ขอยึดมติพรรค “ก้าวไกล” ไม่รู้เพื่อไทยนัดคุย พร้อมขอขมาช่วยโหวตนายกฯ

“ก้าวไกล” ไม่รู้เพื่อไทยนัดคุย พร้อมขอขมาช่วยโหวตนายกฯ โยนทีมเจรจาชี้แจง ขอยึดมติพรรค ย้ำชัดเจนมาโดยตลอดในอุดมการณ์ 8 พรรคร่วมฯ ลั่นตนคิดว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเรา ในการจัดตั้งรัฐบาล

 

 

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงข่าวเสนอร่างกฎหมาย 9 ฉบับต่อสภาฯ ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะมีการนัดหารือกับทางพรรคก้าวไกลและหากมีข้อผิดใจกัน ก็พร้อมที่จะขอโทษ รวมถึงจะขอการสนับสนุนจากก้าวไกลให้ยกมือโหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยนั้น ส่วนตัวไม่ได้ทราบล่วงหน้ามาก่อน เป็นข้อมูลที่เพิ่งทราบจากสื่อมวลชนในขณะนี้ ส่วนท่าทีของพรรคก้าวไกลจะเป็นอย่างไรนั้น จะให้คณะผู้เจรจาของพรรคที่รู้ข้อมูลครบถ้วนมาชี้แจง

 

 

หากเพื่อไทยจะมาขอโทษนั้น ส่วนตัวคิดว่า ตนเองได้แสดงความเห็นไว้ชัดเจนแล้วว่า รอดูจุดยืนที่ชัดเจนของพรรคมากกว่าที่จะแถลงความเห็นส่วนตัว สำหรับการประชุม สส.พรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ สส.ส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากแกนนำจะมีการระบุว่า โหวตหรือไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทยนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทางพรรคไม่ได้มีการพูดคุยวาระในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นวาระที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ และการผลักดันร่างกฎหมาย

 

 

ขณะกรณีการดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา จะต้องมีการลาออกหรือไม่ หากจะรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าย นายพริษฐ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปด่วนสรุปแบบนั้น ข้อกฎหมายที่ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เราทราบดีอยู่แล้ว ตนคิดว่า เป็นการพูดคุยที่ต้องเกิดขึ้น หากมาถึงวันนั้นอีกทีหนึ่งค่อยมาคุยกัน

 

 

ขณะเดียวกัน นายพริษฐ์ ย้ำว่า ต้องรอดูท่าทีที่ชัดเจนว่า รัฐบาลใหม่จะประกอบด้วยพรรคอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร จะขับเคลื่อนวาระ มีความชัดเจนตรงนี้หรือไม่ ถึงจะมาพูดคุยกัน ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า ต้องการสลายขั้ว และก้าวไกลก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

 

นายพริษฐ์ มองว่า จุดยืนพรรคก้าวไกลชัดเจนมาตลอดว่า ในวันที่ 14 พฤษภาคม ได้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลง คะแนนต่างๆ 8 พรรคการเมืองต่างๆ ที่ได้เซ็น MOU ร่วมกันหลังจากผลการเลือกตั้งปรากฏออกมา ยังยืนยันว่าพันธมิตรจาก 8 พรรคเดิม เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ

 

 

นายพริษฐ์ ระบุว่า สิ่งที่เราต้องการยืนยันว่า อยากเห็นประชาธิปไตยแบบปกติ คือ ต้องไม่ปล่อยอำนาจของ สว.ในการเลือกนายกฯ ตามมาตรา 272 คือ เข้ามาแทรกแซง การจัดตั้งรัฐบาล เป็นการแทรกแซงในลักษณะใช้อำนาจ มีสองวิธีหลัก การแทรกแซง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย อีกวิธีเป็นการแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากสูตรพิสดาร เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่อาจจะมีเสียงกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นการผสมผสานของพรรคการเมืองที่ถูกบีบจาก สว.ให้มารวมตัวกัน ไม่ได้ยึดโยงกับผลการเลือกตั้ง หรืออุดมการณ์ของแต่ละพรรค

 

 

ดังนั้น จุดยืนของก้าวไกล คิดว่าอย่าปล่อยให้อำนาจ สว. มาแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลตามที่จะเป็นไปตามปกติ พร้อมมองว่า เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของเรา ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หากการได้มาซึ่งอำนาจ ต้องแลกกับมาด้วยอะไรที่ทำไม่ดี ต้องถามว่าเราจะทำแบบนั้นทำไม

 

 

นายพริษฐ์ วัชระสินธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล ยื่นร่งกฎหมาย 9 ฉบับ  เมื่อวานประชุม สส. อย่าด่วนสรุป เรื่องหมออ๋องต้องลาออกจากรองประธานสภา เพราะพรรคก้าวไกล ต้องเป็นฝ่ายค้าน รอให้ถึงเวลาก่อน ต้องรอดูท่าทีที่ชัดเจนว่า รบ.ใหม่มีพรรคอะไร นายกรัฐมนตรีเป็นใคร ขับเคลื่อนวาระเปลี่ยนแปลงอะไร ให้ถึงวันนั่นก่อน ค่อยดูอีกที

 

 

ย้ำจุดยืนพรรคก้าวไกลชัดเจนมาตลอด ว่า ผลการเลือกตั้ง 14 พค. สะท้อนให้เห็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการคงามเปลี่ยนแปลง แปรมาเป็นคะแนนสนับสนุน 8 พรรคการเมืองที่ทำ MOU ร่วมกัน โดยเชื่อว่าพันธมิตร 8 พรรคเดิม เป็นพันธมิตรที่ดีที่สุด และเป็นทางออกของประเทศ

 

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews