หมู่บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็ก ในดินแดนแห่งหุบเขาแห่งปิล๊อก ตำบลหนึ่งในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมืองแห่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต หลังจากตำนานอันรุ่งโรจน์ได้ปิดตัวคงไว้ซึ่งหมู่บ้านอันแสนสงบที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และวิถีชีวิตมิตรไมตรีอันดีของชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวพม่าซึ่งเป็นลูกหลานของคนงานเหมืองแร่ในอดีตที่ที่สืบทอดเชื้อสายกันมาจนปัจจุบัน ที่นี่เหมือนมีมนต์สะกดให้นักท่องเที่ยวผู้โหยหาธรรมชาติเข้ามาสัมผัสความเป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์
หมู่บ้านอีต่อง เป็นทางผ่านและเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวมีจุดมุ่งหมายพิชิตยอดช้างเผือก ซึ่งจุดเริ่มเดินเท้าอยู่ภายในหมู่บ้านอีต่อง นอกจากนี้ยังเป็นจุดแวะสำหรับการท่องเที่ยวไปยังเส้นทางต่างๆในตำบลปิล๊อก เช่น เนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และอุทยานทองผาภูมิ ฤดูท่องเที่ยวที่คึกคักของหมู่บ้านก็คงไม่พ้นช่วงเดือน ต.ค. ที่เป็นช่วงที่เปิดให้พิชิตเขาช้างเผือกไปจนถึงฤดูหนาวที่อากาศแสนเย็นสบาย ช่วงเวลานี้ร้านค้าในหมู่บ้านเริ่มเปิดให้บริการกันอย่างคึกคัก ในช่วงฤดูฝนหมู่บ้านอีต่องก็น่ามาเที่ยวไม่แพ้ฤดูไหน ถึงแม้จะดูเงียบเหงาไปบ้าง แต่บรรยากาศก็เหมาะกับการมานอนเล่นพักผ่อน รอบหมู่บ้านจะถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกฝน และความเขียวขจีของภูเขาและต้นไม้ อากาศเย็นสบายมองไปทางไหนก็สดชื่น
หมู่บ้านอีต่อง มาจากคำว่า “หมู่บ้านณัตเอ็งต่อง” ซึ่ง “ณัต” แปลว่า เทพเจ้า หรือเทวดา “เอ็ง” แปลว่า บ้าน “ต่อง” แปลว่าภูเขา รวมกันแล้วจึงแปลได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่บนเขาเทวดา ต่อมาได้เรียกเพี้ยนเสียงกลายเป็น “หมู่บ้านอีต่อง” มาจนถึงทุกวันนี้ บ้านแต่ละหลังสร้างแบบเรียบง่ายและยังคงรูปแบบเดิมในอดีตเป็นบ้านไม้หลังคาสังกะสีบ้าง มุงกระเบื้องบ้าง
มีชื่น โฮมสเตย์ เราเลือกพักประจำเมื่อมาที่บ้านอีต่อง เพราะถูกใจในอัธยาศัยไมตรีของคุณป้าเจ้าของ และบ้านตัวบ้านพักสะอาดและสบาย บ้านพักมีหลายแบบถ้ามาหลายคนสามารถนอนพักเป็นบ้านหลังใหญ่มี 2 ชั้น ชั้นบนพักได้ทั้งหมด 12 คน ข้างนอก 10 คน และยังมีห้องเล็กๆข้างในซึ่งพักได้อีก 2 คน ราคาห้องละ 3500 บาท รวมอาหารเช้า
ห้องพักเล็กที่แยกส่วนออกไป เฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็น ที่นอน ที่วี ทุกอย่างที่ใช้ก็แสนจะธรรมดา แต่วิวที่ได้เห็นเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างไม่ธรรมดาสามารถมองเห็นวิวของหมู่บ้านได้รอบทิศ ยิ่งมาในช่วงฤดูฝนก็จะได้เห็นความเขียวขจีและสายหมอกปกคลุมทั้งหมู่บ้าน
บ้านอีกแบบเรียกว่า บ้านตอไม้ มีประมาณ 4 หลัง พักได้ 2 คน
มีร้านอาหารให้บริการตั้งอยู่ติดกัน ชื่อว่า ครัวสุดแดน รสชาติอาหารทุกเมนูอร่อยเลิศ ไม่ว่าจะเป็นปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ยำเห็ดสามอย่าง ต้มยำกุ้ง ผัดคะน้า กระเพราทะเล บ้านอีต่องอาหารขึ้นชื่อของเค้าคือ ปูทะเล ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมทำไมถึงอยู่บนภูเขาถึงมีปูทะเลและอาหารทะเลให้ทาน เพราะว่าหมู่บ้านอยู่ห่างจากทะเลอันดามันเพียง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางแค่ชั่วโมงกว่า ปูทะเล และกุ้งที่นำมาขายบริเวณตลาดอีต่องจึงสด และมีราคาถูก กิโลกรัมละประมาณ 200 -250 บาท
ร้านขายของที่ระลึก ตั้งอยู่ตรงข้ามกับมีชื่นโฮมสเตย์ ดูเหมือนว่าจะใหญ่และโดดเด่นที่สุดในหมู่บ้าน มีสินค้าให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปสการ์ด แม็กเนต ที่เสียบรูป เสื้อ กางเกงชาวเขา เครื่องเงินและพลอย
ใกล้กันก็เป็นร้าน ชาวเหมือง ขายเค้กเครื่องดื่มทั้งร้อนเย็นต่างๆ เค้กที่นำมาขายส่งตรงมาจากบ้านป้าเกล็น บ้านน้อยในป่าใหญ่ที่ขึ้นชื่อในความอร่อยของรสชาติเค้ก คุณป้าเจ้าของร้านบอกว่าขายหมดวันนี้ก็ต้องนั่งรถเข้าไปเอาเค้กมาขายต่อในวันพรุ่งนี้ ฟังคุณป้าแล้วก็พลันนึกถึงระยะทางเข้าไปบ้านเกล็นเป็นเส้นทางออฟโรดที่แอบโหดเอาเรื่องนั่งไปประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ขนาดเราแค่นั่งไปรอบเดียวยังเมื่อยเกร็งสุดๆ แล้วคุณป้าเข้าออกแทบทุกวันสุดยอดมาก เค้กขายชิ้นละ 60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับคุณภาพและรสชาติ ใครอยากลิ้มลองรสเค้กสูตรป้าเกล็นก็แวะมาทานที่หมู่บ้านอีต่องได้เช่นกัน
อีกหนึ่งร้านนั่งจิบดื่มกาแฟบรรยากาศกลมกลืนไปกับหมู่บ้าน
ร้านอาหารน้องหน่อย เป็นร้านขายอาหารตามสั่งต่างๆ
ร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ อีกหนึ่งร้าน
เดินไปชมด้านหน้าตรงทางเข้าหมู่บ้านกันบ้าง บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านเล็กๆประมาณ 50 หลังคาเรือน พื้นที่ไม่ได้กว้างมาก เดินเป๊บเดียวก็ทั่วหมู่บ้าน
ร้านกาแฟอีต่อง ซึ่งตั้งอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน สร้างแบบทันสมัยแต่ยังกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
ขับรถขึ้นไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็ถึงจุดชมวิวชายแดนไทยพม่า
ตรงจุดนี้ คือ พื้นที่ของเหมืองปิล๊อกในอดีตที่ทำให้หมู่บ้านอีต่อง กลายเป็นหมู่บ้านที่มีมากกว่า 1000 หลังคาเรือน มีผู้คนมากมาย คึกคัก มีชีวิตชีวา มีการแลกเปลี่ยนค้าขาย สถานบันเทิง โรงบ่อน และมีโรงหนังถึงสองโรง สำหรับคนงานที่มาทำงานในเหมืองต่างๆ นับพันคน จนกระทั่งเกิดวิกฤตการณ์ราคาแร่ตกต่ำทั่วโลก เหมืองจำนวนมากทยอยปิดตัวลง คนงานพากันอพยพไปหางานทำที่อื่น หมู่บ้านนี้จึงกลายเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบอีกครั้ง ปัจจุบันเห็นมีการก่อสร้างบ้านซึ่งไม่แน่ใจว่าจะใช้เป็นบ้านพัก หรือที่ทำการอะไรหรือเปล่า
