Social :



วิธีลดความอ้วนเพราะฮอร์โมนกับ 5 ปัญหาสุขภาพที่ทำลายหุ่นสวยให้พัง!

21 มี.ค. 60 18:03
วิธีลดความอ้วนเพราะฮอร์โมนกับ 5 ปัญหาสุขภาพที่ทำลายหุ่นสวยให้พัง!

วิธีลดความอ้วนเพราะฮอร์โมนกับ 5 ปัญหาสุขภาพที่ทำลายหุ่นสวยให้พัง!

วิธีลดความอ้วนเพราะฮอร์โมนกับ  ปัญหาสุขภาพที่ทำลายหุ่นสวยให้พัง!

เคยไหม? หลายครั้งที่เราพยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอก็แล้ว แต่ทว่าทำไมสัดส่วนตามร่างกายยังคงประกอบด้วยไขมันหรือมีเนื้อปลิ้นออกมาอยู่เหมือนเดิม อันที่จริงแล้ว สาวๆ หลายคนเมื่อพบปัญหานี้คุณอาจจะล้มเลิกการลดน้ำหนักไปเสียสนิท โดยหารู้ไม่ว่าร่างกายของคนเราสามารถมีไขมันสะสมจากฮอร์โมนภายในร่างกายที่มากเกินไปได้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ เรามาดูกันดีกว่านะคะว่าฮอร์โมนใดบ้างนะที่ทำให้ร่างกายของเราดูอวบอ้วน ลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ประสบความสำเร็จเสียที รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาทั้งการออกกำลังกายและการกินอาหาร สาวๆ คนไหนอยากเอาชนะไขมันสะสมจากฮอร์โมนได้ล่ะก็ อย่ารอช้า...รีบมาทำตามวิธีแก้ไขดังนี้กันเลยค่ะ

 

1.  เนื้อปลิ้นบริเวณขอบชุดชั้นในหรือเต้านม

เนื้อปลิ้นรอบเต้านมหรือขอบชุดชั้นใน มีฮอร์โมนสาเหตุมาจากไทรอยด์ โดยต่อมไทรอยด์ที่อยู่บริเวณลำคอจะมีหน้าที่ในการควบคุมการเผาผลาญพลังงานภายในร่างกาย หากไทรอยด์ทำงานต่ำลงไขมันก็จะสะสมตามสัดส่วนต่างๆ ได้มากขึ้น แต่กรณีของผู้หญิงเรานั้นมักจะพบไขมันสะสมตามบริเวณรอบชุดชั้นในนั่นเอง

วิธีแก้ไข 
ลดปริมาณกอยโทรเจนส์  ( Goitrogens)  อาหารที่มี กอยโทรเจนส์ จะทำให้ไทรอยด์ทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ เพราะฉะนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้วัตถุดิบอาหารที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าว เช่น พืชตระกูลกะหล่ำ ถั่วและพีช

- เลือกใช้น้ำมันคุณภาพ การเลือกใช้น้ำมันทำอาหารอย่างน้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันเมล็ดทานตะวันก็อาจทำให้การทำงานของไทรอยด์ถูกรบกวนได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น หากต้องใช้น้ำมันในการทำอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนล่ะก็ แนะนำให้เลือกใช้น้ำมันมะกอกแบบ  Extra-Virgin  สำหรับทำน้ำสลัด และในกรณีอาหารผัด ทอดก็ควรเลือกใช้ Light Extra-Virgin  ค่ะ

 

2.  ห่วงยางรอบเอว

ห่วงยางรอบเอวมีฮอร์โมนสาเหตุมาจากอินซูลิน  สำหรับหน้าที่ของอินซูลินนั้นคือ มันจะย้ายกลูโคสออกจากกระแสเลือดเพื่อไปเก็บไว้ใช้งานภายในเซลล์ของร่างกายต่อไป กลูโคสที่เหลือค้างอยู่ก็จะกลายมาเป็นไกลโคเจนในเซลล์ และระดับของอินซูลินนั้นก็จะเพิ่มขึ้นไปตามอายุของคนเรา และยิ่งหากเรากินแป้งมากขึ้น ระดับอินซูลินก็จะเพิ่มสูงตาม ทำให้เกิดเนื้อปลิ้นรอบเอวหรือที่เรียกกันว่าห่วงยางรอบเอวตามมา นอกจากนี้แล้ว ยังทำให้คุณมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภทที่  ได้ด้วย

