Social :



แจงไม่ใช่เพื่อไทยการละคร! เพื่อไทย มั่นใจได้เสียงเลือกนายกฯม้วนเดียวจบ

10 ส.ค. 66 12:08
แจงไม่ใช่เพื่อไทยการละคร! เพื่อไทย มั่นใจได้เสียงเลือกนายกฯม้วนเดียวจบ

แจงไม่ใช่เพื่อไทยการละคร! เพื่อไทย มั่นใจได้เสียงเลือกนายกฯม้วนเดียวจบ

เพื่อไทย มั่นใจได้เสียงเลือกนายกฯม้วนเดียวจบ “ชลน่าน” ย้ำพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด บอกไม่มีเงื่อนไขโควต้าร่วมรัฐบาล แจงไม่ใช่เพื่อไทยการละคร
 
 

ภายหลังแถลงข่าวจับมือร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเดินทางไปขอเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีกับพรรคก้าวไกลทั้งที่ก่อนหน้านี้พรรคร่วมกังวลว่าจะมาร่วมรัฐบาล จะความกังวลในการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ ว่า ไม่กังวล และไม่เป็นปัญหา

 

 



การที่แต่ละพรรคได้แสดงเจตจำนงในการทำงานร่วมกัน เป็นหน้าที่ของทุกพรรคที่ต้องมาช่วยกันหาคะแนนเสียงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้เกิน 376 เสียง ดังนั้นเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคชาติไทยพัฒนาที่ตอบรับคำเชิญมาแล้ว เราเองก็ต้องช่วยหาคะแนนเสียงให้ผ่านการโหวต เพื่อทำให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด



 

ส่วนที่ตอนนี้มีสว.บางส่วนเริ่มออกมาพูดถึง การไปขอเสียงของพรรคก้าวไกลทำให้ดูเหมือนเป็นการหลอกเพื่อถอยไปเป็นฝ่ายค้านปลอมๆ นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล เคยพยายามจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันแล้ว โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และมีพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้น รวม 312 เสียง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา

 



 

จากนั้นพรรคเพื่อไทยได้รับไม้ต่อภายใต้เงื่อนไขของ 8 พรรคร่วมและมีเงื่อนไขใน mou ซึ่งพยายามถึงที่สุดแล้วที่จะขอคะแนนจากทุกฝ่ายทั้งสส. และสว. โดยทำอย่างเปิดเผย ซึ่งทุกพรรคและทุกฝ่ายบอกว่าหากมีเรื่องการแก้ไขม.112 ไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้ ดังนั้นเราจึงจำยอมและไม่ได้เกลียดพรรคก้าวไกล และไม่เคยปฏิเสธเสียงของประชาชน

 

 

แต่สถานการณ์แบบนี้หากพรรคเพื่อไทยไม่เดินหน้าทำอะไร เท่ากับปฏิเสธความรับผิดชอบ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงต้องไปแสวงหาเสียงเพิ่มเติม เป็น สิทธิ์โดยชอบธรรม ส่วนข้อกังวลของสว.เราได้ประกาศไปแล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ด้วย ซึ่งการที่เราไปพูดคุยกับทุกพรรคทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคใดๆ เราเพียงต้องการขอเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล พร้อมย้ำว่า เราติดล็อครัฐธรรมนูญปี 60




 

 

และการไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกลเป็นเพียงการสอบถามเจตจำนงว่าจะสามารถขอความร่วมมือปลดล็อครัฐธรรมนูญได้อย่างไร และด้วยพฤติการณ์และพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยทำให้สว.มั่นใจและคลายความกังวลได้

 

 




นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่ทุกฝ่ายเดินหน้าเพื่อต้องการสลายขั้วทุกพรรคการเมือง พรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าตอนที่แยกกันกับพรรคก้าวไกลใน mou เราพูดชัดว่า ให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน และพรรคเพื่อไทยจะสร้างมิติใหม่ทางการเมือง และ ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลหากมีนโยบายใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราสามารถทำได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องแก้ไขม.112 และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของประเทศ และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในครั้งนี้ไม่ได้เอาเรื่องของผลประโยชน์ของพรรคการเมืองมาเป็นที่ตั้งว่าใครจะต้องได้กระทรวงใด แต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือแก้ไขวิกฤติของประเทศ

 

 

ส่วนพรรคเพื่อไทยประกาศจะสลายขั้วทางการเมือง แต่ยังเหลือพรรคประชาธิปัตย์พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ทำไมถึงไม่เชิญมาพูดคุย นายภูมิธรรม ระบุว่า เราไม่ได้เชิญใครร่วมรัฐบาล แต่เราเพียงต้องการขอเสียงมาช่วยโหวตให้ความไว้วางใจกับพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทุกพรรคการเมืองเราพูดคุยกันหมดแล้วแต่กระบวนการต่างๆที่จะนำมาสู่ข้อสรุปต้องให้เป็นไปตามกรอบเวลา

 

 
MulticollaC

ส่วนที่พูดคุยกับพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้พรรคก้าวไกลตอบรับจะโหวตให้หรือไม่ แต่เสียงของสส.ส่วนใหญ่บอกให้รอฟังเสียงประชาชน ซึ่งหากไม่โหวตให้จะไปคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เราได้ไปพูดคุยพูดคุยถึงสถานการณ์พิเศษ และเจตจำนงของพรรคเพื่อไทย