โฮมสเตย์ในหมู่บ้านอีต่องมีประมาณ 5-6 แห่ง ซึ่งที่พักส่วนใหญ่ก็เป็นบ้านของชาวบ้านที่นำมาปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเป็นโฮมสเตย์เล็กๆ เก็บข้อมูลมาฝากว่ามีที่ไหนบ้าง ดูชื่อและเบอร์โทรได้จากในรูปภาพกันเลยเผื่อใครสนใจอยากมานอนเล่นซักคืน ที่แรก ณัต เอ่ง ต่อง เฮาส์
อีต่องโฮมสเตย์
อาร์ม โฮมสเตย์ กับบ้านทานตะวัน อยู่ติดกัน ด้านหลังมองเห็นวิวริมน้ำ
บ้านพักเหมืองในหมอกโฮมสเตย์ จะอยู่ท้ายหมู่บ้าน
เก็ท อิน พลีส อยู่ใกล้กับตลาดอีต่อง
เดินมาถึงตลาดอีต่อง ตั้งอยู่ตรงกลางหมู่บ้าน เป็นตลาดที่เหมือนกับร้านขายของชำทั่วไปมีอยู่ประมาณ 2-3 ร้าน มาช่วงฝนก็จะเงียบซักหน่อย เดินไปอีกนิดมีระเบียงยืนชมวิว ริมน้ำ มองสายหมอกที่ปกคลุมทั่วหมู่บ้าน บรรยากาศดีมาก
ถึงแม้ไม่มีขุมทรัพย์เป็นหมือนแร่หรือแหล่งขุดทองในหมู่บ้านอีกแล้ว แต่ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นหมู่บ้านแห่งความสุขที่มีแต่ขุมทรัพย์ธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ต้นไม้ ลำธาร และสายหมอก ที่รอให้นักท่องเที่ยวอย่างเรามาขุดขุมทรัพย์นี้ให้ชุ่มปอดกันอีกครั้ง
การเดินทางไปยังหมู่บ้านอีต่อง
โดยรถยนต์ จากตัวเมืองกาญจนบุรี – อำเภอทองผาภูมิ 146 กิโลเมตร จากตัวอำเภอทองผาภูมิ – เหมืองปิล๊อก ประมาณ 70 กิโลเมตร เริ่มจากถนนสายหลักตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปอำเภอไทรโยค – ทองผาภูมิ(หมายเลข 323) เส้นทางจะต่อกับเส้น 3272 เข้าอำเภอทองผาภูมิ วิ่งผ่านตัวอำเภอ (ตัวอำเภออยู่ทางขวา) เลียบอ่างเก็บน้ำในเขื่อนไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตร จะถึงสามแยกบ้านไร่-ปิล๊อก ให้เลี้ยวซ้ายไปทางปิล๊อก จากจุดนี้จะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมาประมาณ 13 กิโลเมตร มาถึงน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง เหมืองสมศักดิ์ เนินช้างศึก เส้นทางนี้จะไปสุดทางที่หมู่บ้านอีต่อง
เส้นทางจากทองผาภูมิไปยังตำบลปิล๊อกคดเคี้ยวและถนนแคบเลนเดียวแต่ทางไม่ชันมาก รถทุกชนิดสามารถขับได้ แต่ถนนบางช่วงชำรุด ทางไม่ค่อยดีเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ เพื่อความปลอดภัยควรใช้ขับรถด้วยความเร็วต่ำและระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
โดยรถประจำทาง
มีรถโดยสารสีเหลืองทองผาภูมิ – อีต่อง จอดตรงตลาดทองผาภูมิ รถออกเวลาประมาณ 10.30 น. ค่าโดยสารคนละ 70 บาท(หากนั่งรถบขส. 999 จากกรุงเทพฯ – ด่านเจดีย์สามองค์ ต้องขึ้นรถเที่ยว 5.00 น.)
– ออกจากหมู่บ้านอีต่อง มีสองเที่ยวคือ เวลาประมาณ 6.30 น. และ 7.30 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก
paiduaykan.com