วิธีแก้ไข  
แบ่งอาหารออกเป็นมื้อย่อย แต่กินบ่อยครั้ง  วิธีนี้จะช่วยรักษาระดับของกลูโคสในเลือดได้ แต่ต้องกินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำเท่านั้น

กิน โครเมียม  สำหรับแร่ธาตุชนิดนี้พบได้จากเนื้อไก่ จมูกข้าวสาลีและข้าวโพด กินแล้วมันจะช่วยรักษาระดับไขมันในเส้นเลือดได้

 

3.  พุงยื่น

พุงยื่นมีฮอร์โมนสาเหตุมาจาก คอร์ติซอล สำหรับฮอร์โมนชนิดนี้จะเพิ่มสูงขึ้นก็ต่อเมื่อคุณเกิดอาการเครียด เพราะเมื่อใดที่เราเครียด ร่างกายมันจะปล่อยน้ำตาลให้เข้ามาสู่กระแสเลือด ส่งผลให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น เมื่อน้ำตาลถูกขับออกมามากจะยิ่งทำให้เกิดการสะสมบริเวณหน้าท้อง บวกกับไลฟ์สไตล์ของคนที่ต้องนั่งทำงานไปวันๆ ไม่มีเวลาออกกำลังกายเพื่อให้เกิดการเผาผลาญ ทำให้เกิดน้ำตาลสะสมและทำให้มีปัญหาพุงยื่นได้ในที่สุด อีกทั้งเวลาเครียดเรามักจะหาทางบำบัดด้วยการกินของหวานผ่อนคลาย และนี่ก็คืออีกหนึ่งปัญหาที่ยิ่งทำให้พุงยื่นและมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

วิธีแก้ไข
- กินแมกนีเซียม
 เลือกกินอาหารที่มีแมกนีเซียม ได้แก่ ผักใบเขียว กล้วยหรือโยเกิร์ตค่ะ เพราะสารอาหารดังกล่าวจะช่วยกำจัดความเครียดและช่วยสร้างความผ่อนคลายให้แก่กล้ามเนื้อได้

- ผักผ่อนให้เพียงพอ  การนอนไม่พอได้ผ่านการวิจัยออกมาพบแล้วนะคะว่าจะทำให้ระดับคอร์ติซอลสูงขึ้นได้แบบข้ามวันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น จึงควรนอนให้เพียงพอวันละ  7 – 8  ชั่วโมง ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้

Lif

- ควบคุมปริมาณคาเฟอีน  เพราะมีการศึกษาพบว่าคาเฟอีนก็เป็นอีกสาเหตุที่จะช่วยเพิ่มระดับคอติซอลได้สูงเช่นกัน ดังนั้น เราจึงควรควบคุมคาเฟอีนให้ร่างกายรับเพียงวันละ  แก้วก็พอแล้ว หรือจะหันมาดื่มชาสมุนไพรอย่างชาคาโมมายล์แทนก็นับว่าดีทีเดียว

 

4. สะโพกใหญ่

สะโพกใหญ่มีฮอร์โมนสาเหตุมาจากเอสโตรเจน  ซึ่ง เอสโตรเจนนั้นเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่จะทำให้เกิดไขมันสะสมตามบริเวณสะโพกและต้นขาได้สูง และหากผู้หญิงคนไหนมีลูกแล้วสัดส่วนดังกล่าวก็อาจจะยิ่งขยายใหญ่มากขึ้นได้ โดยในสาวๆ ที่มีปริมาณฮอร์โมนนี้เยอะมากนั้น คุณสามารถสังเกตได้จากประจำเดือนที่มาเยอะ มากหรือมีขนาดหน้าอกที่ใหญ่มากนั่นเอง

วิธีแก้ไข
- กินอาหารออรแกนิกส์มากขึ้น  เนื่องจากผู้หญิงบางคนร่างกายอาจผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากกว่าปกติ อีกทั้งสารปรุงแต่งอย่างพลาสติกหรือสารที่มาจากเครื่องสำอางก็สามารถเข้ามาแทรกแซงฮอร์โมนภายในร่างกายได้ ทำให้เกิดการเข้าไปบล็อกการสร้างฮอร์โมนตามแบบธรรมชาติ จริงอยู่ที่เราไม่อาจป้องกันให้ร่างกายได้รับสารเคมีเหล่านี้ หากก็ลดความเสี่ยงได้ด้วยการเลือกกินอาหารออร์แกนิกส์ให้มากขึ้นและหลีกเลี่ยงอาหารแพ็กเกจที่มีสารเคมีเจือปนค่ะ