 

 

โดยให้ทุกฝ่ายไปไตร่ตรองไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกล เพราะตอนนี้ยังมีเวลาอีกหลายวันก่อนจะถึงวันโหวต ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะยังไม่หยุดก่อนจะถึงวันโหวต เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายยังไม่ต้องตอบว่าจะทำหรือไม่ทำ เพราะสุดท้ายสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหวังเพื่อ แสดงเจตจำนง พิสูจน์ให้เห็นในวันโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งหลังจากนี้พรรคการเมืองใดพร้อมพรรคการเมืองใดพร้อมพรรคเพื่อไทยก็จะมาแถลงเปิดเผยต่อสื่อมวลชน

 

 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า 3 พรรคการเมืองที่เหลือ เป็นการคุยในแบบเดียวกันเพื่อโหวตนายกฯ นายภูมิธรรม ย้ำว่า ใช่ เป็นการคุยในสถานการณ์ และคุยเรื่องเสียงในการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลังจากนี้พรรคที่จะเข้าร่วมอยู่ระหว่างขั้นตอน กระบวนการ ความพร้อม

 

 

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราต้องการหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับประชาชน เรายอมรับว่าพรรคเพื่อไทยใช้ต้นทุนครั้งนี้สูงมาก สิ่งที่พรรคเพื่อไทยคาดหวังคือให้ ประชาชนมอบความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ แต่เราทำได้ไม่สำเร็จ เราก็ต้องยอมรับ เราต้องใช้สถานการณ์แบบนี้มาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์

 

 

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงการรวบรวมเสียงพรรคการเมือง ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะต้องเป็นเสียงข้างมาก ถึงจะมีเสถียรภาพ ภายใต้การเจรจากับทุกพรรคการเมืองพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่ามีเสียงข้างมากแล้ว ซึ่งให้การรับรองแต่ละพรรคการเมืองว่าเพื่อไทยมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแต่จะมีเสียงเกิน 300 หรือไม่อยู่ในขั้นตอนที่กำลังทำงานอยูา และยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีข้อจำกัดในทางเลือก และเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดบนพื้นฐานความเป็นไปได้ เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้

 

 

นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทยเริ่มต้นจาก 141 และการทำงานจนถึงวันนี้ 238 การดำเนินงานเป็นรูปธรรมและได้ยืนยันมาตลอดว่าเสียงเกินกึ่งหนึ่งและจะต้องทำให้เห็นชัดเจน แต่พรรคเพื่อไทยมีเวลาจนถึงวันที่ 17 สิงหาคมเพื่อรอการกำหนดวันประชุมยืนยันว่าก่อนถึงวันโหวตนายกรัฐมนตรีจะมีเสียงที่แสดงให้เห็นว่าสามารถเลือกแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยม้วนเดียวจบได้



 

ส่วนการวิพากย์ว่าเป็นเพื่อไทยการละครนั้นนพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า ผู้แทนประชาชนและเพื่อไทยเป็นองค์กรทางการเมืองที่อาสามาทำหน้าที่แทนประชาชน ทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์พร้อมรับฟังส่วนจะถูกใจหรือไม่ขึ้นอยู่กับวิธีคิดฐานจิตของแต่ละคน อะไรสิ่งที่เป็นประโยชน์จะนำมาปรับใช้อันไหนที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ฟังแล้วผ่านไปเพราะไม่สามารถปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นได้

 

 

 

นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทยปฏิเสธความคิดของคนเห็นต่างไม่ได้ แต่แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจที่จะสลายความขัดแย้ง และพรรคเพื่อไทยจะทำงานเพื่อพิสูจน์ความเป็นจริงและความจริงใจในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ ซึ่งความตั้งใจและการทำงานของพรรคเพื่อไทยจะสะท้อนบทสรุปในอนาคต หากคิดไม่ดีต่อประเทศหรือตัดสินใจอย่างไรถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่ตั้งใจทำ

 

 

นพ.ชลน่าน มองว่า กรณี สส. พรรคก้าวไกล การเปิดรับฟังความเห็นของประชาชน ผ่านเฟซบุ๊ตว่าจะโหวตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้นเป็นช่องทางที่ดี แต่การรับฟังความเห็นเพียงส่วนหนึ่งต้องคำนึงสัดส่วนประชากร 67 ล้านคน แต่ละพรรคก็มีคนสนับสนุนด้วย โดยพร้อมข้อเสนอพรรคก้าวไกล

 

 

หากจะตอบว่าไม่สามารถสนับสนุนได้ เพื่อไทยก็จะใช้แนวทางอื่นเดินหน้าต่อ ขออย่าพูดทำนอบว่าพรรคเพื่อไทยเล่นละครกับก้าวไกลมาเป็นข้ออ้างไปร่วมงานการเมืองกับพรรคอื่น โดยย้ำดำเนินการบนพื้นฐานความเป็นจริงและข้อเสนอแนะของนักวิชาการและผลการเมือง ซึ่งหากไม่ทำจะถูกตำหนิ สวนทำแล้วจะได้ผลอย่างไรก็จะนำไปประกอบการตัดสินใจในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล

 

 

 ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy