้าพบไม่ได้ และนายชูวิทย์ก็ได้เคลื่อนตัวไปนั่งรอที่โซฟา พร้อมกับระบุว่า หากไม่ให้ตนพบแค่ 5 นาที ตนก็จะรออยู่แบบนี้ตนรอได้ ขอแค่ 5 นาทีเท่านั้นกับกระดาษหนึ่งแผ่น และมีช่วงจังหวะหนึ่งที่นายชูวิทย์ ได้ย้ายไปนั่งรอที่หน้าลิฟต์แทน และได้พยายามเคลื่อนตัวขึ้นลิฟต์ไปชั้น 9 ก่อนจะลงมาที่ชั้นล่าง บริเวณ Press Center อีกครั้งพร้อมนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) และในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีรายงานว่า อัยการสูงสุดกำลังติดธุระและเตรียมจะให้นายชูวิทย์เข้าพบต่อไป และภายหลังจากที่นายชูวิทย์เข้าพบอัยการสูงสุดแล้วนั้น นายชูวิทย์จะเดินทางต่อไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อติดตามการแถลงข่าวยึดทรัพย์นายตู้ห่าวอีกด้วย.