กินโพรไบโอติกส์  เพราะเอสโตรเจนนั้นจะถูกขับออกมายังลำไส้ แต่หลายครั้งหากมีสารนี้มากเกินไปมันก็จะเข้าไปบล็อกให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติขึ้นจนก่อให้เกิดอาการท้องอืดแน่นและมีปัญหาท้องผูกตามมา ดังนั้น คุณจึงควรกินอาหารที่มีโพรไบโอติกส์อย่างโยเกิร์ตมากขึ้น ซึ่งโยเกิร์ตนั้นจะมีเชื้อจุลินทรีย์ที่จะช่วยเสริมสร้างความสมดุลให้แก่แบคทีเรียในลำไส้และช่วยกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้นด้วยนั่นเอง

กินวิตามินบี  วิตามินบีเป็นสารอาหารที่จะช่วยเปลี่ยนเอสโตรเจนที่ยังค้างอยู่ในลำไส้ให้เกิดสภาพที่อ่อนตัวและย่อยสลายได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น จึงควรหามากินผักใบเขียว กล้วย ถั่วเหลืองและโฮลเกรนให้มากๆ

 

5.  ต้นแขนหย่อนคล้อย

ต้นแขนหย่อนคล้าย มีฮอร์โมนสาเหตุมาจากเทสโทสเทอโรน ปกติแล้ว นี่เป็นฮอร์โมนที่พบในผู้ชายเสียส่วนใหญ่ แต่ในผู้หญิงก็มีอยู่บ้างเล็กน้อยเช่นกัน โดยมันผลิตขึ้นจากต่อมหมวกไตและรังไข่ จึงสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อ กระดูก การทำงานของสมองและช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศได้สูง หากร่างกายได้รับเทสโทสเทอโรนไม่เพียงพอก็จะทำให้ท้องแขนมีความหย่อนยานไม่กระชับ และสาเหตุที่หนุ่มๆ ไม่มีปีกย้วยๆ ใต้แขนนั่นก็เพราะร่างกายของเขามีเทสโทสเทอโรนอยู่ปริมาณสูงนั่นเอง อย่างไรก็ดี หลังจากอายุ  40  ปีขึ้นไปแล้ว ฮอร์โมนนี้จะมีเหลืออยู่เพียงแค่ครึ่งเดียวจากช่วงอายุ  20  ปี จึงส่งผลให้ต้นแขนสาวๆ เกิดความหย่อนหยาน มีอาการเหนื่อยหน่ายง่ายและยังมีความต้องการทางเพศลดลงอีกด้วย

วิธีแก้ไข
- ควบคุมระดับน้ำตาล  เมื่อระดับกลูโคสในเลือดเพิ่มขึ้นสูง การผลิตเทสโทสเทอโรนก็ย่อมต่ำลง เพราะฉะนั้น จึงควรควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่ โดยลดการกินแป้งและน้ำตาล ให้หันมากินอาหารประเภทโฮลวีทหรือโฮลเกรนแทน

- เพิ่มโอเมก้า- แนะนำให้กินปลาทะเลอย่างปลาแซลมอน ปลาทูหรือแมคเคอรอล อย่างน้อยสัปดาห์ละ  ครั้ง สลับกันกับการกินปลาเนื้อขาว อย่างเช่น ปลากะพงหรือปลาเก๋า  ครั้งต่อสัปดาห์

- ยกน้ำหนัก  การออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักนับเป็นการบริหารกล้ามเนื้อที่ได้ผลดี โดยจะช่วยให้ระดับ เทสโทสเทอโรนเพิ่มสูงขึ้นได้ ซึ่งสาวๆ ควรออกกำลังกายและควรยกเวทอย่างน้อย  ครั้งต่อสัปดาห์

 

สำหรับ  ปัญหาภายในร่างกายที่มาพร้อมไขมันสะสมตามสัดส่วนต่างๆ หรือเกิดภาวะกล้ามเนื้อหย่อนยานไม่กระชับเหล่านี้ สาวๆ คงทราบดีแล้วว่ามันเกิดมาจากฮอร์โมนใดที่มากเกินไป เมื่อทราบดังนี้แล้ว ก็อย่าลืมหยิบเอาวิธีแก้ไขให้ตรงจุดไปใช้กันทุกวันนะคะ รับรองค่ะว่าการลดน้ำหนักคราวหน้าจะนำมาซึ่งผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจไม่น้อยแน่นอน



ที่มา:kalothailand

โพสต์โดย : Ao